หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประเทศไทยเป็นของคนไท ไม่ใช่ตอแหลแลนด์ / กะลาแลนด์

ผู้

ในประเทศไทยของเรา มีกรณีศึกษามีลักษณะดรามาจนทำให้ดูคล้ายประเทศนี้เป็น "ตอแหลแลนด์" หรือ "กะลาแลนด์" เพราะไม่ได้พูดกันด้วยเหตุผล แต่กลับใช้อำนาจ ใช้พวกมากลากไปอย่างไรเหตุผลสิ้นดี

ดูวิดิโอ fb Live คลิกที่ลิงค์นี้: https://www.facebook.com/dr.sopon4/videos/1593989734046940/

อย่างกรณีของการฟื้นฟูป่า "หมู่บ้านป่าแหว่ง" ปรากฏว่าในพื้นที่ 147 ไร่นี้ ถ้าใช้ราคาของเขื่อนแม่วง ก็เป็นเงินไม่ถึง 90,000 บาทต่อไร่ แต่หากเป็นราคาปัจจุบันอาจกลายเป็น 150,000 บาทต่อไร่ รวมเป็นเงินประมาณ 22 ล้านบาท แต่ที่ดินที่ใช้ก่อสร้าง "หมู่บ้านป่าแหว่ง" ที่เสียค่าก่อสร้าง 1,000 บาทนี้ น่าจะมีมูลค่าเป็น 2 เท่าของค่าก่อสร้างหรือ 2,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาป่าเกือบ 100 เท่าตัว

กรณีนี้ชี้ให้เห็นว่า การนำพื้นที่หมู่บ้านนี้ไปฟื้นฟูเป็นป่าคงเป็นความคิดที่ "เหลวไหลสิ้นดี" เพราะไม่คุ้มค่า  นี่ยังไม่รวมค่ารื้อถอนและค่า "สร้าง" ป่าขึ้นมาอีกนับเป็นเงินอีกนับสิบหรือนับร้อยล้าน  การรื้อถอนจึงเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่า  กรณีนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เสนอไว้ว่า ควรให้ออกประมูลให้เอกชนมาทำประโยชน์ ทรัพย์มูลค่าประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาทนี้ หากนำไปหารายได้ได้ปีละ 3.5% ตามดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล ก็ได้เงินปีละ 70-100 ล้านบาท นำเงินนี้ไปจ้างอาสาสมัครตรวจจับการบุกรุกทำลายป่าที่เกิดขึ้นปีละ 1,000,000 ไร่ ก็จะได้ผลดีกว่าการรื้ออาคารและปลูกป่าใหม่บนพื้นที่ 147 ไร่นี้เป็นไหนๆ https://bit.ly/2qSPFcK)

กรณีศึกษา "หมู่บ้านป่าแหว่ง" เกิดขึ้นเพราะเราทำให้ข้าราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมีมากเกินไป  ราชการส่วนภูมิภาค หรือก็คือแขนขาของราชการส่วนกลางที่ถูกส่งไปประจำตามท้องถิ่นต่าง ๆ นั้น มีกำลังคนอยู่เป็นจำนวนมากถึง 360,928 คน ตามข้อมูลคนภาครัฐในฝ่ายพลเรือน พ.ศ.2557 หรือ 17% ของข้าราชการทั้งหมด แต่ราชการส่วนท้องถิ่น มีกำลังคนเพียง 22% เท่านั้น ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในจังหวัดภูมิภาคหรือในชนบท กลับมีข้าราชการไป "รับใช้ประชาชน" น้อยมาก

ที่น่าสังเกตก็คือราชการส่วนกลาง ที่กระจุกอยู่ในกรุงเทพมหานครมีข้าราชการรวมกันถึง 1,267,609 คนหรือราว 61% ของทั้งหมด ซึ่งแสดงถึงองคาพยพที่ใหญ่โตมากของระบบราชการที่อาจมีกำลังคนเกินความจำเป็น (นอกจากนั้นข้อมูลข้างต้นยังรวมเฉพาะในส่วนของกำลังคนในฝ่ายพลเรือนเท่านั้น ยังไม่รวมรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนข้าราชการทหารที่มีอีก) นายพลไทยก็มีมากกว่านายพลสหรัฐอเมริกา ทั้งที่สหรัฐมีขนาดประชากรมากว่าไทยราว 4 เท่า

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า จำนวนกำลังคนภาครัฐเพิ่มขึ้นเกือบ 50% อยู่ที่ราว 2.2 ล้านคน (ณ ปี 2558) ถ้าหากรวมเอาภาระงบบุคลากรรวมทั้งสวัสดิการข้าราชการอื่นๆ อย่างค่ารักษาพยาบาล และบำเหน็จ บำนาญ ก็ร่วม 1.1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้ของรัฐบาล. . .เมื่อเทียบกับจีดีพี งบบุคลากรภาครัฐของไทยสูงเป็นอันดับต้นๆ ในเอเชีย รองจากบาร์เรนและมัลดีฟส์ โดยสัดส่วนงบบุคลากรภาครัฐต่อจีดีพีของไทยอยู่ประมาณ 7% สูงกว่าเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย (6%) ฟิลิปปินส์ (5%) หรือสิงคโปร์ (3%) http://bit.ly/1zgXzfh)

ตามแผนภูมิที่แนบชี้ให้เห็นว่า ประเทศญี่ปุ่นมีขนาดประชากรใหญ่กว่าไทย 2 เท่า แต่มีข้าราชการส่วนท้องถิ่นเป็นหลัก  แต่ไทยกลับมีส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเป็นหลัก  ทำให้ไทยต้องสร้างบ้านพักข้าราชการ สร้างศูนย์ราชการต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา  สำนักงานของราชการระดับกรมหรือกระทรวงหลายแห่ง มีความวิริสมาหรามากว่าสำนักงานใหญ่ของธนาคารเสียอีก  อย่างนี้สิ้นเปลืองเป็นอย่างมาก

ประเทศไทยเป็นของคนไท ไม่ใช่ตอแหลแลนด์ / กะลาแลนด์

สำหรับผู้พิพากษานั้น (กรณีฟลอริดา: http://bit.ly/2c8Dksc) ในกรณีที่ไม่ใช่ศาลปกครอง แต่เป็นศาลแพ่ง ศาลอาญาผู้พิพากษามาจากการเลือกตั้ง และไม่ได้มีการกำหนดคุณสมบัติว่าต้องจบกฎหมายเสียด้วย (แต่ผู้สมัครทุกคนก็จบกฎหมาย) ทั้งนี้ยกเว้นศาลปกครอง ซึ่งพิจารณาคดีระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน ก็จะมาจากการแต่งตั้ง โดยอำนาจของประธานาธิบดี การมีการเลือกตั้งผู้พิพากษาเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในท้องถิ่น เข้าใจปัญหาต่าง ๆ ดีกว่าผู้พิพากษาจากส่วนกลางที่ไม่ยึดโยงประชาชนและไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริง การเลือกตั้งผู้พิพากษาจึงเหมือนการให้อำนาจ เคารพภูมิปัญญาท้องถิ่น และให้ความสำคัญแก่ท้องถิ่น ผู้นำ ผู้มีอิทธิพลทางความคิดในท้องถิ่นอย่างแท้จริง ที่สำคัญไม่ต้องจัดหาบ้านพักให้ข้าราชการกลุ่มนี้

อาจต้องทบทวนนโยบายการสร้างบ้านให้ข้าราชการส่วนภูมิภาคได้แล้ว ควรนำบ้านเหล่านี้ไปให้เอกชนเช่าหรือทำประโยชน์ นำเงินเข้าหลวง เอาเงินให้ข้าราชการส่วนภูมิภาคไปเช่าบ้านในตลาดเอกชน ยังคุ้มกว่าจะสร้างบ้านแบบนี้ให้ แถมต่อไปยังต้องเสียค่าดูแลอีกมหาศาล และต่อไปควรยุบราชการส่วนภูมิภาค และรับข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียง ไม่ควรเสียค่าก่อสร้างบ้านมหาศาลเช่านี้ ยิ่งกว่านั้นหากสังเกตให้ดี อาคารส่วนราชการใหม่ๆ มีความสวยอลังการกว่าตึกธนาคารชั้นนำเสียอีก  ไทยไม่ควรเสียเงินปรนเปรอแก่ข้าราชการขนาดนี้เลย

ทางออกที่ควรจะเป็นจีงเป็นการลดข้าราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้เหลือแต่น้อย ให้อำนาจประชาชนในท้องถิ่นมากขึ้น ข้าราชการที่ไม่พร้อมจะทำงานก็ควรที่จะลาออกไป

ที่มา : http://bit.ly/2k2EdYV

เนื้อหาโดย: doctorsopon
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
doctorsopon's profile


โพสท์โดย: doctorsopon
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
128 VOTES (4/5 จาก 32 คน)
VOTED: Koi Koi, นางงูพิษ, Charming friendly, paktronghie, อ้ายเติ่ง, โอ๊ยจัง, กระบี่ พเนจร, trebs, karn23, doctorsopon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดบ้านซุปตาร์ "ลิซ่า BLACKPINK" ที่เกาหลีใต้ มูลค่ากว่า 200 ล้าน..ฉลองวันเกิดครบ 27 ปี"ซีอิ๊วแบบเม็ด" ฉีกทุกกฎของซอส..นวัตกรรมใหม่จาก "เด็กสมบูรณ์""บิ๊กเต่า" รับหลักฐาน "ทนายตั้ม" ลั่น ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขังรวบแล้ว 1 มือวางเพลิงป่วนใต้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อ่านนิยายไร้สาระจริงหรือ"ซีอิ๊วแบบเม็ด" ฉีกทุกกฎของซอส..นวัตกรรมใหม่จาก "เด็กสมบูรณ์""บิ๊กเต่า" รับหลักฐาน "ทนายตั้ม" ลั่น ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง9 โรงเรียนหญิงล้วนที่น่าสนใจในประเทศไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บ้าน คอนโด ที่ดิน
รู้จักกับ บ้านดิน คืออะไร?8 เทคนิคเลือกบ้าน ช่วยให้อยู่แล้วไม่ร้อนสถาปนิก ทำงานอะไร หน้าที่และขั้นตอนการทำงานเป็นยังไง?ข้อควรพิจารณาเพื่อเป็นแนวทางในการประมาณราคา
ตั้งกระทู้ใหม่