เคเอฟซี ยืนยันทุกเมนูปลอดไขมันทรานส์
เรื่อง เคเอฟซี ยืนยันทุกเมนูปลอดไขมันทรานส์
เรียน ท่านสื่อมวลชน
สืบเนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขห้ามผลิต นำเข้า และจำหน่ายอาหารที่มีไขมันทรานส์ ลงราชกิจจานุเบกษา ประกาศเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 180 วัน ทำให้เกิดกระแสความเป็นห่วงเกี่ยวกับอาหารในร้านอาหารบริการด่วนว่าอาจจะมีไขมันทรานส์อยู่ในอาหารในปริมาณมากกว่ากฎหมายกำหนดนั้น
เคเอฟซี ประเทศไทย ในฐานะร้านอาหารบริการด่วนที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ขอยืนยันว่าเมนูอาหารทุกเมนูที่จำหน่ายในร้านเคเอฟซี ประเทศไทย ปลอดจากไขมันทรานส์ 100% โดยเคเอฟซี ประเทศไทย ได้ดำเนินตามนโยบายบริษัทแม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัท ยัม! แบรนด์ ในการยกเลิกการจำหน่ายอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์มาตั้งแต่ปี 2015 โดยได้ทำงานร่วมกับคู่ค้าผู้จำหน่ายวัตถุดิบทุกรายในการเลิกใช้ส่วนผสมที่สามารถทำให้เกิดไขมันทรานส์ออกไป นอกจากนี้ เคเอฟซี ประเทศไทย ยังใช้น้ำมันปาล์มซึ่งเป็นน้ำมันที่ไม่มีไขมันทรานส์ในการประกอบอาหารเมนูไก่ทอดและเมนูอื่นๆ ของร้าน และขอยืนยันว่าทุกเมนูของเคเอฟซีไม่มีการเติมส่วนผสมพิเศษใดๆ อันทำให้เกิดไขมันทรานส์ ลูกค้าเคเอฟซีจึงสามารถไว้วางใจได้ว่าร้านเคเอฟซีทุกร้านเสิร์ฟเมนูที่ปลอดภัยปราศจากไขมันทรานส์อย่างแน่นอน
ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจมากกว่า 33 ปีในประเทศไทย เคเอฟซีให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารที่บริการให้แก่ลูกค้า เราดำเนินการตามมาตรฐานด้านคุณภาพและอาหารปลอดภัยระดับโลกเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่ผลิตขึ้นมีความสะอาด อร่อย และปลอดภัย สร้างความไว้วางใจและพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
ขอแสดงความนับถือ
แววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซีประเทศไทย
บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไขมันทรานส์ มี 2 ประเภท
(ที่มาข้อมูล: https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/1788-trans-fat)
- ไขมันทรานส์ตามธรรมชาติ : พบได้ในปริมาณเล็กน้อยตามธรรมชาติในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์และนม สัตว์เหล่านี้จะผลิตไขมันทรานส์ในกระเพาะและลำไส้
- ไขมันทรานส์จากการสังเคราะห์ : เกิดจากการสังเคราะห์ระหว่างกระบวนการผลิตอาหาร โดยเกิดจากกระบวนการเติมไฮโดรเจน (hydrogenation) เข้าไปในน้ำมันพืช ทำให้น้ำมันพืชแข็งตัวมากขึ้น PHOs ใช้โดยผู้ผลิตอาหารเพื่อยืดอายุอาหารและเพิ่มความคงตัวของรสชาติ มีอาหารหลายชนิดใช้ PHOs (ไขมันทรานส์) เป็นส่วนประกอบ เช่น เนยขาว (shortenings) มาการีน (โดยเฉพาะมาการีนที่แข็งตัวมากขึ้น) คุกกี้ อาหารว่าง (snack foods) อาหารทอด และขนมอบ ไขมันทรานส์เหมือนไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลทำให้ระดับ LDL สูงขึ้นในเลือด ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ แต่ไขมันทรานส์เพิ่มความร้ายกาจเป็นสองเท่าเนื่องจากยังลดระดับ HDL (คอเลสเตอรอลชนิดดีต่อสุขภาพ) ในเลือดอีกด้วย ทำให้เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเพิ่มขึ้น
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ไซยาไนด์ เมื่อพิษร้ายแรงสุดๆ ซ่อนตัวในโมเลกุลเล็ก ๆ สีไร้กลิ่น
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
บาร์เบียร์ต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ! เมื่อลูกแมวน้ำสุดป่วนบุก 'แฮงค์เอาท์' ที่นิวซีแลนด์
หนุ่มอเมริกันทุบสถิติโลก วิ่งฮาล์ฟมาราธอนพร้อมเสื้อยืด 137 ตัว น้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม!
ทนายเจมส์เปิดคำตอบ! ใครคือคนแรกที่โทรหาเรื่องพินัยกรรม "นัทปง" หลังเสียชีวิตไม่ถึง 24 ชั่วโมง
หนุ่มอเมริกันทุบสถิติโลก วิ่งฮาล์ฟมาราธอนพร้อมเสื้อยืด 137 ตัว น้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม!
บาร์เบียร์ต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ! เมื่อลูกแมวน้ำสุดป่วนบุก 'แฮงค์เอาท์' ที่นิวซีแลนด์
จัดอันดับแมลงมีพิษที่สุดในไทย
จากผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สู่ผู้ต้องลุ้นชะตา ฮุนเซน กับเกมหนีคุกสหรัฐฯ
"ฮุนเซน" โพสต์คลิปพิธีปิดซีเกมส์ 2023 อย่างยิ่งใหญ่ หลังไทยถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการเตรียมการและจัดการแข่งขัน


