ส่งรถอื่นให้บริการแทนแท็กซี่สนามบินที่ขู่หยุดวิ่ง 14 ก.ย.นี้หากไม่ขึ้นค่าเซอร์ชาจ 100 บาท

อธิบดีกรมขนส่งประสาน ทอท.เตรียมส่งรถอื่นทดแทนกรณีรถแท็กซี่สนามบินขู่หยุดให้บริการวันที่ 14 ก.ย.นี้ หลังยื่นข้อเรียกร้องต่อกระทรวงคมนาคมขอปรับค่าเซอร์ชาจจาก 50 บาทเป็น 100 บาท และขอลดโทษกรณีไม่กดมิเตอร์ แจงสาเหตุเคลื่อนไหวเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่ารถแท็กซี่ไฟฟ้าวีไอพีที่เข้ามาตั้งแต่ 9 ก.ย.นี้

14 กันยายน 2561-นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเท็กซี่แวน สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ประมาณ 1,000 คัน ออกมาเคลื่อนไหว ยื่นข้อเรียกร้องขอปรับค่าเซอร์ชาจ จาก 50 บาท เป็น 100 บาทและขอให้ลดโทษกรณีไม่กดมิเตอร์บริการผู้โดยสาร หากกระทรวงคมนาคมไม่พิจารณาข้อเรียกร้องในวันนี้ ก็จะหยุดรถวิ่งให้บริการ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ผู้แทนสมาชิกกลุ่มแท็กซี่ขนาดใหญ่ หรือ แท็กซี่แวน 50 คน ได้รวมตัวชุมนุม เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง และเสนอปัญหากับ ทอท. โดยได้ยื่นขอปรับเพิ่มค่าเซอร์ชาร์จ หรือ ค่าบริการจอดรอรับผู้โดยสารที่สนามบิน เพิ่มจากเที่ยวละ 50 บาท เป็น 100 บาท

เนื่องจากปัจจุบัน สนามบินสุวรรณภูมิ อนุญาตให้รถแท็กซี่วีไอพี ตามโครงการส่งเสริมใช้รถไฟฟ้ากรมการขนส่งทางบก เข้ามาจอดให้บริการภายในสนามบินตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. โดยอนุญาตให้เก็บค่าเซอร์ชาร์จ เที่ยวละ 100 บาท ซึ่งสูงกว่าแท็กซี่แวน ที่ได้เที่ยวละ 50 บาท กลุ่มแท็กซี่มองว่า ไม่เป็นธรรม เพราะแท็กซี่ทั้ง 2 ประเภท มีบริการที่ไม่แตกต่างกัน

เกี่ยวกับข้อเรียกร้องดังกล่าว อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวว่า เรื่องการปรับค่าแท็กซี่ต้องรอก่อน เพราะการพิจารณาโครงสร้างค่าโดยสารในส่วนของผู้ประกอบการรถแท็กซี่ขณะนี้ ได้ว่าจ้างให้สถาบันวิจัย ทีดีอาร์ไอ ทำการศึกษา และรอผลสรุปเป็นทางการ ยังไงก็ตามโดยหลักการยืนยันว่าบริการรถแท็กซี่เป็นบริการทางเลือกของผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นบริการรถแท็กซี่ไฟฟ้า หรือรถแท็กซี่ประเภทใดถือเป็นรถสาธารณะ  ที่ควรได้รับสิทธิ์ในการเข้าบริการในพื้นที่สนามบินและทุกแห่งได้อย่างเสรี โดยอัตราค่าเซอร์ชาร์ตนั้น ก็แล้วแต่ผู้โดยสารพิจารณาเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับความต้องการ

สำหรับการลดโทษกรณีให้บริการโดยไม่กดมิเตอร์นั้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบกแจ้งว่า ทำไม่ได้สำหรับการงดเว้นลดโทษให้แก่แท็กซี่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เนื่องจากเป็นโทษที่มีระบุอยู่ในกฎหมาย และต้องใช้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมกับผู้ให้บริการทุกราย

ส่วนกรณีที่มีการขู่ว่าจะหยุดให้บริการนั้น  หากบริการรถแท็กซี่ในพื้นที่สนามบิน มีรถไม่เพียงพอ ทอท. สามารถประสานมาที่กรมการขนส่งทางบกได้อยู่แล้ว ยืนยันว่าปัจจุบันนี้รถแท็กซี่มีอยู่ในระบบกว่า 70,000 คัน สามารถประสานจัดรถเข้าไปให้บริการได้

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ระบุว่าฝ่ายจัดการบริการรถโดยสารสาธารณะของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีการประชุมหารือประเด็นดังกล่าวในช่วงเช้านี้ ส่วนประเด็นที่มีการขู่หยุดวิ่งให้บริการ จะส่งผลกระทบต่อการให้บริการรถเข้าออกสนามบินของผู้โดยสารหรือไม่นั้น ยืนยันว่ารถแท็กซี่โดยสารเป็นบริการทางเลือก โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีระบบขนส่งสาธารณะที่หลากหลายพร้อมให้บริการ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของผู้ประกอบการแท็กซี่แวนสุวรรณภูมิ ยังนิ่งเงียบไม่ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเนื่องจากภายหลังจากการหารือและยื่นขอเรียกร้องแก่ผู้บริหาร ทอท. ที่จัดการรถโดยสารสาธารณะของสุวรรณภูมิแล้ว และได้มีการนำส่งข้อเรียกร้องของกลุ่มแท็กซี่แวนไปยังกระทรวงคมนาคมเรียบร้อย กลุ่มผู้ประกอบการจะรอข้อสรุปที่กระทรวงคมนาคมพิจารณาก่อนจึงจะเคลื่อนไหวต่อไป 

ขณะที่สาเหตุหลักการออกมาเคลื่อนไหว มาจากกรณีที่รถแท็กซี่ใช้พลังงานไฟฟ้ามีการเข้ามาให้บริการในพื้นที่และเก็บค่าเซอร์ชาร์ท 100 บาท ผู้ประกอบการรถแวนที่อ้างว่า ต้นทุนให้บริการสูงจึงขอปรับค่าเซอร์ชาร์ตด้วย โดยที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกได้เคยมีการออกประกาศ ค่าเซอร์ชาร์ตของรถแท็กซี่ไฟฟ้าในช่วงของการเริ่มให้บริการรถแท็กซี่ OK  โดยกำหนดค่าเซอร์ชาร์ตรถแท็กซี่ไฟฟ้าสูงกว่าแท็กซี่ทั่วไป ก็เนื่องจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มีราคาสูงผู้ประกอบการต้องลงทุนมากในช่วงเริ่มต้น