ปิดคดี! หญิงอังกฤษไม่ได้ถูกข่มขืนบนเกาะเต่าเพราะไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนัก

เพจ   Drama-addictโพสต์ข่าวสั้นว่า ...สรุป เสื้อผ้านักท่องเที่ยว ไม่พบคราบอสุจิ ไม่พบพยานหลักฐานใหม่ จบข่าว

คลิป #สตช.แถลงคดีแหม่มเกาะเต่า จากกรณีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2561 ได้มีการนำเสนอข่าวว่ามีนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษถูกข่มขืนโดยชายไม่ทราบชื่อ ที่ริมหาดเกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี นั้น 
ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. (รอง ผบช.ทท. ในขณะนั้น) สืบสวนติดตามคนร้ายพร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายในคดี 
โดยคดีนี้การสืบสวนสอบสวนได้เสร็จสิ้นแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. 
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวผลการสืบสวนสอบสวนปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดี

จากข่าวคดีที่หญิงสาวชาวอังกฤษ อ้างว่า ถูกข่มขืนและลักทรัพย์บนเกาะเต่า โดยเบื้องต้น จากการส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำผู้เสียหายที่ประเทศอังกฤษ 

ตำรวจได้ส่งพนักงานสอบสวนไปอังกฤษ ช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และเดินทางกลับถึงไทย เมื่อวันที่ 6 ต.ค.61มีรายงานว่า ผลการตรวจสอบหลักฐานที่อ้างว่ามีคราบอสุจิ จากการถูกข่มขืน สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ. ตรวจสอบ ไม่พบคราบอสุจิติดอยู่ และจากการสรุปสำนวนการสอบสวนสองครั้ง ยังไม่พบว่าคำให้การของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ มีน้ำหนักว่าถูกคนร้ายวางยาและข่มขืน

บางท่านคอมเม้นตืว่า " คดีอาญาเมื่อมีคนกล่าวหา/กล่าวโทษ
พนักงานสอบต้องเริ่มต้นขบวนการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน แล้วสรุปผลการสอบสวนมีความเห็นทางคดี ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณามีความเห็นว่า ยุติการสอบสวน งดการสอบสวน ควรสั่งฟ้อง/ไม่ฟ้อง หรือสั่งสอบสวนเพิ่มเติมอีก ตำรวจจะยุติเองเลยไม่มีใน ป.วิอาญา ให้ปฏิบัติได้"