ถังเสวียนจง มหาราชหรือคนบาปของราชวงศ์ถัง?
ในประวัติศาสตร์จีน มีฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่อยู่หลายพระองค์ ส่วนใหญ่มักเป็นฮ่องเต้ผู้ยุติความวุ่นวายด้วยการก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ เช่น จิ๋นซี หลิวปัง ถังไท่จง จูหยวนจาง หรือบ้างก็เป็นฮ่องเต้ผู้ปรีชา สร้างยุคทองอย่างคังซี…
แต่ฮ่องเต้ที่ผมคิดว่าน่าสนใจมากพระองค์หนึ่งคือ ถังเสวียนจง หรือพระนามเดิมคือ หลี่หรงจี ฮ่องเต้ลำดับเจ็ดแห่งราชวงศ์ถัง (ครองราชย์ ค.ศ.712-756) ถ้านับกันตามลำดับรุ่น หลี่หรงจีเป็น “เหลน” ของ ถังไท่จง หรือหลี่ซื่อหมิน ผู้สถาปนาราชวงศ์ถัง (ใครที่อ่าน มังกรคู่สู้สิบทิศ คงรู้จักหลี่ซื่อหมินกันเป็นอย่างดี) ในรุ่นหลานของหลี่ซื่อหมิน เกิดความวุ่นวายเพราะ “บูเช็กเทียน” ซึ่งมีศักดิ์เป็นไทเฮา (เมียของลูกหลี่ซื่อหมิน) รวบอำนาจจากลูกตัวเองจนได้เป็นจักรพรรดินีเพียงหนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์จีน สี่พันปี ตั้งราชวงศ์โจวของตัวเอง (ที่มีกษัตริย์พระองค์เดียว) ขึ้นมาครองอำนาจแทนราชวงศ์ถัง
บูเช็กเทียน ครองราชย์จวบจนเกือบวาระสุดท้าย บรรดาลูกๆ และเสนาบดีก็รวมตัวกันรัฐประหาร ฟื้นฟูราชวงศ์ถังกลับมา และสถาปนา “ถังจงจง” หรือหลี่เสียน บุตรชายขึ้นเป็นฮ่องเต้ (ถังจงจงเป็นเสด็จลุงของหลี่หลงจี) แต่ความวุ่นวายหลังยุคบูเช็กเทียนไม่จบง่ายๆ เพราะ เหวยฮองเฮา เมียของถังจงจงได้แรงบันดาลใจจากบูเช็กเทียน อยากเป็นจักรพรรดินีแบบเดียวกันบ้าง หลี่หรงจีจึงเป็นแกนนำ “รัฐประหาร” ยึดอำนาจของขั้วเหวยฮองเฮามาให้ “ถังรุ่ยจง” พ่อตัวเองเป็นฮ่องเต้อยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ขึ้นครองราชย์เอง ถือเป็นการสิ้นสุดความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวงตั้งแต่ยุคบูเช็กเทียนเป็นต้นมา (เหตุการณ์ช่วงนี้อยู่ในไตรภาค เหยี่ยวมาร ของหวงอี้)
หลี่หรงจีหรือถังเสวียนจง ครองราชย์นานถึง 44 ปี ช่วงต้นรัชสมัยถือเป็น “ยุคทอง” ของราชวงศ์ถังเลยก็ว่าได้ (ตอนนั้น ต้าถัง หรือจักรวรรดิถัง ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก) มีเสนาอำมาตย์เก่งๆ มาช่วยงานมากมาย แต่อนิจจา ไม่รู้เป็นเพราะพระองค์ครองราชย์นานเกินไปหรืออย่างไร ช่วงปลายรัชสมัย พระองค์เลยปล่อยปละราชกิจ ไม่สนใจการปกครองบ้านเมือง หันมาติดหญิงแทน ซึ่งสตรีผู้นั้นก็คือ “หยางกุ้ยเฟย” (Yang Guifei) หนึ่งในสี่สุดยอดสาวงามของประวัติศาสตร์จีนนั่นเอง (“กุ้ยเฟย” เป็นบรรดาศักดิ์ ชื่อจริงของเธอคือ หยางอี้หวน) ช่วงปลายรัชสมัย เสนาอำมาตย์ลุแก่อำนาจ ทุจริตคอร์รัปชัน ใช้งานพวกพ้อง (พี่ชายของหยางกุ้ยเฟย ได้ขึ้นเป็นมหาเสนาบดีในยุคท้ายๆ ของถังเสวียนจง) จนเกิดเหตุ “กบฎอันลู่ซาน” ที่แม่ทัพทางเหนือตั้งตัวเป็นเจ้า ส่งกองทัพมาตีนครหลวงลั่วหยางและฉางอานได้สำเร็จ
ราชวงศ์ถังเกือบสิ้นชาติ ถังเสวียนจงต้องหลบหนีลงใต้ ระหว่างทางแม่ทัพนายกองขอให้ “ประหาร” หยางกุ้ยเฟยและพี่ชายในฐานะผู้ทำราชวงศ์ล่มสลาย (เหตุการณ์ช่วงนี้อยู่ในเรื่อง เทพบุตรกู้บัลลังค์ ของจิ่วถู) เหตุการณ์จบลงด้วย องค์ชายรัชทายาทประกาศยึดอำนาจจากถังเสวียนจง มีชีวิตอยู่ต่อไปในฐานะอดีตฮ่องเต้อีกพักหนึ่ง ส่วนการปราบกบฎต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะสงบ ราชวงศ์ถังกลับมาได้แต่ก็อ่อนโทรมลงมาก เรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่า ฮ่องเต้พระองค์เดียวกัน เป็นได้ทั้งผู้สร้างยุคทองให้ราชวงศ์ และเป็นคนบาปผู้ทำราชวงศ์เกือบล่มสลายได้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า นิยายจีนหลายเรื่องที่จับความประวัติศาสตร์ในยุคไล่เลี่ยกัน มันก็ช่วยให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้ดีขึ้น