ศิลปินหนุ่มใหญ่ ขอเปิดใจทำไมถึงกลายเป็น “มนุษย์ถ้ำ”

ศิลปินหนุ่มใหญ่ ขอเปิดใจทำไมถึงกลายเป็น “มนุษย์ถ้ำ”

มนุษย์ถ้ำบนเกาะพะงัน เผยไม่หวั่นโซเชียลวิจารณ์ พร้อมนำผู้สื่อข่าวชมภายในถ้ำที่ตกแต่ง นายอำเภอเกาะพะงันขอให้มนุษย์ถ้ำทำสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อวันที่ 4ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายจตุรภูมิ หรือ ทูน โลศิริ อายุ 48 ปี หรือ มนุษย์ถ้ำ ซึ่งถ้ำดังกล่าวตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยนายจตุรภูมิได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางเลาะชายหาดแม่หาด ที่ติดกับเกาะคอม้า ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะพะงัน ที่มีธรรมชาติใต้ท้องทะเลที่สวยงามแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ โดยได้นำผู้สื่อข่าวเดินขึ้นไปชมภายในถ้ำ ซึ่งเป็นการขุดโดยมนุษย์เพื่อหาแร่ดีบุกในอดีต...

ซึ่งภายนอกและภายในได้มีการนำวัสดุธรรมชาติมาตกแต่งบริเวณปากถ้ำเช่น การนำทุ่นที่ผูกกับเรือประมงที่หลุดลอยมาติดชายหาด และวัสดุ รวมถึงซากปะการังที่แตกหัก เปลือกหอยหลากหลายชนิด ที่สามารถนำมาตกแต่งได้อย่างมีศิลปะสวยงาม พื้นถ้ำปูด้วยก้อนหินหลากหลายขนาด และมุมที่นอนที่ถูกออกแบบไว้อย่างลงตัว พร้อมด้วยเตาที่ใช้สำหรับทำอาหาร ก็ทำมาจากดิน ที่ปั้นด้วยมือของนายจตุรภูมิ ซึ่งเจ้าตัวแนะนำสิ่งของที่ตกแต่งภายในถ้ำอย่างภาคภูมิใจ และนายจตุรภูมิได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการเข้ามาอยู่อาศัยภายในถ้ำลักษณะนี้ว่า “แม่และพี่น้องมีความเป็นห่วงหรือไม่ นายจตุภูมิ กล่าวว่า ตนเองกับแม่เพิ่งได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์กันวันนี้ โดยแม่โทรมาบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพ่อ ซึ่งก็ได้ตอบแม่ไปว่า ตนเองได้อวยพรวันเกิดพ่อทางข้อความผ่านโทรศัพท์ให้พ่อไปแล้ว...

ส่วนการที่มาอาศัยอยู่ในถ้ำนั้น แม่รู้แล้ว ซึ่งแม่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะรู้ว่าสามารถอยู่ได้ ซึ่งแม่ได้เลี้ยงตนเองมาแบบตามใจ ให้ช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ แม่และครอบครัวจึงไม่มีความเป็นห่วง...

“การที่เดินทางมาอยู่ที่นี่นั้น เพราะชอบเกาะพะงัน ประกอบเพื่อนๆ ได้ชวนมาตั้งวงดนตรี แต่ไม่นานวงดนตรีก็แตกไปตามวาระของมัน หลังจากที่วงดนตรีแตกแล้ว ตนเองก็ไม่มีตังค์ซื้อข้าวกิน ก็ได้อาศัยวิชาที่เรียนมาคืองานศิลปะ ด้วยการวาดภาพเหมือนตามสถานที่ท่องเที่ยว และตามถนนคนเดิน เพื่อแลกกับข้าวหนึ่งมื้อ บางครั้งวาดภาพเหมือน แลกกับกาแฟ”

ซึ่งนายจตุรภูมิ ยังพูดติดตลกว่า บางครั้งก็เกือบจะวาดภาพเหมือน เพื่อแลกกับน้ำมันเติมรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของตนเอง การที่มาอยู่ในถ้ำนั้น เพราะเพื่อนชาวเยอรมันชวนให้มาอยู่ด้วยกัน ซึ่งที่จริงแล้วถ้ำนี้ตนเองพบก่อนประมาณสามปีก่อน แต่ยังไม่ได้คิดมาอาศัยอยู่ ซึ่งหลังจากที่เพื่อนชาวต่างชาติชวนมาอยู่ ก็ได้มาอาศัยอยู่ในถ้ำนี้ประมาณเจ็ดถึงแปดเดือนแล้ว ซึ่งในปัจจุบันได้ประกอบอาชีพด้วยการวาดภาพตามสถานที่ต่างๆ เช่น วาดภาพตกแต่งผนัง และเพดานตามโรงแรม และรีสอร์ต ร้านอาหาร รวมถึงโฮสเตย์ ซึ่งจะได้ค่าจ้างตามชิ้นงาน บางครั้งได้สูงหลักแสนบาท บางงานได้แค่หลักร้อยบาท แล้วแต่ชิ้นงาน...

สำหรับผู้หญิงที่พามานอนด้วย ที่ตนเองได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวนั้น ไม่มีการบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด เพราะการที่จะมีอะไรกันนั้น จะต้องเกิดจากความเต็มใจ บางครั้งผู้หญิงต่างชาติที่มานอนด้วย ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ ตนเองก็ไม่ทำ บางครั้งก็ได้แค่กอดกัน ซึ่งการนำผู้หญิงชาวต่างชาติมานอนในถ้ำ เกิดจากการพูดคุยทำความเข้าใจระหว่างกัน ซึ่งบางคนได้แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กพร้อมตั้งฉายาให้ตนเองว่า “ไม่ใช่มนุษย์ถ้ำ แต่เป็นมนุษย์ซั่ม”

โดยนายจตุรภูมิกล่าวขอบคุณเจ้าของที่ดิน ที่ตนไม่รู้ว่าเป็นใคร ที่ตนได้เข้ามาอาศัยอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ และทำให้ตนเองมีชีวิตที่สนุกสนาน โดยได้อวยพรให้เจ้าของที่ดินหรือญาติของเจ้าของที่ดิน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีความสุขความเจริญ จากนั้นได้โชว์ความสามารถทางดนตรีด้วยการเป่าทรัมเป็ต ท่ามกลางบรรยากาศวิวทะเลของเกาะพะงัน และภาพของเกาะคอม้า และทางด้าน นายเกริกไกร สงธานี นายอำเภอเกาะพะงัน กล่าวถึงเรื่องมนุษย์ถ้ำว่า จากตรวจสอบประวัติพบว่า เป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานคร จบการศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบ และจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ตามที่เป็นข่าว...

ซึ่งถ้ำที่นายจตุรภูมิอาศัยอยู่นั้นเป็นที่เอกชน ซึ่งอำเภอเกาะพะงันได้ทำหนังสือสอบถามไปยังเจ้าของที่ดินแล้วว่า จะยังคงให้นายจตุรภูมิอาศัยอยู่ต่อไปหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างรอคำตอบจากเจ้าของที่ดิน การอาศัยอยู่ในถ้ำดังกล่าว ขออย่าทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ส่วนการที่พาหญิงสาวชาวต่างชาติไปนอนด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม้มีการร้องเรียนหรือแจ้งความเอาผิด เพราะถ้ามีการร้องเรียนหรือแจ้งความ เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินการเอาความผิดทางกฎหมายได้ ที่ผ่านมาคาดว่าเป็นความประสงค์ของนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ล่อแหลมและเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและได้ทำความเข้าใจพร้อมพูดคุยกับนายจตุรภูมิ และที่สำคัญเจ้าของที่ดินไม่ติดใจอะไร จากการที่นายจตุรภูมิเข้าไปอาศัย เพราะไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย...