ฉัตรมงคลพม่าและไทย ประวัติศาสตร์เปรียบเทียบในอดีต
วันที่ ๕ พฤษภาคมของทุกปีคือวัน "ฉัตรมงคล"
อันเป็นวันที่ระลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ ๙ อันมีธรรมเนียมที่เทียบกันได้กับพม่า เมื่อครั้งยังเป็นราชาธิปไตยอยู่ เรามาดูกันครับว่าลักษระร่วมทางวัฒนธรรมของกษัตริย์ในอุษาคเนย์นั้นเป็นอย่างไร
+++"หย่าซะ-ภิเต่ก่ะ-ภิเต้ย-ขั่นดอมู" ရာဇဘိေသက ဘိသိတ္ခံေတာ္မူ คือพิธี "ทรงรับพระบรมราชาภิเษกอภิเษก" ในภาษาพม่า อันเป็นธรรมเนียมเก่าแก่ที่รับมาแต่อินเดียโบราณ ภายใต้แนวคิดจากศาสนาพราหมณ์ และศาสนาพุทธ
+++ ในคัมภีร์อัคคัญสูตร ได้กล่าวถึง "พระมหาสมติราช" อันเป็นบรรพกษัตริย์องค์แรกของโลก ที่มหาชนได้ร่วมกันถวายอำนาจ และยกยอพระองค์ขึ้นด้วยพิธีราชาภิเษกให้ทรงปกครองอาณาจักรและไพร่ฟ้าประชาชนด้วยความปกติสุขเป็นแบบอย่างแก่ชาวโลก ภายใต้กฏเกณฑ์แห่งศีลธรรม มีเครื่องใช้อันแสดงถึงความเป็นกษัตริย์ ที่เรียกว่า "เครื่องราชเบ็ญจกกุธภัณฑ์" ๕ ประการ หรือที่พม่าเรียกว่า "มีง-มเย่าก์-ตะส่า-งาปา"(မင္းေၿမာက္တန္ွဆာ ၅ ပါး)
+++ปัจจุบันพม่ายังคงใช้พระนามของ "พระมหาสมุติราช" นั้นเรียกตำแหน่งประธานาธิบดีของตนเองว่า "ตะมะต่ะ" (သမတ)ซึ่งมาจากคำว่า "สมตะ" คือ "มหาสมุติ" นั่นเอง
ในยุคจารีตชาวพม่าเชื่อว่าแบบแผนแห่งพระราชพิธีราชภิเษกนั้นเป็นธรรมเนียมที่สืบสายกันมาแต่สมัยพระเจ้าสมติราชจนมาถึงสมัยราชวงศ์แห่งตน
ดังข้อความที่ปรากฏหนังสือ“เมียนม่า-มหามิงกลา-มิงข่านดอ” ว่า “...ชยตุ,, เริ่มแรกแห่งภัททกัปป์นี้ ผู้เป็นกษัตริย์เริ่มจากพระมหาสมตะมินโพธิสัตว์ อันบรรดาเหล่าราชาผู้ประเสริฐได้แบบอย่างพิธีการรับราชาภิเษกมาจากคัมภีร์ทางศาสนาและโลกีย,ปีศักราช 1145-1146 ตำราการรับภิเษกของพระเจ้าทวด ปฐมอมระปุระ,,ผู้ทรงได้ช้างหนุ่ม ปี 1185 ,เมืองรัตนปุระครั้งที่สี่,,ตำราการรับอภิเษกพระเจ้าภะจีดอผู้ทรงธรรม ปี1202,เมืองอมระครั้งที่สอง,, ตำราการรับภิเษกของพระราชบิดาผู้ทรงธรรม ปี1219, เดือนเต็มกะส่ง วันพฤหัสที่ 7 เมืองมัณฑเลย์ยะตะนาปงครั้งที่หนึ่ง,, พระเจ้าทรงธรรม ผู้อุปถัมภ์การสังคายนาครั้งที่ห้า สีริปวระ วิชยานันตยะสะปัณฑิตะ มหาธัมมราชาธิราชา...”
+++ขั้นตอนพระราชพิธีบรมราชภิเษกในรัชกาลพระเจ้ามินดง กล่าวโดยสรุปมี ๓ ขั้นตอน คือ ๑.พิธีการสรา้งจัดสรา้งมณฑปในท้องสนามหลวงจำนวน ๓ หลังได้แก่. โมราสนะมณฑปใช้เพื่อสรงน้ำมุรธาภิเษก คชาสนะมณฑป ใช้เพื่อสระพระเกศา และ สีหสนะมณฑป ใช้เพื่อรับน้ำราชาภิเษก
+++ ขั้นตอนที่ ๒ คือพิธีการตักน้ำมุรธาภิเษก กลางแม่น้ำอิระวดีโดยพระราชธิดา ธิดาพราหมณ์ ธิดาอำมาตย์ ธิดาเศรษฐี ธิดาคหบดี อย่างละ ๘ นางลงเรือไปกลางแม่นำอิรวดีเพื่อตักน้ำไปทำพิธีสรง โดยมีพิธีที่กล่าวถึงความสำคัญของกษัตริย์ดังนี้ว่า "...ถ้าหมู่คนตักน้ำมาถึง...ให้ยักษ์และเหล่าผู้เฝ้าไต่ถามด้วยความดุดันไปสามหนว่าต้องการอะไร,,เหล่าพราหมณ์ปุโรหิตก็จะกล่าวว่า มาตักน้ำเพื่อการฉัตรมงคลแห่งพระมหาธรรมราชา,, ตามวิธีมงคลภิเษกซึ่งเหล่าบรรพกษัตริย์เอกราช,ผู้ทรงบุญยิ่งใหญ่อย่างประเสริฐ,,ได้ทรงปฏิบัติสืบๆกันมา,, เหล่ายักษ์ผู้ทำหน้าที่ก็ถามกลับว่า การพระศาสนา ไพร่ฟ้าประชาชนแลสมณชีพราหมณ์จำเริญในธรรมปฎิบัติโดยพร้อมเพรียงกันอยู่หรือ,,เหล่าพราหมณ์ปุโรหิตก็กล่าวว่า ด้วยเพราะพระศาสนารุ่งเรือง เหล่าไพร่ฟ้าประชาชนและสมณชีพราหมณ์รักษาซึ่งธรรมโดยพร้อมเพรียงจึงมาตักน้ำนี้,,เหล่ายักษ์ผู้เฝ้ากล่าว ดีแล้ว ดีแล้วเราให้อนุญาต พระศาสนารุ่งเรือง,ไพร่ฟ้า ประชาชน สมณะ ชีพราหมณ์ รุ่งเรือง,,พระราชบุตรพระราชวงศ์เชื้อสายจำเริญรุ่งเรือง ขอให้พระชนมายุของผู้ทรงบุญอันยิ่งใหญ่ลือขจรเทอญ..."
ขั้นตอนสำคัญของพิธีบรมราชภิเษก ก็คือการถวายน้ำอภิเษกยกบุคคลขึ้นเป็นกษัตริย์
จากหมู่คนทั้ง ๓ กลุ่ม คือ พระราชธิดา พราหมณ์ และเศรษฐีคหบดี ซึ่งมีคำสอนในการถวายพร้อมน้ำอภิเษกที่น่าสนใจดังนี้
+++"ในเวลานั้นเหล่าพระราชธิดาทั้งแปดทรงเครื่องประดับอันงดงามประทับยังเบื้องพระพักตร์พระเจ้าอยู่หัว พร้อมถือพระมหาสังข์อันวงเป็นทักษิณาวัตรซึ่งประดับด้วยนวรัตน์แล้ว,ใส่ด้วยน้ำคงคาห้าแห่ง ถือไว้ด้วยหัตถ์ทั้งสองข้างอย่างดีโดยเคารพรินตรง ลงบนพระเศียรแห่งพระเจ้าอยู่หัว,,ในเวลานั้นเหล่าราชธิดาทรงกล่าว,,เจ้ามหาสมตะเป็นพระมหากษัตริย์เจ้าซึ่งมีวัตรปฎิบัติอันประเสริฐเริ่มแรกในโลก,ขอพระมหากษัตริย์เจ้าอย่าได้มีความโกรธทั้งสิ้นทั้งปวงในบรรดาเจ้าสหพันธรัฐ ,ยกย่องพวกเขาอย่างดีทั้งหมดทั้งสิ้น,รักเมตตาพวกเขาทั้งหมดทั้งสิ้นเสมอลูกในอุทร,ดูแลโภคทรัพย์ของพวกเขาทั้งหมดทั้งสิ้น,รักษาชีวิตพิจารณาเอาใจใส่ในชีวิตของเขาดังชีวิตของพระองค์,ระงับดับเสียซึ่งเหล่าโลภะโทสะ พร้อมโมหะอันเป็นอวิชาอย่างดำมืด ถึงซึ่งความสว่าง รักษาไว้ซึ่งความมีเกียรติยศมงคลของพระองค์เทอญ,การกล่าววาจาที่ไพเราะมีมงคล,จงพยายามอุตสาหรักษาซึ่งความคิดเฉพาะที่เป็นมงคลอันนำมาซึ่งเกียรติมงคลเทอญ,คำเหล่านี้เหล่าพระราชธิดาทั้งแปดทรงกล่าวพร้อมรดน้ำภิเษกลงบนพระเศียรแห่งพระเจ้าอยู่หัวจนหมด..."
+++"หลังจากนั้น เหล่าพราหมณ์ทั้งแปดผู้สืบเชื้อสายโดยถูกต้องในการภิเษกมงคล,,นำน้ำคงคาห้าแห่งใส่ลงในพระมหาสังข์อันวนเป็นทักษิณาวัตร พร้อมถือด้วยมือทั้งสองข้างอย่างดีโดยเคารพรินตรงลงบนพระเศียรแห่งพระเจ้าอยู่หัว,,อิติปิโส สวากขาโต สุปปะฎิปปันโน โปรดรักษาคุณแห่งพระศาสนาให้สว่างรุ่งเรืองเป็นเบื้องต้นเทอญ,,ขอพระมหากษัตริย์เจ้าทรงรักเหล่าสัตว์ทั้งหลายเสมอด้วยพระองค์เทอญ,ทรงรักษาโภคทรัพย์ของเหล่าประชาชนเสมอโภคทรัพย์ของพระองค์,ทรงดูแลชีวิตินทเร ชีวิตแห่งเหล่าสัตว์ทั้งหลายดุจพระชนม์ชีพแห่งพระองค์เทอญ,,พระมหากษัตริย์เจ้า อย่ามีความโกรธในเหล่าเจ้าสหพันธรัฐทั้งหมดทั้งสิ้น,การเอาใจใส่ในธรรม,การรับฟังคำที่มีปัญญา,โปรดทรงดูแลเหล่าเชื้อพระวงศ์โดยมั่นคงเทอญ,,คำกล่าวนี้เมื่อเหล่าพราหมณ์ทั้งแปดกล่าวแล้วก็ให้รดน้ำภิเษกลงบนพระเศียรพระเจ้าอยู่หัว,,
หลังจากนั้นเหล่าเศรษฐีคหบดีมีฐานะอันสืบตระกูลโดยถูกต้องทั้งแปดคน
,,นำน้ำคงคาห้าแห่งใส่ลงในพระมหาสังข์พร้อมถือด้วยมือทั้งสองข้างอย่างดีโดยเคารพ รินตรงลงบนพระเศียรแห่งพระเจ้าอยู่หัว,,พระมหากษัตริย์เจ้า โปรดทรงรักษาชีวิตของพวกเขา ทั้งหลายประดุจชีวิตของพระองค์เทอญ,,พระมหากษัตริย์เจ้าทรงรักษาโภคทรัพย์ของพวกเขา ดังโภคทรัพย์ของพระองค์,อย่าทรงกริ้วในเหล่าเจ้าสหพันธรัฐ,ทรงโปรดรับเอาภาษีแห่งประชาราษฎ์ด้วยความเป็นธรรม,ทรงหลีกเว้นจากเหล่าคนพาลมิรู้ในธรรม,ทรงโปรดฟังคำพูดของบัณฑิตอันเป็นคนดีเทอญ,,หลังจากกล่าวแล้วรดน้ำภิเษกลงบนพระเศียรแห่งพระเจ้าอยู่หัว,, หลังจากนั้นเหล่าเศรษฐีคหบดีผู้มีฐานะกล่าวอีกครั้ง,, พระมหากษัตริย์เจ้าทรงได้รับการรดน้ำภิเษกจากเหล่าปวงข้าบาทพร้อมคำกล่าวเรื่องพระราชวัตรจากเหล่าข้าบาท โปรดทรงรับอากรภาษีสิบหยิบหนึ่งจากประชาราษฎ์ เมื่อรับซึ่งโภคทรัพย์เหล่านั้น แล้ว ขอพระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ต่อเหล่าพสกนิกรโดยเสมอด้วยธรรมเทอญ,,ขอให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เหล่าเจ้าสหพันธรัฐต่างมาน้อมเกล้าด้วยศรัทธาเปี่ยมล้น เจริญรุ่งเรือง โจรร้ายราบคาบ พระศาสนาฟูเฟื่อง น้ำท่าไม่ขัดสน ประชาชนสรรเสริญถวายทรัพย์ยังกษัตริย์ทุกวันวาร,,
+++,,แม้มาตรว่า ไม่เป็นดังคำพูดของปวงข้าบาท,เสียสัจจาภิเษก ที่ทรงรับราชภาระของกษัตริย์ที่ดี,ขอให้โลกเดือดพายุหมุน ,สะเทือนเลื่อนลั่น แผ่นดินใหญ่แยกกัน เปลวไฟนรกช่วงโชติแผดเผาเป็นเถ้าผุยผง,คนชั่วคนพาลเป็นต้น กระจายทั่วทุกหัวระแหง นกแสกภูตผีปรากฎเมื่อประทับอยู่ในวังก็ให้สะดุ้งหลอกหลอน เสวยพิษงูเห่าเหล่างูอสรพิษเทอญ ,,
+++ หลังจากคำกล่าวนั้น,พระเจ้าแผ่นดิน ทรงปล่อยชีวิตสัตว์และอาณาประชาราษฎ์เป็นทาน,,