อย.ประกาศลั่น ! ม.ค. 62 ประเทศไทยไม่มี "ไขมันทรานส์" ในอาหารอีกทั้งที่ผลิตเอง และนำเข้า
อย.ประกาศลั่น ! ม.ค. ปี 62 ประเทศไทยไม่มี "ไขมันทรานส์" ในอาหารอีก ทั้งที่ผลิตเอง และนำเข้า หลังออกประกาศห้ามไขมันทรานส์อยู่ในอาหาร ช่วยคนไทยห่างไกลโรคหัวใจ อย.แนะนำให้เลี่ยงอาหาร หวาน มันเค็ม โดนัท พัฟฟ์ พาย ที่ใช้ไขมันทรานส์ในการผลิต
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2561 นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนหรือไขมันทรานส์ และอาหารที่มีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย โดยมีผลบังคับใช้ใน 180 วัน ว่า ไขมันทรานส์เป็นไขมันอิ่มตัว
พบว่าเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้ประเทศอเมริกา และหลายประเทศสั่งยกเลิกการใช้ ซึ่งมักใช้กับอาหารกลุ่มของทอด เช่น โดนัท พัฟฟ์ พาย เป็นต้น ซึ่งในเชิงอุตสาหกรรมนิยมใช้เพราะจะทำให้กลิ่นหืนหายไปและสามารถเก็บได้นานยิ่งขึ้น
เลขาอย.กล่าวอีกว่า ส่วนในประเทศไทย อย. จึงได้มีการเสนอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีการลงนามห้ามใช้ไขมันทรานส์ จึงได้มีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ. 2561 เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2561
ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังจากมีประกาศ 180 วัน หรือ6 เดือน หรือประมาณในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ จากการศึกษาของ อย. ร่วมกับสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และอาจารย์ด้านโภชนาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากไขมันทรานส์ เพื่อวางแผนยกเลิกการใช้ไขมัน มา 2-3 ปีแล้ว จนได้ข้อสรุปว่าจะมีการขอยกเลิก
ซึ่งทางผู้ประกอบการก็ได้ขอเวลา 6 เดือนในการปรับตัว ซึ่งตั้งแต่ ม.ค.2562 เป็นต้นไปประเทศไทยจะไม่มีการการใช้ไขมันทรานส์ในการผลิตอาหารอีก เพื่อเป็นการคุ้มครองสุขภาพประชาชน และน่าจะลดเรื่องโรคหัวใจในคนไทยลงไปได้จำนวนมาก
"เชื่อว่าผู้ประกอบการบางส่วนมีการเตรียมตัวมานานแล้ว บางรายมีการดำเนินการไปแล้ว อาจใช้เวลา 3-4 เดือน ก็สามารถเปลี่ยนการผลิตโดยไม่ใช้ไขมนัทรานส์ได้ ซึ่งตั้งแต่ ม.ค. 2562 เป็นต้นไป ก็ไม่จำเป็นต้องมาดูฉลากว่ามีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบหรือไม่ เพราะเราห้ามทั้งหมดทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้า ต้องไม่มีการใช้ไขมันทราส์เป็นส่วนประกอบอีกต่อไป" นพ.วันชัย กล่าว.