งบ 2562 เข้าสภา วงเงินมากที่สุด 3ล้านล้าน ’บิ๊กตู่’ยันโปร่งใส

งบประมาณปี 2662 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ขาดดุลกว่า 400,000 ล้าน ศธ.ได้มากที่สุด

7 มิ.ย. 2561 เวลา 09.00 น. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะการประชุมพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 วาระแรก ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปนำเสนอ
ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ มีทั้งหมด 61 มาตรา กรอบวงเงิน 3,000,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณขาดดุล 450,000 ล้านบาท

เนื่องจากประมาณการจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 2,550,000 ล้านบาท โดยมีสาระสำคัญที่น่าสนใจคือ มาตรา 34 (3) กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก วงเงินสูงถึง 40,000 ล้านบาท ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่า จะถูกนำมาใช้เพื่อเตรียมพร้อมต่อการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2562 หรือไม่

โดยกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบมากที่สุดคือกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 489,000 ล้านบาท รองลงมาคืองบกลาง และกระทรวงมหาดไทย

‘มั่นคง’ปี 62 งบ 3 แสนล้าน’บิ๊กตู่’ยัน3ลล.โปร่งใส

นายกรัฐมนตรี ชี้แจง การจัดสรรงบประมาณ ของรัฐบาล ประจำปี 2562 รวม วงเงิน 3 ล้านล้านบาท โดยเป็นการจัดสรรแบบขาดดุล ขณะเดียวกันคาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัว ร้อยละ 3.9-4.9

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2562 ที่ คณะรัฐมนตรีเสนอ วงเงินงบประมาณ 3 ล้านล้านบาท จากการจัดเก็บรายได้ 2.55 ล้านล้านบาท และวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท โดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหน. คสช. ขอเวลาชี้แจง 2 ชั่วโมง  ภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง ที่กำหนดให้รัฐต้องจัดสรรงบประมาณลงทุน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของรายจ่าย

โดยจำแนกตาม 6 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง  329,000 ล้านบาท ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  400,000 ล้านบาท ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน  560,000 ล้านบาท ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหา ความยากจนลดความเหลื่อมล้ำและสร้างการเติบโต  397,000 ล้านบาท ยุทธศาสตร์ด้านการจัดการน้ำและการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน  117,000 ล้านบาท และยุทธศาสตร์การปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ  838,000 ล้านบาท

นายกฯ ระบุด้วยว่า ในปี 2562 เศรษฐกิจจะขยายตัว 3.9-4.9% โดยมีปัจจัยขับสำคัญจากการใช้จ่ายในประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนภาคเอกชน และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการก่อสร้าง ตลอดจนการส่งออกและการท่องเที่ยวที่เติบโตได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 0.9-1.9% และมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 6.3%   

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันจะบริหารงบประมาณ ด้วยความโปร่งใส่สามารถตรวจสอบได้และเป็นไปตาม พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในวันหน้านายกรัฐมนตรีต้องซื่อสัตย์มีคุณธรรม ดูให้ทั่วถึง วันหน้ารัฐบาลที่ท่านคาดหวังขอให้ทำได้แบบนี้แล้วกัน ตนไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีแต่มาวางแนวทางให้