รางวัลยอดเยี่ยมและสถิติสำคัญในศึกฟุตบอลโลก2018 ทีมชาติฝรั่งเศสครองแชมป์
ศึกฟุตบอลโลก 2018 จบลงด้วยชัยชนะอันสวยงามของทีมชาติฝรั่งเศสที่ชนะโครเอเชีย 4:2 ครองแชมป์โลกสมัยที่ 2 ที่รอมานานนับ20ปี สรุปรางวัลยอดเยี่ยมและสถิติสำคัญที่น่าสนใจในฟุตบอลโลก 2018
16 กรกฎาคม 2561 -ศึกฟุตบอลโลก 2018 ครั้งสุดท้าย ที่สนาม ลุซนิกิ สเตเดี้ยม เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทีมชาติ ฝรั่งเศส ชนะทีมชาติ โครเอเชียไป 4:2 อย่างน่าตื่นเต้นตลอด 90 นาที ฝรั่งเศสครองแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ห่างจากสมัยแรกถึง 20 ปีในปี 1998
ขณะที่ ลูก้า โมดริช เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งทีมชาติโครเอเชีย ขึ้นแท่นรับรางวัล "โกลเด้น บอล" นักเตะยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก 2018 ตามคาด ส่วน คีเลียน เอ็มบัปเป้ นักบอลทีมชาติฝรั่งเศสที่อายุน้อยที่สุด ก็ได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม หลังจากมีผลงานยิงประตูชัยถึง 4 ประตูในฟุตบอลโลก2018 นี้
สำหรับรางวัล "โกลเด้น บูท" ดาวซัลโวสูงสุด ตกเป็นของ แฮร์รี่ เคน ยอดศูนย์หน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษ ที่ยิงได้สูงสุด 6 ประตู นอกจากนี้ ธิโบต์ คูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมชาติเบลเยี่ยมรับรางวัล "โกลเด้น โกลฟ์" ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม และปิดท้ายรางวัลฟีฟ่า แฟร์เพลย์ ตกเป็นของทีมชาติสเปน
สรุปรางวัลยอดเยี่ยมใน ฟุตบอลโลก 2018
แชมป์ : ฝรั่งเศส (สมัยที่ 2) รองแชมป์ : โครเอเชีย และอันดับ 3 : เบลเยียม
นักเตะยอดเยี่ยม(อาดิดาส โกลเด้น บอล )
1. ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย)
2. เอแด็น อาซาร์ (เบลเยียม)
3. อ็องตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส)
นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม
คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ (ฝรั่งเศส)
รางวัล ฟีฟ่า แฟร์ เพลย์
ทีมชาติสเปนได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ฟีฟ่า แฟร์เพลย์ ทีมชาติสเปนเป็นที่รู้จักกันในฉายา "La Furia Española"สเปนได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 12 ครั้ง และเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในฟุตบอลโลก ปี 1982 ผลงานที่ดีที่สุดที่ทีมชาติสเปนเคยทำได้นั้นคือแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม (อาดิดาส โกลเด้น โกลฟ )
ติโบต์ กูร์กตัวส์ เป็นนักฟุตบอลชาวเบลเยียม เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ปัจจุบันลงเล่นให้กับเชลซีในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติเบลเยียม
ดาวซัลโวในศึกฟุตบอลโลก 2018
1. แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ) 6 ประตู
2. อ็องตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส) 4 ประตู 2 แอสซิสต์
3. โรเมลู ลูกากู (เบลเยียม) 4 ประตู 1 แอสซิสต์
สถิติสำคัญในศึกฟุตบอลโลก2018
-ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ โค้ชทีมชาติฝรั่งเศสคือคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์โลกทั้งฐานะนักเตะและโค้ชต่อจาก มาริโอ ซากัลโล่ แห่ง บราซิล (ผู้เล่น 1958 กับ 1962, กุนซือ 1970) และ ฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ ของ เยอรมันตะวันตก (1974 ผู้เล่น, 1990 โค้ช)
- โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จบสกอร์ไม่ตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียวตลอด 546 นาทีที่ได้ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้
- คีเลียน เอ็มบัปเป้ คือนักเตะอายุน้อยสุดตลอดกาลอันดับ 2 (19 ปี, 207 วัน) ที่ทำประตูได้ในนัดชิงเวิลด์ คัพต่อจาก เปเล่ (17 ปี, 249 วัน)
- ปอล ป็อกบา กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลงตัวจริงพร้อมกัน 19 นัด ฝรั่งเศส ไม่เคยแพ้ (ชนะ 15, เสมอ 4)
- มาริโอ มานด์ซูคิช คือนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำเข้าประตูตัวเองในนัดชิงแชมป์โลก
- นัดชิงครั้งนี้ยิงรวมกัน 6 ประตูเท่ากับปี 1966 ที่ลอนดอนซึ่ง อังกฤษ ชนะ เยอรมันตะวันตก 4-2 ครั้งเดียวที่มากกว่าคือนัดชิงปี 1958 บราซิล ถล่ม สวีเดน 5-2
- บอลโลกครั้งนี้ไม่มีสกอร์แค่นัดเดียวคือ ฝรั่งเศส กับ เดนมาร์ก ในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นรองแค่ปี 1954 ที่ไม่มีเลย