รีสอร์ตป่ามะพร้าวที่อัมพวา – เรื่องเล่าสยองขวัญ
ต้องบอกก่อนว่าตัวเราเป็นคนกลัวผีมากๆ และยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรพวกนี้เลย เรื่องนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เราเจอเหตุการณ์แปลกๆ
เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณเดือน ตุลาคม ปีที่แล้ว ทางบริษัทที่เราทำงานอยู่จัดไป Outing ที่อัมพวา จ.สมุทรสงคราม วันเดินทางเราและเพื่อนๆ ที่ทำงานก็นั่งรถตู้ไปจากที่สำนักงาน (สระบุรี) แล้วไปเจอกับสำนักงานใหญ่ (กรุงเทพฯ) ก็กินอาหารกลางวันกันเสร็จ ก็ตรงไปที่พักเลย ทางเข้าจะลึกๆ หน่อย ผ่านดงมะพร้าว สวนต่างๆ พักใหญ่ๆ ก็ถึงรีสอร์ต
โดยรีสอร์ตจะอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ลักษณะที่พักจะเป็นตึก 2 ชั้น แล้วแยกเป็นห้องๆ ไป เราได้นอนกับน้องผู้หญิงอีกคนหนึ่ง (ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากว่าเรากับน้องคนนี้เกิดวันที่เดียวกัน เดือนเดียวกัน แต่คนละปี) เราพักกันที่ชั้น 2 ห้องจะเป็นเตียงคู่ คือเปิดประตูมาขวามือจะเป็นห้องน้ำ แล้วถัดมาเป็นเตียงนอน 2 เตียง เรานอนติดระเบียง น้องนอนฝั่งติดห้องน้ำ
วันแรกก็พักผ่อนกันไป กินอาหารเย็นเสร็จ ค่ำๆ พวกเราก็มานั่งเล่นในห้องสักพักก็เตรียมตัวอาบน้ำนอนกัน ประมาณ 4-5 ทุ่ม พวกเราก็ปิดไฟนอน เปิดไฟหน้าห้องน้ำไว้ดวงหนึ่งสีส้มๆ ก่อนนอนเรากับน้องก็สวดมนต์ไหว้พระบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง แล้วก็หลับกันไป
แล้วเราก็ฝัน ฝันว่าเรานอนอยู่ในห้องนั้นแหละ นอนกับน้องคนนี้ด้วย ในฝันเรานอนไม่ค่อยหลับ เหมือนโดนอำโดนกวน เราเลยตื่นขึ้นมาแล้วเรียกน้อง บอกว่า (สมมติชื่อเอ) “เอ…เอ…” ยังไม่ทันพูดอะไรน้องมันก็ลืมตายิ้มๆ ละบอกว่าเป็นไรนอนไม่หลับเหรอ เราเลยบอก อือ น้องมันเลยบอกว่า เอ้านี่พระ น้องก็ยื่นเหรียญพระมาให้ เราก็รับพระมาจากน้องแล้วก็กำพระไว้ในมือ ขดตัวนอนหันข้างซ้ายไปทางที่น้องนอนอยู่ กำพระไว้ใต้หมอน รู้สึกอุ่นใจละ (อันนี้คือที่เราฝันทั้งหมดนะ)
สักพักเราตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉี่ เรานอนหงายปกติ ในมือไม่มีอะไร เราก็แบบ เฮ้ย! ฝันเหรอ ทำไมเหมือนจริงมาก เราเลยเดินไปฉี่แล้วกลับมานอน พอเคลิ้มๆ หน่อยกำลังจะหลับ ทีนี้ล่ะ เราได้ยินเสียงคนกรีดเล็บกับที่นอนฝั่งติดกับหัวนอนเรา คือเรานอนหงายนะ แล้วเสียงกรีดเล็บมาจากทางขวา เสียงใกล้หูเรามากกก ใครนึกไม่ออกลองเอาเล็บกรีดที่นอนหรือหมอนดู เสียงดัง “แควก…แควก…” ตอนแรกก็ช้าๆ เราก็แบบอึดอัดเหมือนโดนอำ คือขนคอลุกไปหมด ตัวแข็ง ตอนแรกเราพยายามจะเออปล่อยไปละหลับต่อ แต่คือเสียงกรีดเล็บดังรัวๆ เลยทีนี้ เหมือนไม่อยากให้เรานอนอ่ะ “แควกๆๆๆ” เสียดแก้วหูมาก เราก็ดิ้นๆ จนหลุดจากตรงนั้น
ลืมตาขึ้นมาแบบกลัวมาก ร้อนเลยทั้งที่เปิดแอร์ เหงื่อแตก หยิบโทรศัพท์มาดูเวลา ตีสามกว่า เลยไลน์ไปหาแฟน บอกว่าเหมือนจะโดนแล้วอ่ะ แต่ยังไม่กล้าเล่า แฟนบอกให้ปลุกน้องเอ เราก็เกรงใจน้อง น้องหลับสนิทเลย แต่ความกลัวมากกว่า เลยเรียกน้องเบาๆ น้องก็งัวเงียตอบมา เราเลยบอกว่าพี่นอนไม่หลับขอเปิดทีวีนะ ยังไม่กล้าเล่า กลัวน้องจะกลัว ก็เปิดทีวีทิ้งไว้เบาๆ แล้วนอนเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ เราก็ไม่กล้าหลับเลยกลัวมาก ประมาณตีห้าได้มั้งเราถึงงีบไปหน่อยนึง
ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำกันเตรียมตัวไปทำกิจกรรม ระหว่างนั้นเราก็เลยเล่าให้น้องฟังว่าเราฝันแบบนี้ ได้ยินเสียงแบบนี้นะ น้องก็ถามว่าจริงเหรอพี่! หนูก็ฝัน
น้องฝันว่านอนอยู่ในห้องนั้นแหละ นอนกับเราแบบนั้นเป๊ะ แต่น้องเห็นเราอ่ะคุยกับผู้หญิงอยู่บนเตียงนั้น เหมือนคนรู้จักกัน ดูยิ้มแย้มดี รู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นจะนอนอยู่กับเราด้วย (ถ้าจำไม่ผิด) แล้วสักพักใหญ่ก็เห็นว่าในห้องมีผู้ชายผู้หญิงแก่ๆ กับเด็ก มาชะโงกมองพวกเราที่นอนอยู่จากหน้าห้องน้ำ คือพวกเขาไม่ได้เลยจากเขตนั้นมาบริเวณเตียงเลย น้องก็กลัวและคิดว่าต้องไม่ใช่คนแน่ๆ เลยบอกไปว่าอย่าเข้ามาทำอะไรพวกเราเลย เดี๋ยวทำบุญไปให้ สักพักก็หายไป
น้องบอกว่าตอนที่เราเรียก น้องก็ฝันแล้ว และคิดว่าเราต้องเจออะไรแน่ๆ แต่ยังไม่กล้าถามเหมือนกัน ต่างคนต่างกลัวว่าอีกฝ่ายจะกลัว เรานี่ขนลุกเลย วันนั้นตอนเช้า เรื่องเราก็เป็นเรื่องเม้าท์กันให้แซ่ดของคนที่บริษัท เล่าเป็นสิบๆ รอบ เราเลยพากันไปขอธูปเทียนจากคนงานรีสอร์ต แล้วไปไหว้ศาลพระภูมิ ที่แปลกคือ ที่นี่มีศาลเจ้าแม่อะไรสักอย่างมีชุดไทยแขวนไว้เพียบเลย เราก็ไปไหว้ด้วย
วันนั้นก็ทำกิจกรรมกันไป ตอนเย็นไปล่องเรือดูหิ่งห้อยกับเที่ยวตลอดอัมพวา พอกลับมาก็ยังหวั่นๆ แต่ก็เอาน่าไหว้แล้วอะไรแล้ว เราไม่ได้หลบหลู่ คืนนั้นก็ไม่มีอะไร แต่อาจจะเพราะเรากลัวแหละ เลยนอนไม่ค่อยหลับ หลับๆ ตื่นๆ จนเช้า ก็เดินทางกลับกัน
แต่เราก็ไม่ได้คิดจะไปสืบหาที่มาที่ไปอะไรยังไงนะ เพราะคิดว่าเราเป็นคนต่างถิ่นไป เขาอาจจะมีเจ้าที่เจ้าทางหรืออะไรดูแลอยู่ ไม่ไปก้าวก่ายดีกว่า ห้องที่เรานอนเลขห้อง 211 ค่ะ ห้องสวยดี แต่ไม่คิดว่าจะมีของแถม ฮ่าๆ
ติดตามเรื่องหลอนได้ที่แนล (https://goo.gl/i7DmYH)