จากกรณีที่ “ดร. สุกิจ พูนศรีเกษม” อดีตทนายความ ได้พา ร่างทรงแสงสุริยเทพ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา

แต่ปรากฎว่าถูกเจ้าหน้าตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าแสดงหมายจับของศาลจังหวัดแม่สอด ข้อหาร่วมกันบุกรุกที่ป่าสงวนในจังหวัดตาก 

ระหว่างควบคุมตัวไปยังห้องสอบสวน นายสุกิจมีอาการขัดขืน ทำให้เจ้าหน้าที่จับใส่กุญแจมือ ล็อกคอและกดตัวลงนอนกับพื้นก่อนถูกจับกุม ด้านร่างทรงสาวก็อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนี

กองบรรณาธิการข่าว เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com และ เพจ sasook  รายงานว่าล่าสุดทาง โหนกระแส วันที่ 19 มิ.ย. ช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” รวมทั้งวิดีโอคอลหา “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทราบเรื่องเมื่อไหร่?

เดชา :“ทราบจากผู้สื่อข่าวที่โทรเข้ามา ว่าอ.สุกิจโดนจับ”

ตอนนั้นเขาบอกเขาไม่ได้รุกป่า?

เดชา : “เขาบอกว่าอย่างนั้น และมีการฟ้องกลับตำรวจ เรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เรื่องอยู่ในศาลเหมือนกัน”

ถือว่าจับรุนแรงมั้ย?

เดชา : “ดูแล้วก็รุนแรง แต่จะเกินกว่าเหตุหรือไม่ก็ต้องเทียบกับคดีอื่นตอนนี้ตำรวจไทยจับคนร้ายรายสำคัญก็รุนแรง เช่นพุทธอิสระ ก็แบบนี้ พังประตูเข้าไปจับนอนคว่ำ เหยียบ ใส่กุญแจมือ นายกฯ ก็ออกมาขอโทษ  กรณีนี้ถ้าถามผม ผมว่าผู้ต้องหาก็คนชรานะ 60 กว่า เรื่องท้าชกก็เก่งแต่ปาก ผมคิดว่าอย่างนั้น แกอายุมากแล้ว อ้วนด้วย มีโรคประจำตัว”

ปัญหาที่เกิด แกเหมือนไปสะบัดออก?

เดชา : “ในแง่กฎหมายอาจมองเหมือนลักษณะการขัดขืนการจับกุม ไม่ยอมให้จับ หรือไม่ให้โดนตัว แต่ตรงนี้แกสะบัด ก็ต้องไปคิดเอาเองว่าลักษณะขัดขืนหรือเปล่า หรือสะบัดเพื่ออะไร ตำรวจมีหมายจับเขาก็จับอย่างเดียว จะทำอย่างอื่นไม่ได้ หนึ่งเขาเป็นทนาย อยู่ท่ามกลางผู้สื่อข่าว อายุมากแล้ว ดูแล้วไม่น่าจะหลบหนี หลักการจับ ทีนี้หลักในการจับของตำรวจ วิอาญาเขาเขียนไว้สั้นๆ กว้างๆ ว่าต้องทำเท่าที่จำเป็น มันจำเป็นต้องทำขนาดนี้หรือเปล่า ก็ต้องไปดูกันนะครับเพราะผู้ต้องหาเป็นทนายความ ผมว่าสภาทนายความน่าจะมีการแถลงข่าวบ้างนะ”

ตอนตำรวจมาล้อม มีการอ่านหมายเขาโดนเรื่องรุกป่าแม่สอด?

เดชา : “พอทราบคร่าวๆ คือที่แม่สอด อ.สุกิจเคยโดนกล่าวหาว่าบุกรุกไปก่อสร้างไปใช้ประโยชน์ไปครอบครองพื้นที่ป่าสงวน และทางตำรวจอ้างว่ามีสัตว์คุ้มครองอะไรต่างๆ มีไก่ฟ้าหลังเทา ก็โดนสองข้อหา เหมือนเสี่ยเปรมชัย อันนั้นเสือดำ อันนี้ไก่ฟ้าหลังเทา ตอนจับคุณเปรมชัยเป็นยังไง”

ไปต่อสู้เขาหรือเปล่า?

เดชา : “ต้องไปดูว่าแกสะบัดเพื่ออะไร ต้องมาดูว่าเกินไปหรือเปล่า ต้องทำถึงขนาดนั้นมั้ย”

คนไม่ชอบแกคงสะใจ?

เดชา : “ก็อย่าไปคิดแบบนั้นเลย แกเป็นคนแรง เท่าที่ดูคลิปดูคอมเมนต์คนสมน้ำหน้าแกเยอะ แต่ไม่อยากให้มองอย่างนั้น อยากให้มองว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกินไปมั้ย เราเป็นประชาชนสามารถวิจารณ์สุจริตได้ ตำรวจจับผู้ต้องหาแรงทุกคดี  รองสันธนะ รองต่อ นั่นหนักเลย พอใครเถียงก็โดนต่อสู้ขัดขวาง ดูหมิ่นเจ้าพนักงานตลอด มันเป็นช่องว่างทำให้วิธีการจับดูรุนแรง ก่อนหน้านี้ศาลฎีกาเคยตัดสินมา ถ้าคุณใช้วิธีการจับให้เขาเกิดความอับอายผิดนะ 157 สมัยก่อนศาลฎีกาตัดสินมาไปจับเจ้ามือหวยเถื่อน จับเสร็จใส่กุญแจมือเดินทั่วตลาด คนเห็นก็อายเขา อ.สุกิจ แกอายุมากแล้ว มีโรคประจำตัว”

หลายคนบอกว่าแกเหมือนไปประกาศตัวเป็นผู้มีอิทธิพลหรือเปล่า?

เดชา : “บุคลิกแกเป็นคนโผงผาง เอะอะโวยวายเป็นนิสัยแก ส่วนมีอิทธิพลก็ต้องมีพยานหลักฐานว่าจริงหรือเปล่า แกก็คงเป็นที่เคารพ ดูแล้วก็น่าจะเป็นที่เคารพของชาวเขาถ้าดูจากคลิป เรื่องส่วนตัวเขาทำอะไรก็ไม่รู้”

แกยืนยันว่าแกได้รุก แล้วแกก็เหมือนเข้าไปครอบครองสิทธิ์โดยไม่มีโฉนดเรียกว่าอะไร?

เดชา : “ถ้าอยู่ในเขตป่าสงวนโดยไม่มีโฉนดก็ถือว่าเป็นความผิด ยกเว้นขาดเจตนา แต่ทีนี้ขาดเจตนาก็ต้องรอดู ก็เป็นห่วงอาจารย์อยู่เหมือนกัน”

ในมุมพี่เดชา คิดว่าผิดมั้ย?

เดชา : “ผิดหรือไม่ผิดตอบยากต้องไปดูสำนวน ที่ตำรวจเขากล่าวหาว่ามีอะไรบ้าง บุกรุกเมื่อไหร่เข้ามายังไง เข้ามาเมื่อไหร่ เขาไปขอหมายศาล ศาลออกหมายจับ แสดงว่ามีหลักฐานพอสมควรแล้วว่าน่าจะกระทำความผิด ก็เป็นสิทธิ์อาจารย์สุกิจไปต่อสู้ในชั้นศาลกันต่อไป”

วิดีโอคอล อัจฉริยะ วันนี้เป็นวันที่รอคอยหรือเปล่า?

อัจฉริยะ : “ไม่หรอกครับ เป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายกับคนที่ทำผิดกฎหมาย”

มีคนพูดกันเยอะแยะมากมายว่าเป็นเพราะพี่อัจไปร้องแล้วประสิทธิผลขึ้นมา ทำให้ดร.สุกิจถูกจับ?

อัจฉริยะ : “เรื่องนี้เดิม สภอ.จ.ตากเป็นเจ้าของคดี แล้วเราได้ร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ไม่สบายใจ เนื่องจากมีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงด้วย มีการข่มขู่เจ้าหน้าทีรัฐ ถ้าเราให้พื้นที่สภอ.ดำเนินคดีต่อจะไม่เป็นผลต่อความยุติธรรมร้องขอให้โอนคดีจากสภอ.มากองปราบปรามทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือหน่วยงาน ปปส. เป็นผู้ดำเนินคดีแทน”

เท่าที่เขาโดน น่าจะเป็นยังไง?

อัจฉริยะ : “ทางปปส. ไม่มีการคัดค้านประกันตัวและอยู่ระหว่างการสอบปากคำ เราก็ไม่ก้าวล่วงการทำงานกองปราบปรามทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”

เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณกับดร.สุกิจหรือเปล่า?

อัจฉริยะ : “ผมร้องนานแล้ว ร้องตั้ง 2 เดือนแล้ว ในขณะนั้นเรายังไม่มีอะไรกับดร.สุกิจด้วยซ้ำไป การปล่อยคนๆ หนึ่งทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยขุดเขาทั้งลูก แล้วปลูกสร้างอาคาร ในสถานที่เป็นกรมอุทยาน เราก็ต้องเรียนว่าจะปล่อยให้คนแบบนี้ไปทำลายทรัพยากร ตัดต้นไม้จำนวนมากเหรอครับ”

สิ่งที่เกิดขึ้น เกินกว่าเหตุมั้ย?

อัจฉริยะ : “ไม่ เมื่อมีการขัดขืนการจับกุมของเจ้าพนักงานตามหมายจับ ซึ่งเป็นยุทธวิธีอยู่แล้วตามกฎหมาย ในเมื่อคุณไม่ยอมให้เขาจับ เขาก็ต้องใช้กฎหมายบังคับ ต้องบอกเลยว่าภาพที่ปรากฏในวันนี้ ผมก็มองว่าเขาขัดขืนเอง เจ้าหน้าที่เขาเชิญดีๆ อยู่แล้ว แล้วจะขัดขืนเพื่อ”

ใครป๊ะกับพี่อัจ สุกิจยืนข้างหลังตลอด ล่าสุดก็ร่างทรงแสงสุริยเทพ?

อัจฉริยะ : “ก็ให้พี่น้องประชาชนตัดสินแล้วกัน เราต้องบอกว่าร่างทรง 4G มีการทำผิดกฎหมาย มีการทำผิดกฎหมายโดยอ้างเป็นร่างทรงบูรพกษัตริย์ มีคลิปวิดีโอ การไลฟ์สด แล้วผมจะไปกลั่นแกล้งเขาได้อย่างไร การที่เขาร้องทุกข์กล่าวโทษเราก็ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีนี้ เรานำหลักฐานไปยื่นที่กองปราบปรามเพื่อให้บังคับใช้กฎหมายกับคนที่ทำผิดกฎหมาย มันก็เป็นอำนาจการสอบสวนของกองปราบปราม

ขั้นตอนเขาก็เสนอไปแต่ละขั้นตอน ส่วนดร.สุกิจ อะไรก็ตามที่เป็นคู่กรณีกับเราก็เข้าไปพัวพันกับเขาทุกคดี แล้วก็ไปลอยแพเขา อย่างป้าติ้นไปดูแลตั้งแต่แรก พอป้าติ้นโดนจับก็ทิ้งเขา มีหลายเคส สุดท้ายก็ไปหลอกเขาทั้งนั้น ไปยืมมือเขามาเล่นงานผม แล้วคนแบบนี้จะปล่อยให้อยู่ในสังคมหรือไม่”

พี่อัจกำลังเป็นแบดแมนพิทักษ์คุณธรรมยามวิกาลจริงหรือเปล่า?

อัจฉริยะ : “ไม่หรอกครับ ตอนนี้ผมก็ถูกบังคับใช้กฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ถ้าหากเราปล่อยให้คนที่เป็นนักกฎหมาย ผมว่ามันไม่ถูกต้อง ผมโดนมา 19 คดี ผมก็ต่อสู้ทุกคดี”

พี่เดชาอยากพูดอะไรอีกมั้ย?

เดชา : “ก็ไปว่ากันที่ชั้นศาล ใครผิดใครถูกก็ว่ากันไม่ได้”

 

MED HUB NEWS -