จะเดินหน้ายังไง!! แค่ติดต่างโดนด่าหนักถึงขั้นเป็น อาชญากรทางปัญญา

เพจ Drama-addict ได้แชร์โพสต์ เรื่องราวนวนิยายของนักเขียนดังท่านหนึ่ง ท่าน วินทร์ เลียววาริณ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน*** ได้รับรางวัลซีไรต์ เกิดกระแสถล่มนักเขียนเป็นชุด ข้อหาคือนวนิยาย "บิดเบือนประวัติศาสตร์"

· 

อ่านตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นก็พอได้ยินข่าวบ้าง ว่าคนเขียนถูกสายประวัติศาสตร์ด่าเปิง ว่าบิดเบือนมั่งล่ะมั่วมั่งล่ะ แต่เพิ่งรู้ว่าเขาโดนด่าหนักขนาดนี้ อาชญากรทางปัญญากันเลยนะเนี่ย

แต่ภูมิใจเถอะคุณวินทร์ เพราะนิยายเล่มนี้แหละ ที่ทำให้เด็กไทยยุคนั้นจำนวนมาก สนใจและไปศึกษาประวัติศาสตร์ที่ว่างเปล่าจากโพเนกริฟที่หลงเหลืออยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในยุคนั้นกันแน่

-------------------

ซึ้งด้านเฟสบุค วินทร์ เลียววาริณ  ได้โพสต์ไว้ว่า.....................

พ.ศ. 2540 ไม่นานหลังจากนวนิยาย ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ได้รับรางวัลซีไรต์ เกิดกระแสถล่มนักเขียนเป็นชุด ข้อหาคือนวนิยาย "บิดเบือนประวัติศาสตร์"

ไม่นานก็มีคนเขียนแย้งความเห็นนั้น แจงว่า "อ่านไม่เป็นหรือไร มันเป็นนิยาย เข้าใจมั้ย นิยาย" กลายเป็นวิวาทะบนสื่อพักหนึ่ง

ตลอดเวลานั้น นักเขียนเก็บตัวเงียบ ไม่โต้แย้งอะไรเลย

ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ในเมื่อมันเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ ไม่ใช่สารคดี ถ้าแค่นี้แยกกันไม่ออก ก็ป่วยการอธิบาย

อย่างไรก็ตาม ในวิกฤติมีโอกาสเสมอ ผลของวิวาทะครั้งนั้นทำให้หนังสือ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ขายทะลุแสนเล่ม เกินเป้าไปไกล จนจัดเป็นหนังสือขายดีตลาดกาลเล่มหนึ่ง เหตุผลที่ขายดีคงเพราะคนทั่วไปอยากรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มันชั่วร้ายยังไง จึงด่ากันแรงถึงขั้นว่าผู้เขียนเป็น 'อาชญากรทางปัญญา'

แท้งกิ้ว เมนี ไทม์ส

พ.ศ. 2561 ประวัติศาสตร์กำลังซ้ำรอย โพสต์เรื่อง สามก๊กบนเส้นขนาน หลายตอนก่อเกิดวิวาทะกันยกใหญ่

เช่นเคย ผู้เขียนเงียบ ไม่โต้แย้งอะไรเลย

ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ในเมื่อมันเป็นสารคดีที่นำมาเล่าใหม่ ไม่ได้แต่งขึ้นใหม่ แค่ปรับภาษาให้สละสลวยและมีวรรณศิลป์ ถ้าแค่นี้แยกกันไม่ออก ก็ป่วยการอธิบาย

บทวิพากษ์จำนวนมากมุ่งไปที่คนเขียนมากกว่าเนื้อหา ทำให้นึกถึงสมัยสามก๊ก อาชีพที่เสี่ยงตายที่สุดอาจไม่ใช่แค่ทหาร หากคือทูต เพราะผู้ที่ถูกส่งตัวเป็นทูตไปเจรจาความเมือง อาจถูกฝ่ายที่ไปเจรจาจับตัดหัว เพียงเพราะไม่ชอบเนื้อหาที่นำมาส่ง

ก็เปรียบเหมือนบุรุษไปรษณีย์ไปส่งจดหมาย คนรับจดหมายไม่ชอบจดหมายที่อ่าน ก็จับบุรุษไปรษณีย์ตัดหัว

สามก๊กบนเส้นขนานก็เหมือนกัน ไม่มีอะไรใหม่เลยสักนิดเดียว แค่เรียบเรียงใหม่จากข่าวและบันทึกทั้งหลายที่เป็นเรื่องสาธารณะไปแล้ว ไฉนอ่านแล้ว 'หัวร้อน' ไปตัดหัว 'ทูต' ก็ไม่รู้

ทูตที่รู้งานจึงไม่หัวร้อนตามไปด้วย อยากด่าอยากระบายก็เชิญตามสบาย ขอร้องเพียงอย่างเดียวให้ช่วยด่าตอนที่หนังสือวางแผงด้วย คนทั่วไปจะได้เกิดความอยากรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มันชั่วร้ายยังไง จนแย่งกันไปซื้อ

ถ้าขายได้ถึงแสนเล่ม ก็จะเป็นพระคุณอย่างใหญ่หลวง จะได้หมดภาระผ่อนรถเบนท์ลีย์สักที

ถ้าขายได้ถึงแสนเล่ม ก็จะเริ่มโครงการ 'เลียดก๊กบนเส้นขนาน' 'ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซานบนเส้นขนาน' 'ผู้ชนะสิบทิศบนเส้นขนาน' 'มังกรหยกบนเส้นขนาน' 'แปดเทพอสูรมังกรฟ้าบนเส้นขนาน' 'ฤทธิ์มีดสั้นบนเส้นขนาน' 'เพชรพระอุมาบนเส้นขนาน' 'ประเทศกูมีบนเส้นขนาน'

เพราะรถเบนท์ลีย์รุ่นใหม่สวยจัง น่าจับจองเป็นเจ้าของอีกสักคันสองคัน

.………………..

วินทร์ เลียววาริณ

***ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน เป็นหนังสือของ วินทร์ เลียววาริณ วางจำหน่ายใน พ.ศ. 2537 และได้รางวัลซีไรต์ใน พ.ศ. 2540^[1] ฉบับภาษาอังกฤษให้ชื่อว่า (Democracy, Shaken & Stirred) วางจำหน่าย พ.ศ. 2546 เป็นนิยายเชิงการเมืองไทย โดยดำเนินเรื่องตามการปฏิวัติในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2475 จนถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬใน พ.ศ. 2535 ตัวละครหลักในเรื่องเป็นตัวละครสมมติ แต่มีการใช้บุคคลในประวัติศาสตร์มากมาย วินทร์ได้ใช้ลักษณะการเขียนแบบเดียวกันนี้ในนิยายอีกเรื่องของเขา คือ ปีกแดง (พ.ศ. 2545) เพียงแต่เป็นเรื่องของลัทธิคอมมิวนิสต์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

งั้นคงต้องมี อาชญากรทางไร้ปัญญา เสมอกัน ประเทศกูมี หลาว