ยายร้องโฮ! ถึงกับเข่าทรุด สรรพสามิตรวบทำข้าวหมากแอบขายสาโท ยายยัน! แค่น้ำข้าวหมาก

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  แม่ค้าขายข้าวหมากชื่อ นางเสน่ห์ ป่วงรัมย์ วัย 60 ปี ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เข้าจับกุมบริเวณ ตลาดนัดคลองถมสี่แยกกระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ ขณะนั่งขายข้าวหมากห่อใบตองห่อละ 5บาท  พร้อมเรียกค่าปรับสูงถึง 5 หมื่นบาท ในข้อหาจำหน่ายเหล้าสาโท โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งยายจะมีกระติกข้างตัวข้างในแอบซุกสาโทบรรจุถุงพลาสติกขนาดถุงละ 1 ลิตร จำนวน 11 ถุง รวม 11 ลิตร จึงถูกจับพร้อมของกลาง ก่อนมีการต่อรองลดเหลือ 1 หมื่นบาท ซึ่งตนได้รับความเดือดร้อนและรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก  

โดยนางเสน่ห์ เปิดเผยว่า ตนเป็นคนชรา เห็นตลาดนัดมาเปิดใกล้บ้านจึงอยากจะหาอาชีพเสริม  อีกทั้งตนเองทำงานหนักไม่ได้ เนื่องจากขาหัก 6 ท่อนหลังประสบอุบัติเหตุ

จึงทำข้าวหมากห่อใบตอง ซึ่งเป็นอาหารภูมิปัญญาพื้น บ้านขายวันละประมาณ 20-30 ห่อ ในราคาห่อล่ะ 5 บาท ได้กำไรวันละ 50-100 บาท

และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จากสรรพสามิต เข้าหาตนและแจ้งข้อหาจำหน่ายสุราสาโทโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมตวบคุมตัวไปที่สำนักงานกรมสรรพสามิตที่บุรีรัมย์

โดยนางเสนาห์เปิดเผยว่า “ตอนนั้นตกใจมาก และไม่รู้ว่าการขายข้าวหมากจะผิดกฎหมาย พยายามอธิบายเหตุผลให้เจ้าหน้าที่เข้าใจ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าจะดำเนินคดีมีโทษถึงติดคุก พร้อมเรียกค่าปรับเป็นเงิน 50,000 บาท ด้านสรรพสามิตออกมาชี้แจงว่าจับสาโทไม่ใช่ข้าวหมาก

ทำให้ตนเองถึงกับเข่าทรุด เพราะไม่มีเงินที่จะมาเสียค่าปรับและกลัวจะติดคุก ทำได้เพียงพยายามอ้อนวอนให้เจ้าหน้าที่ให้ดูเจตนาของตนเอง ที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังนำตัวไปที่สำนักงานกรมสรรพสามิตที่บุรีรัมย์”

ด้าน นางบุญมณี ลูกสาวของนางเสน่ห์เปิดเผยว่า สุดท้ายเจ้าหน้าที่ลดค่าปรับให้เหลือ 3 หมื่นบาท ถ้าเสียค่าปรับตอนนี้เรื่องก็จบ พร้อมทั้งบอกว่าถ้าไปขึ้นศาลจะเสียเวลา

“จึงอ้อนวอนเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีเงิน และสงสารแม่ที่นั่งร้องไห้ตลอดเวลา สุดท้ายเจ้าหน้าที่แจ้งว่าลดค่าปรับให้เหลือ 10,000 บาท

ตนจึงรีบไปยืมพี่น้องมาเสียค่าปรับให้ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่สรรพสามิตรับเงินไปได้ออกใบเสร็จให้ ก็มีใบหน้ายิ้มแย้มแล้วก็กล่าวอวยพร ด้วยว่า ขอให้ทำมาหากินขายของเจริญยิ่งๆขึ้นไป ขอให้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เหมือนจะตอกย้ำคนจน ”

อย่างไรก็ตามล่าสุดวันที่ 16 ส.ค.61 (วันนี้)  นายนพรัตน์ จรรยาวรางกูร เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตบุรีรัมย์ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้จับนางเสน่ห์ เพราะขายข้าวหมาก  แต่จับเพราะได้รับแจ้งว่านางเสน่ห์แอบนำสาโทใส่ถุงมาขาย ที่ตลาดนัดคลองถม ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงลงไปตรวจสอบ โดยพบว่านางเสน่ห์นั่งขายข้าวหมาก และมีถังพลาสติกวางอยู่ข้างตัว ตรวจสอบพบภายในถัง มีสาโท 11 ถุง จึงได้แจ้งจับและปรับนางเสน่ห์ ตามมาตรา 153 วรรคหนึ่ง อัตราโทษ ของกลางตั้งแต่สิบลิตรขึ้นไป ปรับ 10,000 บาท

ล่าสุด! นางเสน่ห์ ป่วงรัมย์ ที่ถูกสรรพสามิตจับปรับยืนยันว่า ข้าวหมากห่อใบตอง ส่วนน้ำที่ใส่ถุง เป็นน้ำข้าวหมากผสมกับน้ำเปล่า และยอมรับเป็นของตัวเองจริง แต่ไม่ใช่น้ำสาโทตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวหา  ซึ่งน้ำในถุงนั้นไม่ใช่สาโท เป็นน้ำจากข้าวหมากที่ตนเองเอาไว้ขายเช่นเดียวกัน โดยในราคา 3 ถุง 50 บาท เพราะน้ำจากข้าวหมากมีรสหวานและผู้หญิงชอบรับประทาน

นางเสน่ห์กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่สรรพสามิตน่าจะรู้ดีว่า หัวเชื้อข้าวหมาก กับหัวเชื้อสาโทนั้นแตกต่างกัน โดยเฉพาะหัวเชื้อข้าวหมากจะวางขายทั่วไป การจับกุมของเจ้าหน้าที่วันนั้นตนเองพยายามอธิบาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับฟัง อ้างว่าผิดกฎหมาย ยอมรับว่าไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย และคิดว่าข้าวหมากเป็นอาหารภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำสืบทอดกันมา”

และที่ผ่านมาเคยทำข้าวหมากขายเพียง 2 ครั้งเท่านั้น หลังจากนี้ก็จะเลิกขายจะไม่ยุ่งอีกแล้ว หันมาขายผักดองแทน ไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เราไม่รู้กฎหมายลึกซึ้ง เพราะถึงเวลาเราก็จะแพ้ทางเจ้าหน้าที่ที่มีกฎหมายอยู่ในมืออยู่ดี