ผมครูเอกชนจนๆ เงินเดือน 15000 ผ่อนบ้าน 17000 ผ่อน ชพค. 3700บ. กู้มา 6 แสนทุกวันนี้ผมผ่อนครบทุกงวด-ไม่เคยต้องขอยกหนี้

คุณสมาชิกหมายเลข 4250130 สมาชิกเว็บไซต์พันทิป  ที่ได้แชร์ประสบการณ์การเป็นครูเอกชน กินเงินเดือน 15000 บาท และมีหนี้ผ่อน 17000 บ้าน หนี้ชพค. แต่สามารถจ่ายหนี้ได้ครบทุกเดือน แถมไม่เคยขอยกหนี้ โดยได้โพสท์แชร์ประสบการณ์ที่ครูหลายๆคน น่าเอาเป็นแบบอย่าง ระบุว่า

ผมครูเอกชน จนจนๆ  เงินเดือน 15000 ผ่อนบ้าน 17000 ผ่อน ชพค. 3700บ. กู้มา 6 แสนทุกวันนี้ผมผ่อนครบทุกงวด-
ไม่เคยคิดว่า  ต้องขอให้รัฐบาล  หรือธนาคารออมสินยกหนี้  ให้

เงินกู้มา  เราก็ต้องรับผิดชอบ ต่อเงินที่เรากู้มา ทำประกัน เพื่อคุ้มครองวงเงินกู้  ก็เพื่อให้ไม่ต้องมีภาระ เผื่อเราโชคดี ตายก่อนจ่ายหนี้หมด

คนค้ำก็ไม่ลำบาก  ธนาคารก็ ไม่ต้องตั้งสำรอง NPL  และ ยิ่งมี กฏ ifs 39   ออกมาแล้ว ธนาคารยิ่งต้อง เพิ่มการตั้งสำรอง
ไม่รู้ว่า ธ.ออมสิน  และ ธกส. ซึ่งเป็นธนาคารรัฐเต็มตัว  เพราะ เงินฝากทั้งหมดรัฐบาลเป็นประกัน  จะต้องใช้กฏเดียวกันหรือไม่

แต่ ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป   ตอนนี้ คุ้มครองแค่ 1 ล้านบาท ต่อคนต่อธนาคาร.. แต่จริงๆ แล้ว ผมก็คิดว่า  ธ.ออมสิน ควรทำประกัน ให้คุ้มครองทั้ง 30 ปี ในราคาที่ถูกกว่านี้

เพราะมีคนทำกันมาก ต้นทุนยิ่งถูกลง   .....      อย่างของผม   กู้   6 แสนบาท   ค่าประกันประมาณ  36000    กับเวลา 9 ปี  
ผมว่ามันแพงไปหน่อย  น่าจะเป็น 15 ปี    ยังได้เลย    แต่ผมก็เลยไปซื้อหุ้น  tip   ทิพยประกันภัย  ไว้ด้วยเลย      

เงินกู้ ชพค.  ให้ครูกู้แบบไม่มีหลักประกัน  คือไม่มีหลักทรัพย์อะไรมาวางค้ำประกันเลย

ออมสิน  ให้กู้  ที่ ดอกเบี้ย  ตอนนี้  5.65 %   มันก็ต่ำกว่า  ดอกเบี้ย MLR ของแบงค์ใหญ่  4 แบงค์  ที่ อยู่ที่ 6.25  -  6.40 %  แล้วนะกู้แบบไม่มีอะไรมาค้ำเลย  ถือว่าถูกกว่า บัตรกดเงินสด    ฟิกโก้   ไมโครไฟแนนซ์  ที่ 36 %  ซะอีก 

การค้ำ เอาคนมาค้ำ 1 คน บวกกับประกันชีวิต  ก็ กู้ได้ 6 แสนถ้ากู้  1.2 ล้าน ก็คนค้ำ  2 คน และทำประกันชีวิต

ไม่มีที่ไหน ให้ดีกว่านี้แล้วนะ กู้เงินโดยไม่มีอะไรมาเป็นหลักทรัพย์ให้ธนาคารเลยแล้ว  นิเห็นว่า จะมีกลุ่มครู ข้าราชการครู ออกมารวมตัวกันยื่นข้อเสนอว่าให้ยกหนี้ให้ทั้งหมด  ไม่งั้นจะหยุดพักชำระหนี้   แบบนี้มันใช่หรือ  เงินเรากู้มา เราก็ต้องรับผิดชอบต่อเงินที่เรากู้มา จะบอกว่าดอกเบี้ยส่งนาน 30 ปี     จะไปอ้างอะไร กัน ครับ

กู้เงินนะ  เวลาช่วงแรกๆ  มันจะเป็น ดอกเบี้ยเยอะ    เงินต้นน้อยอยู่แล้ว  แต่ทำไมไปอ้างกันว่าเงินต้นลดนิเดียว  บางคนบอกว่า ส่งไป เป็นดอกเบี้ยทั้งหมด ..  เลยมาโวยผมบอกได้เลย   คนที่บอกว่าเป็นดอกเบี้ยหมด  คือคุณไม่ได้จ่ายหนี้ ค้างหลายเดือนพอจ่ายไปเดือนนี้ มันก็ไปตัดหนี้คงค้างได้ทั้งหมดก่อน มันจึงมีแต่ดอกเบี้ยไม่มีการตัดเงินต้น      ....

ถ้าจ่ายทุกงวด  มันจะลดต้นลดดอก  แต่ช่วงแรกๆ  เงินต้นจะลดน้อย แค่นั้นละ กัดไปทนไปก่อน    เงินที่เอามาก็เอามาลงทุน  ไม่ใช่เอามาซื้อรถขับ  หรือเที่ยวนอก ผ่อนอยู่  ครับ...  ผ่อน 3800   ผ่อนมาตั้งแต่ ปี 2555 ละ    ดูซิ  6 แสน     เหลือเท่าไหร่แล้ว

การกู้เงิน เราต้องรับผิดชอบต่อเงิน  ที่เรากู้มาผมกู้เงินแบงค์   แบงค์จะได้เงินคืนทุกบาท ทุกสตางค์  แน่นนอน
ถ้าผมจ่ายไม่ได้ ผมมีประกันชีวิต  ผมแค่ตายแบงค์ก็ได้เงินคืนแล้วท ขนาดแม่ผมเสียชีวิต   ติดหนี้บัตรเครดิตแบงค์   แม่ไม่มีทรัพย์สินอะไร

ผมยังจ่ายหนี้บัตรแทนแม่  เกือบ แสนบาท  เลย    เมือ 7 ปีที่แล้ว เงินเดือน 8000 บาท  ผ่อนบ้าน 12000 ตอนนี้ ผ่อนเพิ่มเป็น 17000   ขอกู้เอนกประสงค์เพิ่มมา  แล้ว  ผมมีเงินปันผลหุ้น  มาช่วย   และหุ้น 400 บริษัท  ที่ผมถือ

ผมไม่เคยขอเครดิตภาษีคืน ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย    ผมคิดว่าผมไม่อยู่ในเกณฑ์เสียภาษี  ผมเลยเสียให้รัฐทางนี้แทน แล้วกัน
หวังแค่ว่า เงินหักภาษีปันผลหุ้น  10 %   จะไปเป็นภาษี  ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่ลำบาก

ผมยินดีสละเงินภาษีตรงนี้  ให้รัฐ  แต่ผมไม่ได้ยกเงินนี้ ให้ข้าราชการเอาไปโกงเงินช่วยคนจน     หรือ เอาไปโกงเด็กนักเรียน เช่น กองทุนเสมา และไปจัดหา เรือดำน้ำ  เรือบรรทุกเครื่องบิน  ให้ผมด้วยละ เพื่อความั่นคงของชาติ 

  ผม เป็นครู เอกชน จน จน จน   คนหนึ่ง แค่นั้นเอง ผมไม่เห็นด้วย ที่ครู จะไปรวมตัว ก่อม็อบ ขอให้ยกหนี้ พักหนี้ให้
เพราะถ้าทำแบบนั้น  ระบบมันพัง  NPL พุ่ง  ดอกเบี้ยจะปรับขึ้น  คนที่จ่ายดี ก็โดนปรับดอกเบี้ยตามไปด้วย และถ้าไปถึงจุดนั้น ทุกคนจะ ตั้งใจล้มพร้อมกัน  แล้วเก็บเงินสดไว้  และเอาเงินผ่านคนอื่น  เหมือนตอนต้มยำกุ้ง ที่ล้มบนฝูก   ยังรวยดี   มีเงินใช้

    คติประจำใจ    ท่องๆๆไว้    จงพยายาม ซื่อสัตย์ สุจริต  ให้มากที่สุด    
และ  ประโยชน์ของส่วนรวม  ต้องมาก่อนประโยชน์ส่วนตน  และเงินในกระเป๋าของตัวเอง

การกู้เงิน  เราต้องประเมิน  ว่าเราผ่อนได้เท่าไหร่  ผ่อนไหว มั้ยยไม่ใช้ กู้ๆๆ มาก่อน เพราะคิดว่า  กู้ง่ายๆ แค่เอาคนค้ำ  ไม่ต้องมีหลักทรัพย์อะไร ก็เลย แห่ๆๆๆ กันไปกู้  จับเป็นกลุ่มกู้กัน 4  คน    กู้ 3  ล้าน

แต่ตัวเองมีผ่อนบ้านกับ  ธอส.  หรือ กรุงไทยอยู่แล้ว  20000 บาท

ผ่อนรถ สองคน  อีก 17000 

รวมรายจ่าย 37000 บาท  

แต่เงินเดือน ระดับสูงหน่อย   ตีว่า  40000   บาท    สรุป ก็จะเหลือเงินใช้   3000 บาท


 ส่วน ครูในกลุ่มที่กู้อายุน้อย ไปกู้ด้วย เงินเดือน 18000 บาท ไปเอาเงินมา  สามล้าน  ต้องผ่อน  16000 บาท       จะเหลือเท่าไหร่ ๆๆๆๆๆ  ถ้าเค้าเอามาซื้อหุ้นกินปันผล ที่ 10 %  ได้ปันผล ปีละ  3 แสนผมว่ารอดนะ ถ้าใช้วิธีนี้  แต่จริงๆ เค้าไม่ได้เอามาซื้อหุ้น  อะสิ 


ต้นน้อย            ดอกเบี้ยเยอะ  


ทุกที่ทั่วโลก   ทั่วจักรวาล    เป็นแบบนี้ทั้งนั้น   ครับ ครู ทั้งหลายผมก็ครู      ครูเอกชนจน  เงินเดือนไม่มีขึ้นทุกปีแบบ ข้าราชการ  นะ

จริงๆ ควรมายกหนี้ ให้ผมก่อนเลย  ใช่มั้ยย  ถ้าคิดแบบเห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์ตัวเอง  การคลังของประเทศ จะเป็นไงไม่สน  ขอเอาประโยชน์ตัวเองไว้ก่อน