ผมเขียนเรื่องนี้เพื่อผู้หญิงนะครับ และเพื่อให้ครอบครัวในสังคมไทยผูกพันกันยิ่งขึ้น นอกใจกันลดลงครับ
ผมอ่านเรื่องนี้ในหลายกระทู้แล้วมองเห็นว่า สังคมไทยไม่เข้าใจเรื่อง สรีรวิทยาที่เกี่ยวกับเพศศึกษา (สังคมเราสอนไม่ถูก ปัญหาจึงตามมามากมาย)
1. สรีรวิทยาเพศตามร่างกาย... ผู้ชายแปลงร่าง 2-3 นาที ผู้หญิงแปลงร่าง 7.5-8.7 นาที โดยเฉลี่ยทั่วโลก ธรรมชาติให้เรามาแบบนี้ ผู้หญิงนานกว่ามาก (ปัญหามีไว้ให้แก้ไข .....ใช้ 8.7 ลบด้วย 3 = 5.7นาที ปัญหาก็แก้ได้แล้วครับ)
- ระยะที่1 ถ้าไม่มีการกระตุ้นจนช่องคลอดขยายขนาดเต็มที่ ถ้าผู้ชายแปลงร่างเลย จะทำให้ผู้หญิงจะเจ็บและหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ หรือหลีกเลี่ยงคนนี้
.........จบแบบขาดความรู้ และขาดความเห็นใจผู้หญิง หรือเห็นผู้หญิงเป็นเพียงที่ระบายทางเพศ (ผู้ชายต้องกระตุ้นเฉลี่ย3.9นาทีจึงจะพร้อมใช้งาน ผู้หญิงต้องกระตุ้นเฉลี่ย13.9นาทีจึงจะพร้อมใช้งาน.....การเล้าโลม) ...จะได้ไม่ได้ต้องเมลถามนะครับ...ผู้ชายกระตุ้นส่วนไหนผู้หญิงก็เหมือนกัน^^*
- ระยะที่2 มีการกระตุ้นจนอวัยวะนั้นของทั้ง2เพศขยายขนาดเต็มที่ ผู้หญิงเริ่มแปลงร่าง ถ้าผู้ชายแปลงร่าง3นาที ไม่รอผู้หญิงอีก5.7นาที
.........จบแบบผู้หญิงอารมณ์ค้าง และขาดความเข้าใจผู้หญิง ส่วนผู้ชายรู้สึกตัวเองไม่เก่งไม่ภูมิใจในเรื่องนี้ โดยไม่เข้าใจว่าผู้ชายที่แปลงร่างได้นานที่สุดในโลกก็แค่5.5นาที ไม่ถึง7.5-8.7นาทีอยู่ดี.....ธรรมชาติช่างโหดร้าย แต่ปัญหามีไว้ให้แก้ไข
- ระยะที่3 มีการกระตุ้นจนอวัยวะนั้นของทั้ง2เพศขยายขนาดเต็มที่ ผู้หญิงเริ่มแปลงร่าง และผู้ชายกระตุ้นหรือบด รอ5.7นาทีขึ้นไป ค่อยแปลงร่าง
.........จบแบบทั้งคู่จะถึงใกล้เคียงกัน เข้าใจกันและกัน ต้องการให้เกิดความสุขขึ้นทั้ง2ฝ่าย.....ความรักด้านหนึ่งคือ ความสุขใดๆที่เกิดจากทั้ง2ฝ่าย (ฝรั่งเค้าใช้วิธี เมื่อผู้หญิงเริ่มแปลงร่างได้6-7นาที เค้าจะบอกให้ผู้ชายตามชั้นมา)
*แปลงร่าง หมายถึง Plateau phase คือ ปริมาณเลือดคั่งในหลอดเลือดดำสูงสุด ทำให้อวัยวะนั้นของทั้ง2เพศขยายขนาดเต็มที่และรับความรู้สึกได้เต็มที่ ถ้ากระตุ้นไม่ถึงระยะนี้ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็ไม่มีทางถึงจุดสุดยอดครับ ทั้ง2เพศเหมือนกัน แตกต่างกันแค่ระยะเวลา
*ถ้ามาถึงจุดสำเร็จร่วมกันนี้ได้ จากข้อมูลทางการแพทย์ แทบไม่พบปัญหาการนอกใจเลยครับ...โดยพบว่าช่วงระยะorgasm มีปริมาณออกซิโทซินในเลือดสูงขึ้น ออกซิโทซิน(อ๊อกซิโตซิน) คือ ฮอร์โมนแห่งความรัก ความผูกพันและความเชื่อใจ.... เกิดจากกิจกรรม ให้นมบุตร ถึงจุดสุดยอด การกอด การนวด การแบ่งปันอาหาร..... แต่ละกิจกรรมมีการหลั่งฮอร์โมนไม่เท่ากัน(ตามลำดับ) และสมองจดจำเป็นความรักแบบต่างๆ ต่อผู้ที่ทำให้ฮอร์โมนนี้หลั่ง(เหมือนการให้รางวัล)
- จากการทดลอง หนูสายพันธุ์หนึ่งที่มักจะอยู่เป็นคู่ผัวเดียวเมียเดียวตลอดชีวิต(พบว่ามีฮอร์โมนชนิดนี้สูง มันทั้งคู่เอ็นจอยในการทำการบ้านและดูแลขนต่อกันมากครับ เกือบ10รอบต่อวัน O o) เค้าทดลองยับยั้งการใช้ฮอร์โมนตัวนี้ พบว่า พวกมันนอกใจไปหาหนูตัวผู้และตัวเมียรังใหม่ครับ ^^*
- การทดลองกับตัวเมียที่ให้นมลูก เค้าทดลองยับยั้งการใช้ฮอร์โมนตัวนี้ มันเลิกเลี้ยงลูกครับ
...และยังพบอีกว่าคนที่นอกใจคู่รัก(รวมถึงผู้ชายเจ้าชู้หรือชอบเที่ยวผู้หญิง) มักมาไม่ถึงจุดนี้ ทำไม่เป็นเอง แล้วไปผิดหวังกับคู่รักของตัวเองครับ O o (จากการเก็บข้อมูลของไทย ผู้หญิงบริการเคยถึงจุดสุดยอดกับผู้ชายที่มาใช้บริการต่ำกว่า1%ครับ) คุณผู้หญิงที่รู้แล้ว อย่าไปเสียเวลาคบนะครับ เพราะ กว่าจะสำเร็จได้ มันไม่ง่ายแค่ใส่เข้าไป แบบที่สังคมไทยสอนให้เชื่อเลย(ใส่ก่อนเวลา ทำผิดเวลา ก็ล้มเหลวแล้วครับ) ความจริงจะต้องกระตุ้นผู้หญิงให้ผ่าน Excitement phase และ Plateau phase จึงจะสำเร็จได้ และผู้หญิงที่รู้เรื่องนี้ก็สามารถบอกคนรัก เพื่อแก้ปัญหาร่วมกันด้วยความรักได้(ออกแบบร่วมกัน) มันเป็นการทำเพื่อคนรัก ไม่ใช่แค่ความต้องการทางเพศเพียงอย่างเดียว จึงจะสำเร็จครับ ^^ (ช่วยกันสร้างออกซิโทซินให้กันและกัน ครอบครัวผูกพันไม่นอกใจครับ)
- สำเร็จทั้งคู่ ทำการบ้านประจำ(วันเว้น1-2วัน) จะพบฮอร์โมนตัวนี้สูงทั้งคู่..... ทำให้ทั้งคู่จะรักเอาใจใส่ต่อกันมาก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเพราะ ได้รับฮอร์โมนตัวนี้ตลอดเวลา และลดการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว(ฮอรโมนมีผลลดความเครียดจากคอร์ติซอล และมีผลต่อสมองในส่วนอมิกดาล่าที่ควบคุบความโกรธ) .....จะไม่นอกใจกัน ถ้าเลิกกันจะเลิกด้วยปัญหาอื่น ที่ต้องแย่มากจริงๆ(ซึมเศร้ามากจนยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนตัวนี้)
- คู่ที่ไม่สำเร็จ(ไม่ร่วมมือกัน แก้ไขปัญหาให้ตรงสาเหตุ) ทำการบ้านลดลง(เว้นมากกว่า3วันมาก) ทำให้ขาดฮอร์โมนนี้ทั้งคู่.....จะเอาใจใส่ต่อกันลดลง เมื่อเวลาผ่านไป พบปัญหาอื่นด้วยกันมากขึ้น ความอดทนต่อกัน ในปัญหาอื่นจะต่ำลง...... ปัญหาครอบครัวจึงตามมา ทะเลาะง่ายขึ้น เห็นใจกันลดลง....นำไปสู่ปัญหานอกใจหรือหย่าร้าง
ผมว่าสังคมไทยสอนเรื่องเพศผิดครับ(สอนผู้ชายให้ทำไม่เป็นแต่เชื่อว่าเป็น สอนผู้หญิงให้อดทนทั้งที่เจ็บและไม่สำเร็จ).... อาจเกิดจากในอดีตขาดความรู้เรื่องนี้.....จริงแล้วกลไกทางชีวะเคมีของร่างกายเรา ถ้าฮอร์โมนออกซิโทซินสูง จะไม่มีทางที่จะนอกใจหรือไม่เอาใจใส่คนรักเลย ไม่ว่ากี่ปีผ่านไปก็ตาม แต่คนไทยสอนต่อๆกันมาผิด ....กลไกนี้จึงไม่เกิดขึ้น ทำให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมา
(ธรรมชาติกำหนดให้ มนุษย์เป็นคู่ผัวเดียวเมียเดียว(ไม่ว่าจะเพศปกติหรือเพศที่3) เพราะฮอร์โมนนี้ครับ ไม่ใช่ค่านิยมหรือความเชื่อ....ธรรมชาติให้มาแล้ว แต่ขาดความรู้เรื่องนี้ จึงไม่สามารถใช้กลไกนี้ได้ครับ)
อ่านการตอบสนองทางเพศแบ่งเป็น4ระยะ จะเข้าใจระยะต่างๆว่าหน้าตาเป็นอย่างไรครับ
http://talkaboutsex.thaihealth.or.th/knowledge/3500
http://talkaboutsex.thaihealth.or.th/knowledge/3501
*ปัญหาคือ ชายไทยไม่เข้าใจ ถูกสอนให้เชื่อแบบผิดๆและเล้าโลมน้อยเกินไป จนผู้หญิงยังไม่ผ่านเฟสที่1 ทำให้ผู้หญิงเจ็บและรู้สึกแย่กับเรื่องนี้
ปัญหาครอบครัวต้องแก้ด้วยความจริง ความรัก ความเข้าใจและเห็นใจกันทั้ง2ฝ่าย ช่วยเหลือแก้ปัญหาไปด้วยกัน สุขอยู่ฝ่ายเดียวเป็นไปไม่ได้
จากปัญหาขาดความรู้ด้านบนหรืออื่นๆ ส่งผลให้พบว่า *ข้อมูลอ้างอิงดูเร็กโพลและบทความของสูตินารีแพทย์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเนต
- ชายไทยเล้าโลมต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก (เวลาในการทำการบ้านที่ดีไม่ควรต่ำกว่า40นาทีนะครับ ค่าเฉลี่ยทั่วโลก36นาที ชายไทย29นาที)
- หญิงไทยไม่ได้แปลงร่างจนสำเร็จ 70 %.....(ชายไทยเดินมา 10 คน จะเข้าใจเห็นใจผู้หญิงเรื่องใช้เวลาแปลงร่าง8.7นาทีแค่เพียง 3 คน....แรร์ไอเท็ม)
- ชายไทยนอกใจอันดับ1ของโลก54% หญิงไทยนอกใจอันดับ2ของโลก59% คือ ทั้ง2เพศผิดหวัง ตามหาในกลุ่มที่ทำไม่สำเร็จเหมือนกัน ไม่ได้แก้ปํญหาที่ต้นเหตุจริง คือ ขาดความรู้เรื่องการแปลงร่าง....คนไทยไม่ชอบอ่านคู่มือก่อนใช้งาน ^^ (เอิ่มหญิงไทยนอกใจเยอะกว่าอะ ก็นะไม่สำเร็จตั้ง70%)
- ผลวิจัยพบว่าขนาดหรือความยาว ไม่เกี่ยวกับการแปลงร่างของผู้หญิง แต่เป็นการกระตุ้นและระยะเวลาที่ใช้ในการแปลงร่างตั้งหาก
เรื่องตลกจากผลดูเร็กโพล ถ้าผู้ชายญี่ปุ่นเดินมา10คน ให้เลือกอเมริกาคนที่11แทน
เพราะ ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ได้แปลงร่างจนสำเร็จ92% แต่ผู้หญิงอเมริกาแปลงร่างจนสำเร็จ64% .....เอวีและการสอนของญี่ปุ่นล้มเหลวเรื่องนี้
(แซวเล่นนะครับ ถ้าผู้ชายคนไหนชอบเอวีญีปุ่นอย่าไปคบครับ ล้มเหลวตั้งแต่ความเชื่อละ - -*.....ปัญหานอกใจ อาจมาจากความนิยมเอวีญี่ปุ่นของสังคมไทยไหมเนี้ย - -)
ปัญหานอกใจติดอันดับโลกของคนไทย.... ปัญหาครอบครัว ปัญหาหย่าร้าง ปัญหาเอาอารมณ์โกรธ(ทะเลาะ)มาลงกับลูก ปัญหาเด็กขาดพ่อหรือแม่ หรือปัญหาผิดหวังเรื่องนี้แล้วใช้เพศที่3ระบายทางเพศ โดยทำร้ายจิตใจเพศที่3ต่ออีกที ......ปัญหาตามมาไม่จบสิ้น
มันไม่เกี่ยวกับขนาดหรือความยาวเลยครับ ใช้นิ้วเดียวก็สำเร็จ(ช่องคลอดจะปรับขนาดเองในระยะPlateau phase) แต่มันเกี่ยวกับ การใช้ระยะเวลาที่ยาวนานพอไหมในแต่ละเฟส ธรรมชาติให้มาแบบนี้เหมือนกันทุกคน ค่าเฉลี่ยทั่วโลก ระยะเวลาในเฟสต่างๆผู้หญิงนานกว่าผู้ชายมาก ถ้าไม่เรียนรู้ทำความเข้าใจ....ก็ไม่มีวันพบ.......(จริงแล้วนิ้วเดียวสำเร็จได้ชั่วโมงครึ่ง ดังนั้นความเชื่อเรื่อง ขนาดหรือความยาวจะทำให้สำเร็จเพิ่มขึ้น ....เป็นความเชื่อที่ผิดครับ)
*จากการทดลองด้านเพศศึกษาของอเมริกา เพื่อหาค่าmaxในระยะorgasmของผู้หญิง พบว่า ไม่พบค่าmax .....ผู้ทดลองสามารถทนในระยะorgasmเฉลี่ย20-30min และมี1คนทนได้สูงสุด1.30hr ไม่พบลิมิตจำนวนorgasm(โดยเฉลี่ยทุกๆ41sec)...ผู้ทดลองทนไม่ไหวจึงไม่พบค่าดังกล่าว (ไม่สามารถใช้ผู้ชายทำการทดลองได้ เพราะเฟสของผู้ชายนานไม่พอครับ เค้าใช้เลสเบี้ยนเป็นผู้ทำการทดลอง กับอาสาสมัครผู้หญิง8คนในคลาสนั้น O o ถ้าหยุดเปลี่ยนคนหรือเจ็บคือ จบนะครับ(ผู้หญิงจะเข้าระยะกลับคืนภายในไม่กี่วินาที) เดี๋ยวจะเข้าใจอะไรผิดๆ
....สรุปได้ว่า ธรรมชาติให้ผู้หญิงมีความสุขมากกว่าผู้ชาย คือ อยู่ในระยะorgasmได้นานมากกว่าผู้ชายมากกกก ถ้าผู้หญิงบอกว่าไม่มีความต้องการเรื่องนี้ อาจบอกได้ว่า ไม่เคยสำเร็จเลยและเจ็บด้วยครับ (ค่าเฉลี่ยในคู่ที่สำเร็จของไทย วันเว้น1-2วันนะครับ ถ้านานกว่านี้มาก แสดงว่าไม่สำเร็จนะครับ)
.....(ความเชื่อเรื่องธรรมชาติให้ผู้หญิงมีความสุขเรื่องนี้ต่ำกว่าผู้ชาย จึงต้องการต่ำกว่า ....เป็นความเชื่อที่ผิดครับ สมมุติฐานผู้หญิงต้องคลอดบุตร ลดความเจ็บปวดในการคลอด จึงต้องให้ได้เอ็นโดรฟินนานกว่าผู้ชาย)
.....ผู้ชายsec.แห่งความสุข ผู้หญิงhr.แห่งความสุข (ผมว่า ธรรมชาติโคตรโหดร้าย... หน่วยมันต่างกันโคตรเยอะเลยอ่ะ- -*)
*วัยทำงานเพศที่3ทำการบ้านร่วมกันสำเร็จมากกว่า90% (ไม่ถึงไม่เลิก) จากที่ทราบมา O o คือ เพศเดียวกันเข้าใจกันและกันเรื่องนี้ มากกว่าผู้ชายหรือผู้หญิงปกติ ที่ไม่เข้าใจการแปลงร่าง...ไม่ได้ชี้โพรงนะครับ มันไม่ถูกเลย ที่จะไปหาความสุขฝ่ายเดียวแล้วทำร้ายจิตใจเพศที่3
2. สรีรวิทยาเพศตามสมอง จากการทดสอบสแกนสมองที่ผมอ่านพบ เช่น เห็นผู้หญิงสวยหรือผู้ชายหล่อ ตำแหน่งการทำงานในสมองของเพศที่3จะทำงานเหมือนเพศตรงข้ามครับ เลสเบี้ยนเหมือนผู้ชาย เกย์เหมือนผู้หญิง (การทำงานของสมอง เป็นการตอบสนองโดยฉับพลัน ไม่สามารถกำหนดด้วยความคิด จากการศึกษาในปัจจุบันเราพบแล้วครับว่า สมองคือตัวกำหนดเพศ และเพศที่3เลือกสมอง มาเกิดเองไม่ได้ครับ เหมือนที่ทุกคนที่เลือกสมองแบบ บิล เกตส์ มาเกิดไม่ได้ ^^)
..... เท่าที่ทราบเพศที่3 ไม่ต้องการร่วมชีวิต กับเพศเดียวกันที่ปกติ(ไม่ใช่เพศที่3) เพราะ คนหนึ่งรุกกับอีกคนรับความสุขฝ่ายเดียว-วันเวย์ (คงพอจะให้คำตอบได้ว่าเพศที่3ที่คบกับเพศปกติ ขาดออกซิโทซินจึงเจ้าชู้กันนะครับ ^^) ไม่ว่า เกย์ ตุ๊ด ทอม ดี้ เลสเบี้ยน ถ้าไปคบกับเพศปกติ.... ตรงนี้หวังว่าเพศที่3ที่ยังไม่เข้าใจ จะเข้าใจ คบเพศที่3ด้วยกัน รุกกันและกันมีความสุขทั้ง2ฝ่าย-ทูเวย์ (สร้างออกซิโทซินให้กันและกัน ครอบครัวผูกพันไม่นอกใจครับ) เข้าใจกันในเรื่องครอบครัวและสังคมแบบเพศที่3ด้วย จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดจากปัญหาไบเซ็กชวลซึ่งไม่มีจริง (จากผลการทดลองไบเซ็กชวลไม่ได้มีปฏิกริยาต่อรูปลักษณ์ทั้ง2เพศ มีปฏิกริยาแค่เพศเดียวกันหรือเพศตรงข้ามเท่านั้น จึงสรุปผล ไบเซ็กชวลไม่มีจริง น่าจะเกิดจาก ครอบครัว สังคม การเงินหรือความต้องการทางเพศ)
ปล. หวังว่า การอธิบายความเข้าใจสรีรวิทยาและสะท้อนความจริงของทุกเพศแบบเนิร์ดๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาการนอกใจ หย่าร้าง ปัญหาไม่เข้าใจของเพศที่3 และปัญหาอื่นๆในสังคมได้นะครับ (ผมเขียนเรื่องนี้เพื่อผู้หญิงนะครับ และเพื่อให้ครอบครัวในสังคมไทย(ทุกเพศ)ผูกพันกันยิ่งขึ้น นอกใจกันลดลงครับ)
"ธรรมชาติ สร้างให้มนุษย์มั่นคงในคู่รักของตน และสร้างครอบครัวที่อบอุ่น ทำให้ได้ผลผลิต มนุษย์รุ่นหลังที่ดีขึ้นเรื่อยๆ"
(แต่กลับเป็นมนุษย์เอง ที่ใส่ค่านิยม ความเชื่อหรืออคติ ที่ผิดธรรมชาติเข้าไปเรื่อยๆต่อสังคม จนกลายเป็นสังคมที่มีปัญหาเช่นทุกวันนี้)
คำตอบ
ความคิดเห็นที่ 1 -100 (ตอบคำถาม การทดลองของมาสเตอร์และจอห์นสัน การตอบสนองทางเพศ ครับ)
ความคิดเห็นที่ 100ขึ้นไป (ตอบคำถาม การทดลอง1.30hr ผลของฮอร์โมนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์ และเพศที่3 ปล ผมเอามาจากพันทิป https://pantip.com/topic/31883472/page3