ห้ามจับ! สัตว์น้ำจืดฤดูวางไข่
ปรับกฎหมายใหม่ “ฤดูน้ำแดง 61” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดฤดูมีไข่ทั่วประเทศ กระทบการทำประมงชาวบ้านน้อยลง เหมาะสมสภาพแวดล้อม และสภาวการณ์ทรัพยากรในปัจจุบัน เริ่มวันแรก 16 พฤษภาคมนี้ ในพื้นที่ 45 จังหวัด
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศเพื่อกำหนดฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ และกำหนดชนิด ขนาด เครื่องมือ และวิธีใช้เครื่องมือทำการประมงในฤดูดังกล่าว มาตั้งแต่ปี 2507 จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้สามารถกำหนดระยะเวลา ฤดูที่สัตว์น้ำจืดมีไข่ ในแต่ละพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสม
สำหรับในปี 2561 กรมประมงได้กำหนดฤดูที่สัตว์น้ำจืดมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อนขึ้นใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ ปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำท่า ข้อมูลชีววิทยาของสัตว์น้ำจืด และข้อมูลด้านการประมงที่เป็นปัจจุบัน
โดยได้ออกประกาศกรมประมง ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 เพื่อกำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัววัยอ่อน ดังนี้ ในพื้นที่ 45 จังหวัด
ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต กระบี่ และนครศรีธรรมราช กำหนด ฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน
ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม - 15 สิงหาคม 2561 ในพื้นที่ 25 จังหวัด ประกอบด้วย
จังหวัดสุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สระบุรี กาญจนบุรี นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ กำหนด ฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน -15 กันยายน 2561 ในพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และ ยะลา กำหนด ฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน
ระหว่างวันที่ 16 กันยายน- 15 ธันวาคม 2561 โดยภายในระยะเวลาดังกล่าว กำหนดให้เฉพาะ “เครื่องมือและวิธีการทำการประมงที่อนุญาต” เท่านั้น ที่สามารถทำการประมงได้ในช่วงเวลาและแหล่งน้ำในจังหวัดดังกล่าว ได้แก่
1. เบ็ดทุกชนิดที่ไม่มีลักษณะเป็นเบ็ดต่อกันเป็นสายมากกว่า 1 ตัว
2. ตะแกรง สวิง ช้อน ยอ และชนาง ซึ่งมีขนาดปากกว้างไม่เกิน 2 เมตร และไม่ทำการประมงด้วยวิธีประดาตั้งแต่สามเครื่องมือขึ้นไป
3. สุ่ม ฉมวก และส้อม
4. ไซ ตุ้ม อีจู้ ลัน โปง และโทง หรือเครื่องมือที่มีลักษณะและวิธีการคล้ายคลึงกัน
5. แหที่มีความลึกไม่เกิน 6 ศอก (3 เมตร)
6. การทำการประมงในพื้นที่แหล่งน้ำปิดที่ไม่ติดต่อกับแม่น้ำ หรือลำธารธรรมชาติ
7. การทำการประมงเพื่อการศึกษา วิจัย หรือทดลองทางวิชาการ โดยได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมประมง ทั้งนี้ ประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในปี 2561 เท่านั้น
โดยจะมีการออกประกาศในลักษณะเดียวกันนี้ทุกปีก่อนหน้าฤดูสัตว์น้ำมีไข่ เพื่อให้การมาตรการบริหารจัดการดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงสุด และสอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ และฤดูกาล ที่เปลี่ยนแปลงไป หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 5 พันถึง 5 หมื่นบาท หรือปรับจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า