หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กระบวนการยุติธรรมที่ไม่เลือกข้าง…

Share แชร์บอร์ด ข่าววันนี้ โพสท์โดย asaneeyaporn

เรื่องและภาพโดย“ลมใต้ สายบุรี”ข้อมูลทั้งหมดที่ทำการเผยแพร่จาก www.southernreports.org

“กระบวนการยุติธรรมที่ไม่เลือกข้าง” ผู้ที่กระทำความผิดย่อมถูกลงโทษตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่ทำผิดแล้วยอมรับผิด ผู้นั้นสมควรที่จะได้รับการยกย่อง ให้โอกาสกลับเนื้อกลับตนเป็นคนดีของสังคม หันหลังให้กับขบวนการ

กระบวนการยุติธรรมที่ไม่เลือกข้าง…

กระบวนการพิจารณาคดีความของศาลสถิตยุติธรรม ซึ่งเป็นสถาบันหนึ่งที่องค์กรอื่นๆ ไม่สามารถแทรกแซงได้ ผิดถูกว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ที่สำคัญตาชั่งไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน การพิจาณาคดี มีความถูกต้อง เที่ยงตรง และเสมอภาค โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแก้ปัญหา ที่ผ่านมาหลายคดีได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ศาลยุติธรรมได้พิจารณาตัดสินคดีด้วยความรอบคอบเป็นธรรม จะเห็นได้ว่าหากสำนวนในชั้นสอบสวนอ่อน หรือขาดพยานและหลักฐานที่ไม่แน่นหนาพอ ศาลจะพิจารณายกฟ้องให้เป็นผลประโยชน์ต่อจำเลย

หากย้อนไปเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558 กรณีศาลจังหวัดปัตตานีได้นั่งบัลลังก์พิจารณาพิพากษาคดีความมั่นคง ตามเลขคดีแดง เลขที่ อ.3172/57 และตัดสินให้ “ยกฟ้อง” นายอายมาน เจ๊ะหลง สืบเนื่องมาจากเหตุคนร้ายทำการลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจยะลา 16 ขณะเดินทางด้วยรถยนต์บรรทุก ขนาด 2 ตันครึ่ง เพื่อสับเปลี่ยนกำลัง เหตุการณ์ในครั้งนั้นส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 16 นายด้วยกัน เหตุเกิดบนถนนสาย 418 ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2553

สำหรับสาเหตุที่ นายอายมาน เจ๊ะหลง ตกเป็นผู้ต้องสงสัยและถูกออกหมายจับ ป.วิอาญา ในเวลาต่อมา สืบเนื่องมาจากผลการตรวจสารพันธุกรรม พบว่า DNA นายอายมานฯ ตรงกับ DNA เทปกาวพันสายไฟ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่ติดตั้งภายในรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซึ่งตกอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ

เมื่อตรวจสอบประวัติของ นายอายมานฯ พบว่าเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ และยังเป็น Logistik  รับผิดชอบในพื้นที่อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเคยถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2553 ส่งตัวดำเนินกรรมวิธีซักถาม ณ ศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ผลการซักถามในครั้งนั้น นายอายมานฯ ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับ“ฆือโล”หรือ“คอลอรอ” เคยผ่านการฝึกร่างกายขั้นพื้นฐาน และยังทำหน้าที่เก็บชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง เช่น กล่องเหล็กสำเร็จรูป

กระบวนการยุติธรรมที่ไม่เลือกข้าง…

ภาพประกอบบทความ

นายอายมานฯ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี นำไปชี้จุดที่ตนเองพร้อมพวกร่วมกันขุดเจาะถนน เพื่อเตรียมการสำหรับก่อเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร บริเวณริมถนนพื้นที่บ้านชูโว ตำบลบาเร๊ะใต้ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส และได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระในเวลาต่อมา แต่การที่ นายอายมานฯ ถูกออกหมายจับ ป.วิอาญา รอบใหม่ เมื่อ 23 มิถุนายน 2557 จึงได้ติดต่อเข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 โดยมีความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน เจ้าหน้าที่ได้กลั่นกรองเบื้องต้นแล้วส่งตัวดำเนินคดี และได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมา ในวงเงิน 24,770 บาท ภายในวันเดียวกัน

ระยะเวลาในการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลใช้เวลา 2 เดือน 10 วัน กระบวนการต่างๆ ได้ดำเนินการตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน รวบรวมวัตถุพยานหลักฐาน ส่งตัวฟ้องศาลพิจารณาคดี และเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558 ศาลจังหวัดปัตตานีได้พิจารณาตัดสิน “ยกฟ้อง” นายอายมาน เจ๊ะหลง สาเหตุสืบเนื่องมาจาก ทนายโจทย์ ไม่สามารถแจ้งถึงความสัมพันธ์ของเทปพันสายไฟ ซึ่งพบว่า DNA Matching มีความสัมพันธ์กับระเบิดแสวงเครื่อง และให้ประกันตัวได้ในระหว่างการอุทธรณ์

นายอายมาน เจ๊ะหลง เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีความกล้าที่จะยอมรับความจริง เมื่อผิดแล้วยอมรับผิด และเคยยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง เมื่อถูกออกหมายจับ ป.วิอาญา นายอายมานฯ ไม่ได้หลบหนีหายไปไหน ได้ติดต่อขอเข้ารายงานตัวแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ทันที อีกทั้งมีความประสงค์เข้าร่วม “โครงการพาคนกลับบ้าน” ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อ นายอายมานฯ โดยตรงในรูปคดี

กระบวนการยุติธรรมที่ไม่เลือกข้าง…

หากเปรียบเทียบคดี กรณีศาลจังหวัดปัตตานีมีคำสั่งพิพากษา 10 ผู้ต้องหาคดีระเบิดเมืองปัตตานีในห้วงเดือน มิถุนายน – ธันวาคม 2559 โดยลงโทษประหารชีวิต 6 คน จำคุกตลอดชีวิต 3 คน และจำขัง 39 ปี 12 เดือน 1 คน พฤติกรรมของจำเลยทั้ง 10 คน ที่ได้ร่วมกันก่อเหตุถึง 6 คดี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ในเวลาต่อมาญาติ 10 ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดเมืองปัตตานี ที่ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหาร และจำคุกตลอดชีวิต ประกาศผ่านมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ขอต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ ฎีกา เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และพิสูจน์การใช้หลักฐาน “ทางญาติจึงยังมีความเชื่อมั่น และมั่นใจในความเป็นธรรมจากศาล ถึงความบริสุทธิ์ของจำเลยทั้ง 10 คน ที่จะได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย เพราะเป็นเพียงแค่การซัดทอดของพยาน และภาพที่บันทึกวิดีโอในระหว่างซักถามของเจ้าหน้าที่ โดยยังไม่มีปรากฏหลักฐานอื่นประกอบเลย”

คงต้องต่อสู้กันในชั้นศาลต่อไป “กระบวนการยุติธรรมที่ไม่เลือกข้าง” ผู้ที่กระทำความผิดย่อมถูกลงโทษตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่ทำผิดแล้วยอมรับผิด ผู้นั้นสมควรที่จะได้รับการยกย่อง ให้โอกาสกลับเนื้อกลับตนเป็นคนดีของสังคม หันหลังให้กับขบวนการ ปฏิเสธการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาซึ่งไม่มีผลดีใดๆ เลย มีแต่สร้างความสูญเสียให้เกิดขึ้นต่อประชาชนและประเทศชาติ หันหน้ามาพูดคุยสร้างความเข้าใจกันให้มากขึ้นในทุกระดับ เพื่อสนับสนุนการพูดคุยสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลที่กำลังเดินหน้ากับกลุ่มผู้คิดต่างกลุ่มต่างๆ ซึ่งมีประเทศมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก อีกไม่นานสันติสุขจะเกิดเป็นรูปธรรม หากทุกภาคส่วนทำการขับเคลื่อนรวมพลังเพื่อจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราให้มีความสงบสุขอย่างยั่งยืนถาวรตลอดไป

**************

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
asaneeyaporn's profile


โพสท์โดย: asaneeyaporn
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
VOTED: asaneeyaporn, zerotype
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลาวขุดพบเจอหีบกะไหล่โบราณ รอการเปิด คาดว่าน่าจะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ!รพ.แม่ลาน แจง! "บังชาติ"หรือ"แม่หญิงลี" ไม่ได้เป็นบุคลากรรพ.แม่ลาน หลังบุคคลดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อ่านนิยายไร้สาระจริงหรือ"ซีอิ๊วแบบเม็ด" ฉีกทุกกฎของซอส..นวัตกรรมใหม่จาก "เด็กสมบูรณ์""บิ๊กเต่า" รับหลักฐาน "ทนายตั้ม" ลั่น ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง9 โรงเรียนหญิงล้วนที่น่าสนใจในประเทศไทยหลวงพี่เขมรแนะชาวเขมร ว่า..“ไทยเอาคำว่า‘สงกรานต์‘ไปแล้ว งั้นเขมรเราใช้คำว่า ’มหาอังกอร์สงกรานต์‘ ดีไหม? เพราะคำนี้มันใหญ่กว่าสงกรานต์ธรรมดา”
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
หนุ่มพ่นน้ำลายนาน 5 นาที กลายเป็นสถิติโลก!!เกิดเหตุทะเลาะวิวาททั่วสนามบินรัวซีรัสเซียส่งเรือรบไปทะเลแดงแล้วปูตินยัน "รัสเซียพร้อมสอย เครื่องบินรบนาโต"
ตั้งกระทู้ใหม่