อยากรู้ไหม? “ชั่วกัปชั่วกัลป์” นานแค่ไหน?
เฟซบุ๊กเพจโลกประหลาดโพสท์เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ คำว่า“ชั่วกัปชั่วกัลป์” นั้นมันมีความยาวนานแค่ไหน?
โดยโพสท์ระบุว่า หลายคนคงเคยอาจได้ยินคำว่า “ชั่วกัปชั่วกัลป์” หรือ “กัลปาวสาน” กันมาบ้าง แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าจริงๆ แล้วมันยาวนานแค่ไหนกันแน่ หลายคนอาจคิดว่าแค่แสนปี ล้านปี แต่เปล่าเลย มันยาวนานกว่านั้นมากๆ
"กัป หรือ กัลป์" หมายถึง หน่วยนับช่วงระยะเวลาอันยาวนานของโลกตั้งแต่เกิดจนดับ มันยาวนานจนไม่สามารถกำหนดเป็นวัน เดือน ปี หรือเป็นตัวเลขได้ เป็นคำที่ส่วนมากพบในศาสนาพุทธ และฮินดู
แล้วถ้า "กัป" มันไม่สามารถบอกเป็นตัวเลขได้หลายคนคงสงสัยว่าพอจะเปรียบเทียบได้หรือไม่ โชคดีที่ในพระไตรปิฎก ได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งได้ทูลถามถึงเรื่อง "กัป" กับพระพุทธเจ้าไว้ดังนี้
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘
สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
[๔๒๙] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งได้เข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ฯลฯ เมื่อภิกษุรูปนั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กัปหนึ่ง นานเพียงไรหนอแล
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ กัปหนึ่งนานแล มิใช่ง่ายที่จะนับกัปนั้นว่าเท่านี้ปี เท่านี้ ๑๐๐ ปี เท่านี้ ๑,๐๐๐ ปี หรือว่าเท่านี้ ๑๐๐,๐๐๐ ปี ฯ
ภิ. ก็พระองค์อาจจะอุปมาได้ไหม พระเจ้าข้า ฯ
[๔๓๐] พ. อาจอุปมาได้ ภิกษุ แล้วจึงตรัสต่อไปว่า ดูกรภิกษุ เหมือนอย่างว่า ภูเขาหินลูกใหญ่ยาวโยชน์หนึ่ง กว้างโยชน์หนึ่ง สูงโยชน์หนึ่ง ไม่มีช่อง ไม่มีโพรง เป็นแท่งทึบ บุรุษพึงเอาผ้าแคว้นกาสีมาแล้วปัดภูเขานั้น ๑๐๐ ปีต่อครั้ง ภูเขาหินลูกใหญ่นั้น พึงถึงการหมดไป สิ้นไป เพราะความพยายามนี้ ยังเร็วกว่าแล ส่วนกัปหนึ่งยังไม่ถึงการหมดไป สิ้นไป กัปนานอย่างนี้แล บรรดากัปที่นานอย่างนี้ พวกเธอท่องเที่ยวไปแล้ว มิใช่หนึ่งกัป มิใช่ร้อยกัป มิใช่พันกัป มิใช่แสนกัป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่าย ในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
สรุปใจความก็คือ สมมุติมีภูเขาหินแท่งทึบ กว้าง 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ (1 โยชน์เท่ากับ 16 กิโลเมตร) ทุก 100 ปี มีคนเอาผ้าเนื้อละเอียดอย่างดีมาลูบครั้งหนึ่ง จนกว่าภูเขาหินนั้นสึกกร่อนแบนราบ ก็ยังยาวนานไม่เท่ากับ "กัป"
จะเห็นได้ว่ายาวนานมากๆ ยาวนานชนิดว่านึกไม่ออกกันเลยทีเดียว (ลำพังมนุษย์เรา แค่รถติดสองสามชั่วโมงก็บ่นว่านานกันละ) แถมพวกเรายังเวียนว่ายตายเกิดกันมาไม่รู้อีกกี่ "กัป" จนนับจำนวนไม่ได้ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว...
เพื่อให้เห็นภาพ (รบกวนทุกท่านดูภาพ) ทางเราได้ทำภาพเปรียบเทียบ จะเห็นได้ว่าภูเขาหินลูกบาศก์ยักษ์สูง 16 กิโล นั้นใหญ่โตเพียงใด เรียกได้ว่าถ้าไปยืนใกล้ๆ คงมองไม่เห็นท้องฟ้า
ส่วนภูเขาที่อยู่ข้างๆ ก็คือเทือกเขา “เอเวอเรสต์” ที่มีความสูงที่สุดในโลก มีความสูงอยู่ที่ราว 8.8 กิโลเมตร ยังสูงได้แค่ครึ่งของภูเขาหิน
ตรงกลางด้านล่างของภูเขาหินจะเห็นสองขีดเล็กๆ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นรอยขนแมว แต่เปล่าเลย สองขีดเล็กๆ ถ้าซูมดูใกล้ๆ ด้านซ้ายคือตึกที่สูงที่สุดในโลก “บูร์จคาลิฟา” ความสูงอยู่ที่ 828 เมตร (ข้อมูลปี 2018)
ด้านขวาคือตึก “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ตึกที่สูงที่สุดในไทย มีความสูงอยู่ที่ 314 เมตร (ข้อมูลปี 2018)
คิดดูละกันว่าเจ้าภูเขาหินนั้นใหญ่โตขนาดไหน แล้วทุก 100 ปี เอาผ้ามาลูบได้แค่ครั้งเดียว กว่ามันจะแบนราบ แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
จะเห็นได้ว่าช่วงชีวิตของมนุษย์ถ้าเปรียบเทียบกับ "กัป" แล้วน้อยเสียกว่าช่วงเวลาฟ้าแลบเสียอีก
**คำว่า "กัป" หรือ "อายุกัป" ยังมีความหมายว่าช่วงอายุได้ด้วย เช่นในยุคพุทธกาล "1 อายุกัป" ของมนุษย์ ประมาณ 100 ปี เรียกว่า "1 กัป"