บุรุษพยาบาลเยอรมัน ฉีดยาเกินขนาดให้คนไข้จนตาย เพื่อช่วยคืนชีพ หวังได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงาน
อดีตบุรุษพยาบาลเยอรมัน ฆ่าคนไข้ด้วยการฉีดยาเกินขนาดทำให้หัวใจคนไข้ในความดูแลล้มเหลว เพื่อจะได้ช่วยชีวิตขึ้นมา เพียงแค่หวังอยากได้รับการชื่นชมจากเพื่อนร่วมงาน คดีดังกล่าวถือเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ใหญ่สุดในเยอรมนีในประวัติศาสตร์ยุคหลังสงครามโลก
ศาลในเมืองโอลเดนเบอร์ก ทางเหนือของเยอรมนี เปิดการพิจารณาคดีเป็นรอบที่สาม ต่อนายนีลส์ เฮอเกล อดีตบุรุษพยาบาลที่กลายเป็นฆาตกรฆ่าคนไข้ที่อยู่ในความดูแลจำนวนมาก
เฮอเกล วัย 41 ปี รับโทษจำคุกมาแล้ว 10 ปีจากคำตัดสินลงโทษตลอดชีวิตฐานฆาตกรรมคนไข้จำนวนหนึ่ง แต่การสอบสวนเพิ่มเติมในเวลาต่อมาพบเหยื่อมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยถึงหลักร้อย จึงนำมาสู่การเปิดการพิจารณาคดีอีกครั้งเมื่อวานนี้เป็นนัดแรก
การพิจารณาคดีวานนี้ เริ่มต้นด้วยการสงบนิ่งไว้อาลัยเหยื่อ 1 นาที เฮอเกลก้มศีรษะลงเล็กน้อยขณะอัยการอ่านชื่อคนไข้ที่ตายจากน้ำมือของเขา และข้อกล่าวหาว่า มีคนไข้อย่างน้อย 36 คน ถูกฆาตกรรมที่โรงพยาบาลในโอลเดนบวร์ก ที่เฮอเกลเคยทำงานอยู่ และอีก 64 คนเป็นเหยื่อของเขาที่คลินิกอีกแห่งในเมืองเดลเมนฮอร์สต์ ช่วงปี 2543-2548 เหยื่ออายุ 34-96 ปี
เมื่อผู้พิพากษาถามคำถามแรกต่อจำเลยว่าข้อกล่าวหาเป็นจริงหรือไม่ เฮอเกลตอบเงียบๆว่า ใช่
อดีตบุรุษพยาบาลรายนี้ ฉีดยาที่ทำให้คนไข้เกิดอาการหัวใจล้มเหลว หรือระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว เพื่อที่เขาจะได้พยายามช่วยชีวิตพวกเขาขึ้นมา หากประสบความสำเร็จก็จะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตในสายตาของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา
ในการสอบสวนคดีนี้ ต้องมีการขุดศพคนไข้กว่า 130 รายที่ตายขณะอยู่ในความดูแลของบุรุษพยาบาลฆาตกร ตำรวจ ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในประวัติศาสตร์เยอรมนี จำเลยให้การว่าเขาลงมือฆ่าเพราะความเบื่อหน่ายและเกิดความรู้สึกปลาบปลื้มเวลาที่สามารถยื้อชีวิตคนไข้ไว้ได้
ผู้พิพากษากล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของการพิจารณาคดีเพื่อให้เกิดความกระจ่างขอบข่ายฆาตกรรมที่เกิดขึ้นยาวนานหลายปีโดยไม่มีใครรู้ ที่โรงพยาบาลสองแห่งได้อย่างไร ซึ่งผู้พิพากษาเปรียบว่า เหมือนบ้านหลังหนึ่งที่มีแต่ห้องมืด เราต้องการแสงสว่างในความมืด
คริสเตียน มาร์บัค หนึ่งในโจทก์ร่วมกว่า 100 คน กล่าวว่า นี่คือเรื่องอื้อฉาวที่เฮอเกลฆ่าคนได้แบบลอยนวลและเป็นเวลานานโดยโรงพยาบาลไม่ระแคะระคาย หรือไม่มีหน่วยงานกฎหมายใดแทรกแซง
ในการพิจารณาก่อนหน้า เฮอเกล กล่าวในศาลว่า เขาประหลาดใจที่ผู้บังคับบัญชาที่โรงพยาบาลโอเดนบวร์ก ขอให้เขาลาออกปลายปี 2545 โดยแจ้งว่าเขาจะได้หนังสือรับรองเชิงบวกในการหางานใหม่ และออกค่าใช้จ่ายวันหยุดหากยินยอมออกโดยสมัครใจแต่อีกฝ่ายไม่เคยบอกตรงๆว่าอยากให้ออกเพราะอะไร
เหตุฆาตกรรมคนไข้ถูกเปิดเผยครั้งแรกเมื่อปี 2548 เมื่อพยาบาลคนหนึ่งเห็นกับตาว่าเฮอเกลพยายามฉีดอะไรบางอย่างให้คนไข้ที่โรงพยาบาลเดเมนฮอร์สต์ โชคดีคนไข้รายนั้นรอดชีวิต ขณะที่ฆาตกรถูกจับกุมตัวทันที
ต่อมาในปี 2551 ศาลตัดสินลงโทษเฮอเกล จำคุก 7 ปีครึ่ง จากความผิดพยายามฆ่า และเมื่อเป็นข่าวออกไปสตรีคนหนึ่งติดต่อตำรวจเพราะสงสัยว่ามารดาของเธอที่จากไปน่าจะเป็นเหยื่ออีกรายของบุรุษพยาบาลมรณะ ซึ่งก็สอดคล้องกับที่เจ้าตัวไปคุยกับเพื่อนนักโทษและบอกนักจิตวิทยาว่า เขาลงมือฆ่าเหยื่อมากกว่าที่รับรู้
เมื่อครั้งถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในปี 2558 เวลานั้นก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า เขาลงมือฆ่าคนไข้อีกมากมาย พนักงานสอบสวนระบุว่ายอดเหยื่ออาจแตะ 200 ศพ แต่อาจไม่มีทางรู้จำนวนได้อย่างแน่นอน เพราะเหยื่อบางรายได้รับการฌาปนกิจแล้ว
คดีดังกล่าวถือเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ใหญ่สุดในเยอรมนีในประวัติศาสตร์ยุคหลังสงครามโลก