2040 ถึงเวลาที่มนุษย์จะยึดครองบ้านหลังใหม่ ดาวอังคาร
Buzz Aldrin มนุษย์คนที่ 2 ที่ลงเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ต่อจากนีล อาร์มสตรอง ในภารกิจสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ของยานอพอลโล 11 เมื่อปี 1969 ได้ให้สัมภาษณ์ว่าภายในปี “2040 โลกจะสามารถส่งมนุษย์อวกาศเดินทางไปยังดาวอังคาร และเปลี่ยนที่นั่นให้เป็นบ้านหลังใหม่ได้”
โดยแผนของนาซาที่วางไว้นั้นคือการส่งมนุษย์อวกาศ 4 คนไปสำรวจดาวอังคาร และตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่นั่นให้ได้ โดยนักอวกาศทั้ง 4 คนนี้ต้องเป็นคนที่เก่งรอบด้าน อะไรเสียก็ต้องซ่อมได้ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเร็ว และอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งคือหากคุณได้เดินทางไปถึงดาวอังคารแล้ว การติดต่อมายังโลกนั้นจะมีระยะเวลาหน่วงของสัญญาณประมาณ 30 นาที ซึ่งนี่ทำให้การติดต่อกลับมายังโลกสื่อสารกันยากและลำบากมาก ปัจจุบัน นาซา ได้ส่งทีมมนุษย์อวกาศที่ผ่านการคัดเกณฑ์มาแล้วให้ไปฝึกใช้ชีวิตในสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับดาวอังคารจริงๆ โดยที่พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่แค่ในฐานอวกาศหากต้องการจะออกไปข้างนอกก็ต้องใส่ชุดนักบินอวกาศอย่างมิดชิดเสมือนว่าคุณอยู่บนดาวอังคารจริงๆ
และสิ่งที่ยากที่สุดก็คงจะเป็นการเดินทางไปยังดาวอังคาร เพราะอย่างที่เรารู้กันก็คือ ดาวอังคารและดาวโลก เป็นดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ เพราะฉะนั้นนาซา จึงต้องรีบเตรียมการให้พร้อมเพื่อรอวันที่ ดาวโลกและดาวอังคารมีวงโคจรที่เป็นแนวตรงในรัศมีที่ใกล้กันมากที่สุด เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางและลดความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และหากมนุษย์สามารถเดินทางไปถึงดาวอังคารและตั้งธิ่นฐานได้อย่างมั่นคงแล้ว ก้าวสำคัญต่อไปก็คงจะเป็นการเปลี่ยนสภาวะอากาศบนดาวอังคารให้เหมือนกับโลกมากที่สุด เพื่อที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถอยู่อาศัยได้แบบไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือใส่ชุดป้องกันตลอดเวลา
ซึ่งนาซาก็ได้คิดแผนไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ การเพิ่มก๊าสเรือนกระจกให้กับดาวอังคาร เหมือนที่เราทำร้ายโลกแต่มันกลับส่งผลดีกับดาวอังคารที่ว่า ก๊าสเรือนกระจกจะทำให้ดาวอังคารนั้นมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น ซึ่งวิธีนี้อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 100 ปี แต่หากสำเร็จมนุษย์อาจจะเปลี่ยนจากดาวเคราะห์สีแดงให้เป็นเหมือนดาวเคราะห์สีน้ำเงินเหมือนกับโลกเราได้อย่างแน่นอน