สนช.เสนอรัฐบาลเลื่อนประกาศใช้ภาษีที่ดินจากปี 2562 ออกไป ขณะที่ผอ.สศค.เผยเหตุมีผู้ขวางกฎหมายนี้สุดตัว
สนช.เตรียมเสนอรัฐบาลเลื่อนประกาศใช้ภาษีที่ดินจากปี 2562 ออกไปอีกปี อ้างเพื่อความรอบคอบ ขณะที่ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยเหตุล่าช้าเกิดจากผู้มีที่ดินมากๆขวางร่างกฏหมายนี้สุดตัว
18 มิถุนายน 2561-พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง สนช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เปิดเผยว่า กมธ.จะขอแก้ไขให้กฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังคับในปี 2563 จากเดิมจะให้บังคับใช้ปี 2562 โดยจะสอบถามรัฐบาลด้วย แต่ได้ขยายเวลาการทำงาน กมธ.ออกไปอีก 60 วัน ซึ่งเป็นการขยายครั้งที่ 7 และจะประชุมวันที่ 20 มิถุนายนนี้ เพื่อพิจารณาข้อสังเกตจาก 20 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจากคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่าย ให้ครบถ้วนก่อน
“เป็นที่เข้าใจกันในกลุ่ม สนช.ว่ารัฐบาลส่งสัญญาณให้ลากยาวการออกกฎหมายออกไปหลังการเลือกตั้ง เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกว่า” แหล่งข่าวระบุ
นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า คลังพยายามเข็นร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ ให้ผ่าน สนช. เพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะผ่านเมื่อใด และใช้ได้ทันปี 2562 หรือไม่ เพราะผู้มีที่ดินมากๆ จะขวางกฎหมายนี้สุดตัว
ทั้งนี้ Land Watch Thai ได้เคยรวบรวมข้อมูลจากบัญชีทรัพย์สิน ที่ สนช.ต้องแสดงต่อ ป.ป.ช. พบว่าสมาชิก สนช. ทั้งหมด 247 คน ครอบครองที่ดินที่มูลค่ารวมกันถึง 9,803,618,528 บาท โดย สมาชิก สนช. ที่ครอบครองที่ดินที่มีมูลค่ามากที่สุดอยู่ที่ 1,197,900,920 บาท และที่น้อยที่สุดคือ 200,000 บาท เฉลี่ยคนละ 42,075,616 บาท
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ โฆษกคณะ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม กล่าวว่า จะขยายเวลาการทำงานของ กมธ.เพิ่มเติมเพื่อปรับถ้อยคำให้ตรงกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตซึ่งกำลังรอการประกาศใช้
ทั้งนี่้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เสนอเลื่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำคัญอย่างน้อย 4 ฉบับออกไปก่อน ซึ่งจะส่งผลต่อการประกาศใช้บังคับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ ร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม