เมื่อเห็นเด็ก ป.1 เข้าบ้านไม่ได้ นั่งรอพ่อกลับบ้านมืดๆค่ำอยู่คนเดียว
ย้อนกลับไปในสมัยที่ผมยังเป็นเด็กตัวน้อยๆ
สมัยนั้น แถวๆบ้านผมเรียกได้ว่ายังเป็นชนบทอยู่ครับ
บ้านเรือนก็ยังมีไม่มากนัก บ้านแต่ละหลังก็อยู่ห่างกันพอสมควร
ไม่ได้สร้างติดกันจนแออัดเหมือนสมัยนี้
อย่างบ้านผมนี่ หลังบ้านติดทุ่งนาเลยทีเดียว
ตอนนั้นผมอายุ 12 ปี เรียนอยู่ ป.6 พอเลิกเรียนผมก็เดินกลับบ้าน
ไม่มีรถรับส่งเหมือนอย่างสมัยนี้หรอกครับ
แต่บางวันกว่าจะกลับจากโรงเรียนได้ ก็มัวแต่เล่นกับเพื่อนๆจนมืดค่ำถึงได้กลับบ้าน
และถ้ากลับถึงบ้านตอนท้องฟ้าไม่มีแสงเมื่อไหร่ ก็จะโดนแม่ตี ทุกครั้ง
ดังนั้นผมก็เลยต้องกลับบ้านก่อนมืดเสมอ
ทุกๆวันระหว่างทางกลับบ้าน ผมจะเดินผ่านบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ระแวกบ้านผม
ประมาณช่วงต้นๆซอยหน่อย
เมื่อก่อนบ้านหลังนั้นเป็นร้านขาย พวกก๋วยเตี๋ยว พวกแกงเส้น ของหวาน
ตอนเด็กๆผมก็แวะกินบ้าง เวลาที่กลับจากโรงเรียน
แต่พอป้าคนขายที่เขาเป็นเจ้าของร้าน เสียชีวิตลง เขาก็ปิดร้านไปเลย
ไม่เห็นเขาเปิดร้านตรงนั้นอีกเลย
ช่วงหลังๆก็เห็นคนมาอยู่บ้านหลังนั้น ไม่รู้ว่าเป็นญาติหรือคนมาเช่าอยู่นะครับ
แต่ช่วงผมอยู่ ป6 นี่แหละครับ เวลาเดินกลับบ้านตอนเย็น
บางวันผมก็เห็น น้องผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่ชุกนักเรียน นั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน
คล้ายๆรอพ่อหรือแม่กลับมา
แต่ผมจำได้ว่าน้องเขาก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันกับผมนี่แหละครับ
เพราะตอนเข้าแถวหน้าเสาธงก็เจอน้องเขาอยู่บ้าง น้องเขาน่าจะเรียนอยู่ราวๆ ป.1
บางวันผมก็เห็นพ่อของน้องเขากำลังไขกุญแจเข้าบ้าน โดยมีน้องเขายืนอยู่ข้างๆ
แต่ก็ไม่เคยเห็นแม่ของน้องเขาสักทีนะครับ
นานๆครั้งผมก็เห็นน้องคนนี้นั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน รอพ่อของเขา
จนชินตา และรู้สึกไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร
จนกระทั้งวันหนึ่ง
หลังจากเลิกเรียนแล้ว ผมก็มัวแต่เล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนเพลินจนลืมเวลาเลย
พอมองดูท้องฟ้าอีกที พระอาทิตย์ก็เริ่มอัสดงแล้ว
"ตายห่าหละ จะมืดแล้วหรือ โดนแม่ตีแน่เลย"
พอคิดได้ก็รีบบอกเพื่อนว่า "กลับก่อนหละ เดี๋ยวแม่ตี"
ผมรีบกลับบ้านในช่วงเวลาที่โพเพ้ กึ่งวิ่งกึ่งเดิน จนมาถึงแถวๆ ซอยบ้านผม
พระอาทิตย์เริ่มสองแสงริบหรี่ บรรยกาศสะโหลสะเหล จนกดดันให้ผมต้องรีบเดิน
พอเดินมาใกล้จะถึงบ้านน้อง ป.1 คนนั้น
มองไประยะสายตาก็เห็นน้องเขานั่งเล่นอยู่ตรงหน้าบ้าน
ผมนึกในใจ " โหจะมืดค่ำแล้วพ่อเขายังไม่กลับอีกหรือนี่ "
แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก รีบเดินกลับบ้านต่อ
พอเดินเข้าไปใกล้ๆ
น้องเขานั่งเล่นเหรียญบาทอยู่หน้าบ้าน
บ้านหลังนั้นเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวเก่าๆ หลังคาสังกะสี หน้าบ้านเป็นประตูที่เอาไม้กระดาน
หลายๆแผ่นมาเรียกกันเป็นประตู เวลาเปิดแผ่นไม้นั้นออกทุกบาน มันก็จะเป็นร้านโล่งๆ
ที่ใช้ทำร้านก๋วยเตี๋ยวสมัยก่อน
ข้างหน้าก็เป็นชานพักที่ยกสูงขึ้นมาสูงประมาณเข่า ชานพักนี้ก็ทำจากไม้แผ่นกระดานเก่าๆ ยาวไปตลอดแนว
น้องคนนั้นนั่งเล่นเหรียญบาท อยู่ตรงชานไม้หน้าบ้าน ปล่อยเหรียญให้กลิ้งไปตามแผ่นไม้ที่เป็นชาญบ้าน
ผมมองผ่านๆตา ไม่ได้ใส่ใจอะไร
พอเดินผ่านเข้าไปใกล้ๆผมก็เห็น เหมือนเหรียญบาท ที่น้องเขากลิ้งเล่น มันหล่นลงไปในช่องไม้
ที่มันวางเรียงกันไม่สนิท มันก็เลยตกลงไป ตรงช่องนั้น
แล้วก็เห็นน้องเขา รีบก้มลงไปส่องดูตรงช่องที่เหรียญนั้นตกลงไป
พอผมเดินไปใกล้จะถึง น้องเขาก็ลุกขึ้นมาแล้วก็วิ่งลงไปที่ถนนหน้าบ้าน หยิบเศษไม้ ที่เป็นเหมือนไม้เสียบลูกชิ้น
แล้วก็วิ่งกลับไปที่ชาญพัก เอาไม้เขี่ยๆลงไปในรูที่เหรียญตกลงไป
พอผมเห็นก็หยุดดู
กะว่าจะเข้าไปช่วยน้องเขา
พอเข้าไปนั่งลงข้างๆน้องเขา ก็ถามน้องเขาว่า
มองเห็นหรือมันมืดแล้ว
น้องเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองผม แล้วก็ยิ้มให้
ผมก็เลยส่องลงไปตรงช่องที่น้องเขาส่องอยู่บ้าง
แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย มันมืดมาก
ก็เลยบอกน้องเขาไปว่า
"เอาอะไรมาขีดไว้ ว่ามันตกลงไปตรงช่องนี้ แล้วพรุ้งนี้ตอนเช้าค่อยมาหา"
"ตอนนี้มันมืด มองไม่เห็นหรอก"
น้องเขาก็เลยวิ่งลงไปที่ถนนอีก แล้วก็ไปหยิบเอา เศษถ่านก้อนดำๆ มา
แล้วก็มาขีดไว้ตรงช่องที่มันตก
พอทำเครื่องหมายไว้แล้ว
ผมก็เลยถามน้องเขาว่า "ยังไม่เข้าบ้านอีกหรือ จะมืดแล้วนะ"
น้องเขาก็บอกว่า "พ่อยังไม่กลับ "
ผมก็เลยพูดไปว่า "อ้าวแล้วไม่มีกุญแจเข้าบ้านหรือ"
น้องเขาก็ตอบว่า
" ไม่มี "
"แต่เคยเห็นพ่อเอากุญแจไปซ่อน ไว้ตรงหลังบ้าน "
ผมก็เลยแปลกใจ
"อ้าว รู้แล้ว แล้วทำไมไม่ไปเอาหละ "
น้องเขาก็บอกว่า เขาตัวเล็ก เอื่อมไม่ถึง มันอยู่สูง
ผมก็เลยบอกให้น้องเขาพาผมไปดูหน่อย มันอยู่ตรงไหน
พอน้องเขาพาผมเดินอ้อมไปตรงหลังบ้านไม้เก่าๆหลังนั้น
รู้สึกว่า ด้านหลังมันจะยกพื้นสูงไปอีกสเต็ปหนึ่ง
คือถ้าก้มตัวคลานไปตรงใต้ถุนบ้าน มันจะคลานเข้าไปได้ ในส่วนของตรงด้านหลังบ้านนะครับ
แต่ว่าด้านหน้าบ้านจะยกสูงแค่เลยเข่าไปนิดหนึ่ง
พอไปถึงหลังบ้าน น้องเขาก็พาผมมุดคลานเข้าไปใต้ถุงบ้าน แล้วก็พาไปหยุดอยู่ตรงเสาต้นหนึ่งที่อยู่แถวๆขอบตัวบ้าน
น้องเขาชี้ไปให้ผมดูตรงข้างบนที่เป็นพื้นบ้าน มันมีไม้แตกเป็นปล่องเล็กๆขนาดเท่ามือคนสอดเข้าไปได้
น้องเขาบอกให้มองลอดช่องนั้นขึ้นไป
ผมก็เลยค่อยๆเอาหน้าไปแนบที่ปล่องตรงนั้นแล้วก็มองขึ้นไป
ตอนนั้น บรรยกาศเริ่มค่ำแล้วแสงก็เริ่มริบหรี่ลง
จวบกับในตัวบ้านไม่ได้เปิดหน้าต่างอะไรด้วย ยิ่งทำให้ข้างในค่อนข้างมืดครับ
ผมกวาดสายตามองไปรอบๆก็เห็นผนังบ้าน เห็นเสาต้นที่ผมเอามือจับอยู่ยาวไปถึงหลังคา
แล้วก็เห็นพวงกุญแจ พวกหนึ่งห้อยอยู่ ตรงเสา
ดูๆแล้วมันก็ห้อยอยู่สูงพอสมควร ถ้าวัดจากตรงที่ผมยื่นอยู่จากใต้ถุนบ้าน
ผมก็เลยบอกน้องเขาไปว่า "เห็นแล้ว ใช่พวงที่แขวนอยู่ตรงเสานี้ใช่ไหม"
น้องเขาก็บอกว่า "ใช่"
ผมก็เลยหันตัวกลับลงมา แล้วก็ค่อยๆสอดมือเข้าไปตรงช่องนั้นช้าๆ
พยายามนึกถึงตำแหน่งที่กุญแจนั้นห้อยอยู่ แล้วก็กะระยะ ว่ามันอยู่ประมาณไหน
แล้วก็ยืดแขนไปจนสุด
แต่รู้สึกเหมือนไม่ถึงครับ
ผมก็เลยค่อยๆยืดปลายนิ้วไปอีก ตะวัดปลายนิ้วไปมา ควานหากุญแจไปรอบๆ
จนรู้สึกว่าปลายนิ้วผมมันเฉี่ยวไปโดนกับเหล็กอะไรสักอย่างเย็นๆ
ผมก็เลยบอกน้องเขาว่า อ้า.. จะได้แล้ว
แล้วผมก็เอียงคอจนหน้าติดกับพื้นไม้ เหยียดแขนไปจนสุดไหล่
ตวัดนิ้วไปอีกที
คราวนี้ รู้สึกว่า นิ้วผมไปโดนพวงกุญแจ จนมันกระเด็นตกลงไปที่พื้นเลยครับ
พอได้ยินเสียงกุญแจตกพื้น ผมก็ตกใจ " อ้าวเอ้ย.. ตกไปไหนแล้ว"
โปรดติดตามตอนต่อไป