ผิดด้วยเหรอที่คนหนึ่งคนจะมีเชื้อเอชไอวี
วันที่ 5 เมษายน 2561 มีน้องชายรักชายที่รู้จักติดเชื้อเอชไอวี และขณะนี้ก็รักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี ตอนนี้ร่างกายของน้องแข็งแรง ทำงานได้เหมือนคนทั่วไปในสังคม ดูแลครอบครัวและตนเองได้ กว่าที่จะทำให้น้องเข้มแข็ง และเชื่อมั่นว่าเขาสามารถมีชีวิตได้เหมือนคนทั่วไปในสังคมต้องใช้พลังเยอะมาก เพื่อให้เขาก้าวข้ามความกลัว ความท้อแท้ และก็ทำมันสำเร็จ ทุกวันนี้เห็นน้องมีชีวิตที่สดใส ทำงานได้เหมือนเดิม
ปีน้องก็ต้องไปคัดเลือกทหารซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เพศชายต้องทำ น้องโทรศัพท์มาปรึกษาว่าจะไปขอใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลที่ทำการรักษาและดูแลน้อง เพื่อให้สถานพยาบาลออกใบรับรองว่าตนเองกำลังรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี และต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ผมก็ได้คุยกับน้อง และเตรียมความพร้อมเมื่อน้องต้องการไปยื่นเอกสารฉบับนี้กับหน่วยคัดเลือกทหาร
โดยแนะนำดังนี้
1. ให้ลองสอบถามกองอำนวยการประจำหน่วยนั้นๆว่าถ้าเราต้องการยื่นใบรับรองแพทย์ว่าเรามีโรคประจำตัวที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง เราต้องทำอย่างไรบ้าง เราต้องยื่นเอกสารตอนไหน ขอให้เขาให้คำแนะนำกับเรา
2. หากถ้าเขาต้องการให้เราเขาการคัดเลือกตามขั้นตอนเหมือนคนอื่นๆ ก็ทำตามขั้นตอนที่เขาแนะนำ แต่เตรียมเอกสารที่จะยื่นให้พร้อม และอาจจะรีบพูดก่อนจะยื่นเอกสารว่าเรามีโรคประจำตัวที่เสียงดังไม่ได้ เพื่อความสบายใจของน้อง
3. ขอให้น้องอ่อนน้อมถ่อมตัวเพื่อให้เขาเอ็นดูเรา และเข้าใจถึงการรักษาอย่างต่อเนื่องของเรา
ที่ต้องแนะนำแบบนั้นเพราะว่ารูปร่างของน้องมีโอกาสที่จะต้องเขารับราชการเป็นทหาร รวมทั้งกลัวว่าทางผู้รับเอกสารจะเสียงดังและน้องอาจจะตกใจได้ เพราะว่าน้องยิ่งกังวลว่าเขาจะเปิดเผยสถานะการติดเชื้อเอชไอวีของน้องตรงนั้น
น้องเล่าให้ฟังว่าน้องก็ยื่นเอกสารทั้งหมดให้กับ
คุณหมอทหารประจำหน่วยคัดเลือกทหาร ซึ่งคุณหมอก็โอเค คุณหมอก็เดินไปคุยกับกรรมการประจำหน่วยคัดเลือกทหาร จากนั้นคุณหมอก็เขียนแบบนี้ในใบผ่านการคัดเลือกทหาร “มีเชื้อเอชไอวี” น้องก็ตกใจ เลยโทรศัพท์มาบอก
ผมเลยบอกให้น้องกลับไปคุยกับคุณหมอท่านนั้น และตั้งสติในการคุย คุยด้วยหลักการและเหตุผลถึงการขอเปลี่ยนคำพูดที่คุณหมอเขียนได้ไหม ขอเปลี่ยนเป็น “มีโรคประจำตัวที่ขัดต่อการคัดเลือกทหาร”
เพราะว่าถ้าคุณหมอเขียนแบบนี้ถ้าน้องต้องใช้ใบผ่านการคัดเลือกทหารไปสมัครงานที่ไหนมันอาจะมีผลต่อการสมัครงานได้ น้องพยายามคุยกับคุณหมอ ซึ่งคุณหมอบอกว่าจะเขียนแบบนี้ !!
ผมเลยให้น้องคุยกับหมอใหม่อีกรอบ โดย คือขอให้น้องนั่งรอจนคุณหมอว่าง ไม่ยุ่ง และขอให้น้อยตั้งสติขอความกรุณาคุณหมอเปลี่ยนแปลงภาษาได้ไหม เดียวเราจะสมัครงานไม่ได้ ถ้าออกเอกสารแบบนี้
แต่สิ่งที่คุณหมอยืนยันคือ คุณหมอบอกว่า ถ้าไปเปลี่ยนแปลงเอกสาร กรรมการฝ่ายทหารจะดุหรือต่อว่าคุณหมอเอาได้ ฉะนั้นขอเขียนแบบนี้แหละ ไม่ขอเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น
สุดท้ายคนหนึ่งคนก็ต้องมีตราบาปทั้งชีวิตในใบการคัดเลือกทหารเพียงเพราะว่าเขามีเชื้อเอชไอวี
แล้วแบบนี้คุณภาพชีวิตของเขาจะอยู่ตรงไหนถ้าเขาไปสมัครงานไม่ได้เพียงเพราะว่าติดที่ใบคัดเลือกทหาร
ถ้าคุณหมอเปลี่ยนแปลงคำพูดในเอกสารให้ ถึงน้องไปสมัครงานแล้วบริษัทสอบถามเรื่องน้องเป็นโรคประจำตัวอะไรถึงคัดเลือกทหารไม่ได้ผมคิดว่านั้นค่อยว่ากัน
แต่ตอนนี้น้องคนนี้ทั้งที่อายุพึ่งแค่ 20 กว่าปี แต่มี ตราบาป !!! ติดตัวทั้งชีวิต ยิ่งกว่าการฆ่าคนตาย ตราบาปเพียงเพราะว่าเขามีเชื้อเอชไอวี
แล้วจะลดการเลือกปฏิบัติในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ฝันลมๆแร้งๆ ที่ต้องรอคอยทั้งชีวิต