1.ได้รับความเสี่ยงมาเกิน 2 สัปดาห์แล้ว เพราะถือเป็นระยะเวลาที่มีโอกาสตรวจพบเชื้อได้แล้วถ้าติดเชื้อมา แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อไปตรวจแล้วในครั้งแรกไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ทางสถานพยาบาลที่ตรววท่านจะนัดให้ท่านทำการตรวจอีกครั้งเมื่อครบ 3 เดือน
2.มีกำลังใจดี พร้อมรับฟังผลเลือด แน่นอนว่าใครได้รับความเสี่ยงมาก็เครียดกันทั้งนั้น แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราพยายามทำความเข้าใจกับมันว่า มันเกิดไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ มีสติ มีปัญญา ทำจิตใจให้เป็นปกติ มีความสุขกับเรื่องเล็กๆให้ได้ และศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคนี้ให้มากขึ้น ให้รู้ว่า โรคนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย ถ้ารู้วิธีอยู่กับมัน
3.รู้ตัวเร็ว รักษาเร็ว ด้วยเทคโนโลยีและวงการวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มีการพัฒนาตัวยาต้านเชื้อไวรัสที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลดีขึ้นเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบันคนติดเชื้อ HIV สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนทั่วไปได้อย่างเป็นปกติแต่ต้องมีการป้องกันในบางเรื่อง เช่นการใส่ถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์ ไม่แน่ในอนาคตอันใกล้ อาจมียารักษาHIVออกมาก็ได้ เพราะเทคนโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน
4.คนที่ติดเชื้อเอชไอวีสามารถอยู่ในสังคมร่วมกับคนอื่นได้ โดยไม่เป็นภัยหรือเป็นภาระกับใคร อย่างที่กล่าวไปในหัวข้อที่แล้วว่า เราสามารถอยู่ร่วมกันคนอื่นในสังคมได้เป็นปกติ และการอยู่ร่วมกันนั้นเราไม่จำเป็นต้องเป็นภาระให้ใครมารับผิดชอบด้วย เพราะเราสามารถใช้ชีวิตและดูแลตัวเองได้ เพียงเราออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์และปฏิบัติตัวตามการแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
5.รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นประโยชน์และไม่น่ากลัว เราทุกคนควรไปตรวจHIVกันอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต ตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ ให้รู้ว่าเราไม่ติดเชื้อ ชีวิตจะได้ก้าวต่อไปอย่างมั่นใจ (ตรวจเพื่อก้าวต่อ) ไม่ต้องกังวล หรือถ้าเราติดเชื้อ HIV ก็ถือเป็นโอกาสอันดี ให้เราหันมาดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง สามารถทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคมและคนรอบข้างได้เหมือนเดิม