ชาวสวนยางเตรียมเฮ !! กรมชลฯรับงบ 3 พันล้าน เตรียมซื้อยางเกษตรกรทำถนน ผู้ว่าฯกยท.ตรวจโกดังสต๊อกยาง พบเสื่อมสภาพเพราะเก็บนาน

วันที่ 27 พฤษภาคม 2561 ภายในโกดังเคทีเอ็มวู้ด จำกัด อ.กันตัง จ.ตรัง นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นายอรุณ พาณิชย์กุล ที่ปรึกษาฯ  นายสมยศ น้ำแก้ว ผอ.กยท.ตรัง  และคณะเดินทางมาสำรวจโกดังเก็บสต๊อกยางพาราตามโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรดเพือรักษาเสถียรภาพราคายางและโครงการมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพยาง ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2555 นายเยี่ยม กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจสอบโกดังเก็บสต๊อกยางพาราในพื้นที่จังหวักตรัง เนื่องจากยางเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2555 สภาพยางจึงเป็นตามอายุยางที่จัดเก็บ และเพื่อต้องการจำนวนสต็อกยางที่คงเหลืออยู่เท่าไหร่ เป็นยางประเภทใดมีคุณภาพอย่างไร อย่างไรก็ตามจำนวนสต๊อกยางที่คงเหลือจะตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งตามที่ได้รับรายงาน และในโกดัง

ส่วนคุณภาพยางก็ต้องตรวจและสรุปอีกครั้งเพื่อความชัดเจน ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเก็บสต๊อกไว้เป็นเวลานานหลายปี นายเยี่ยม กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ความเสียหายแต่หมายถึงยางที่ซื้อมาตั้งแต่ที 2555ก็ต้องเสื่อมตามคุณภาพ แต่ว่าสภาพโกดังที่มีการจัดเก็บมีความสมบูรณ์หรือเปล่า ซึ่งโกดังก็ยังดีแต่ยางก็เสื่อมไปตามสภาพ อีกทั้งกรณีค่าเช่าที่ต้องจ่ายให้กับเอกชนเกี่ยวกับการเช่าสถานที่เป็นโกดังจัดเก็บนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับความต้องการใช้ยางของตลาดและเรื่องราคา ซึ่งในช่วงภาวะที่ผ่านมารัฐบาลหรือกระทรวงเกษตรก็ดี มีนโยบายว่า หากมีการระบายยางออกไปแล้วจะมีผลกระทบต่อราคายางลดลงหรือเปล่า ที่ผ่านมามองว่า หากมีการระบายยางออกไปจะมีผลกระทบต่อราคายาง

นายเยี่ยม กล่าวอีกว่า แต่ในช่วงนี้ตนกำลังวิเคราะห์ดูว่าคุณภาพยางที่มีอยู่ในสต๊อกจะดำเนินการอย่างไร แต่แนวทางที่รัฐบาลส่งเสริมการใช้ยางในประเทศโดยภาครัฐ ซึ่งแนวทางนี้คิดว่าเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะเอายางในสต๊อกในปัจจุบันใช้ในโครงการของรัฐเพื่อให้มีการใช้ยางในประเทศให้มากที่สุด และป้องกันไม่ให้ราคายางตกต่ำ แม้ว่าเกษตรจะมีความต้องการให้รับซื้อยางจากเกษตรกรแต่เชื่อว่า ขณะนี้สถนการณ์ยางไม่ได้ล้นตลาดมากไปกว่าความต้องการใช้ เพราะฉะนั้นในเมื่อเรามียางของรัฐที่จัดเก็บไว้ส่วนหนึ่ง และยางที่จะซื้อจากเกษตรกรไม่ว่าจะเป็นน้ำยางสดเพื่อทำน้ำยางข้นนำไปทำถนน หรือเพื่อส่งเสริมราคายางให้ดีขึ้น จึงเป็นทั้ง 2 แนวทางที่ควรให้การส่งเสริม

ซึ่งขณะนี้ปริมาณยางที่มีสต๊อกในโกดังจัดเก็บทั่วประเทศ มีอยู่ประมาณ 100,000ตัน เป้าหมายก็ต้องนำไปใช้ให้หมด การระบายยางออกนั้นต้องมีการบริหารจัดการด้วยการใช้ยางของชาวสวนยางก่อน ส่วนยางในสต๊อกนั้น จะกำหนดเวลาไม่ได้ แต่จะต้องระบายให้หมดโดยเร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้  วันที่ 23 พฤษภาคม จะมีการประชุมหน่วยงานที่จะนำยางไปใช้อย่างน้อย 7 -8 กระทรวงที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ส่วนที่ตกลงกะนแล้วคือ กรมชลประธาน ซึ่งได้งบกลางจากรัฐบาลมาประมาณ 3,750ล้านบาท เพื่อนำมาซื้อยางจากเกษตรกรเพื่อไปทำถนน ซึ่งได้มีการหารือกันต่อไป ทั้งรายชื่อและตำแหน่งถนนที่จะทำ โครงการส่งเสริมการใช้ยางเดิมรัฐบาลประกาศไว้ เดือนกันยายน 2561 ซึ่งจะต้องดำเนินการต่อไปด้วยการวางเป้าหมายซื้อยางจากชาวสวนยางให้ได้ 200,000ตัน แต่จะได้เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ของกระทรวงต่างๆด้วย ขณะนี้ราคายางพาราก็กระเตื้องขึ้น

สำหรับสต๊อกโกดังยางพาราในพื้นที่จังหวัดตรัง มีจำนวน 5 โกดัง ประกอบก้วย โกดังเคทีเอ็มวู้ด จำกัด อ.กันตัง มีงานสต็อก2โกดัง มียางสต๊อกจำนวน 9,830 ก้อน 1.092.211.30 กก. โกดัง เอสทีเมนเนจเม้นทร์ ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง มี2โกดัง จำนวน 11.475ก้อน โดดัง กยท.ห้วยยอด โครงการ อ.ห้วบยอด ยางมาร์เขียว 6.506ก้อนโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง 722.881.66กก.

..........................................................

27-5-5-61 เวลา 17.09 น.