หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

การเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ .. ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปลดล็อคปมในใจ ไม่ใช่แค่ทำศัลยกรรม

โพสท์โดย noolekzi

สวัสดีค่ะ จริงๆกระทู้นี้เราตั้งใจจะมารีวิวตา 2 ชั้นที่เราตัดสินใจทำมาค่ะ แต่เราอยากจะขอเล่าเรื่องราวที่เป็นสาเหตุให้เราอยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ครั้งนี้ก่อนค่ะ มันเป็นเรื่องที่เก็บอยู่ในใจของเรามานานมาก ตั้งแต่เริ่มจำความได้เลยแหละ พูดง่ายๆว่าเป็นปมในชีวิตเราเลย

ผู้หญิง 3 คนนี้ เป็นพี่น้องกันค่ะ พี่น้องแท้ๆ แต่มีอยู่คนนึง ที่ต่างจากคนอื่นสิ้นเชิง และคนนั้นก็คือ เรา

พี่น้องของเรามีกันอยู่ 3 คนค่ะ เราเป็นลูกสาวคนกลาง ตั้งแต่เด็กเราจะถูกเปรียบเทียบกับพี่สาวและน้องสาวมาตลอด เพราะทั้งพี่สาวและน้องสาวของเราหน้าตาดีทั้งคู่ ส่วนเราแตกต่างจากคนอื่นทุกอย่าง ยิ่งน้องสาวเราทั้งสวย น่ารัก คุยเก่ง ใครเห็นก็รัก แต่เราก็อย่างที่เห็นค่ะ เราไม่ได้สวยเหมือน 2 คนนั้นเลย ที่เห็นชัดที่สุดเลยคือ ตาเราไม่สวย ไม่เท่ากัน มันทำให้เราไม่เคยมั่นใจในตัวเองเลย ตอนเด็กๆพวกผู้ใหญ่ก็จะชอบแหย่เรา ว่าพ่อแม่เก็บมาเลี้ยง แล้วก็หัวเราะกัน แต่เราไม่เคยตลกกับเรื่องนี้เลย กลับกันมันทำให้เราร้องไห้บ่อยมาก ตั้งแต่เด็ก เวลามีงานหรือมีกิจกรรมอะไรเราไม่เคยเป็นคนถูกเลือกเลย เรายกมืออยากทำนู่นทำนี่ตลอดแต่ก็ถูกมองข้ามทุกครั้ง ส่วนน้องเราก็จะได้ทำนู่นทำนี่ตลอด น้องมักจะได้โอกาสที่เราไม่เคยได้เสมอ มันเลยกลายเป็นปม ให้เราคิดเปรียบเทียบตัวเองกับพี่น้องตลอดเวลา เพราะเราแตกต่างจากคนอื่นมากจริงๆ

นี่คือเราเองค่ะ

 

นี่คือ น้องสาวเรา สวย น่ารัก ต่างกับเรามากๆ 

 

 

ส่วนนี่ก็ พี่สาวเราค่ะ อาจจะไม่สวยเท่าน้องสาว แต่ก็น่ารัก ดูดีกว่าเราอยู่ดี

ไม่เว้นแม้แต่ที่บ้าน เรามักจะรู้สึกว่าพ่อแม่รักพี่กับน้องมากกว่าเราเสมอ เรารู้สึกว่าพ่อแม่จะเอาใจน้องมากกว่าเรา มีอะไรก็ให้น้องก่อนตลอด แม้แต่พี่สาวก็ยังเหมือนรักน้องคนเล็กมากกว่าเรา ยิ่งโตขึ้น เรากับน้องก็ยิ่งเหมือนไม่สนิทกันมากขึ้น ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบหรือเกลียดพี่กับน้องนะคะ เรายังรักคนในครอบครัวเราเหมือนเดิม แต่ที่เรารู้สึกคือ เหมือนเราเป็นคนนอก เหมือนเรายืนอยู่อีกฝั่งของพวกเค้า คือเราก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าน้องคิดยังไง แต่เราเนี่ย จะชอบคิดตลอดว่า น้องคงจะหัวเราะเยาะเราอยู่ในใจแน่ๆที่ไม่มีอะไรสู้เค้าได้ซักอย่าง บวกกับคนรอบตัวคอยพูดคอยเปรียบเทียบให้ฟังมาตลอด บางคนพูดเป็นเหมือนเรื่องตลก ว่าทำไมน้องสวยอย่างกับนางฟ้า แต่พี่ขี้เหร่เหมือนน้องเดินมากับคนรับใช้ ต่างๆนานา โดยที่เค้าไม่คิดหรอกว่าความสนุกปากของเค้า มันทำร้ายจิตใจเรามากแค่ไหน ทำให้เราสองคนพี่น้องคุยกันน้อยลงเรื่อยๆ จนเริ่มห่างกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

พอเราโตขึ้น ก็ยิ่งได้เจอกับความไม่ยุติธรรมที่เกิดจากความไม่สวยของเรามากขึ้นทุกวัน ตั้งแต่เรื่องงาน เราไปสมัครงานหลายที่ก็ถูกปฏิเสธมาตลอดกว่าจะได้งานที่เหมาะกับเรา แค่ดูจากสายตาที่คนอื่นมองมา เราก็พอจะรู้แล้วค่ะว่าเค้ารู้สึกยังไง ยิ่งเรื่องความรักไม่ต้องพูดถึงค่ะ เราไม่เคยมีโมเม้นท์มีคนมาจีบ มาแอบชอบอะไรกับเค้าหรอก จนมีแฟนกับเค้าคนนึง เราก็รู้สึกว่าแฟนเราจะไม่ค่อยอยากเปิดตัวเราให้คนอื่นรู้ แฟนเราแทบไม่เคยอัพรูปเราลงโซเชียลเลยค่ะ แต่เราก็เข้าใจนะ เราก็คิดแหละว่าเค้าอาจจะอายรึป่าว เพราะเราไม่ได้สวยแบบที่เค้าอยากจะเอาไปอวดคนอื่นจริงๆ จนถึงจุดที่เราเริ่มไม่โอเคกับสถานะแบบนี้ ตอนนั้นเราก็เริ่มคิดแล้วค่ะ ว่าอยากจะสวยขึ้นอ่ะ เราทนกับเรื่องแบบนี้มาตลอดชีวิต และเราก็ไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว เราเชื่อว่าถ้าเราดูดีกว่านี้ คนอื่นจะหันมามองสิ่งดีๆที่เรามีอยู่ข้างในมากกว่านี้ เราเลยเริ่มจากการไปรักษาตาก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ เพราะเป็นจุดที่เรารู้สึกว่าเป็นปมด้อยของเรามากที่สุด และเราก็คิดว่า ดวงตานี่แหละ เป็นหน้าต่างของหัวใจ เวลาคนเจอเราเค้าก็จะมองตาเราก่อน เราเลยอยากจะเริ่มจากประตูตรงนี้เป็นอย่างแรก เลยเริ่มหาข้อมูลเรื่องการรักษาตาตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ

แต่ระหว่างนั้น ก่อนหน้าที่จะไปผ่าตัดเอ็นตาล่างกับหมอรวงข้าว วันนึงเรามีโอกาสกลับไปหาพ่อแม่ที่บ้านได้เจอพี่สาวน้องสาว และเปิดใจพูดคุยกันจริงๆจังๆอีกครั้ง จากที่ก่อนหน้านี้เรา 3 คนพี่น้องแทบไม่เคยเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย วันนั้นเหมือนปลดล็อคความรู้สึกของเราที่มีมาตั้งแต่เด็กเลยค่ะ ที่เราเคยคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก คิดว่าพี่สาวน้องสาวรังเกียจเรา หัวเราะเยอะเรามาตลอด จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่เราเคยคิดว่าน้องข่มเรามาตลอด เคยคิดว่าตัวเองแพ้น้อง แต่ความจริงแล้วมันตรงกันข้ามหมดเลย ที่ผ่านมาน้องสาวเป็นคนที่คอยปกป้องเรามาตลอด คอยซัพพอร์ตเราทุกเรื่องโดยที่เราไม่เคยรู้เลย ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน และเวลาคนรอบข้างพูดหรือมองเราแง่ลบ แต่เพราะตอนนั้นเป็นที่ใจของเรา ที่รู้สึกแย่กับตัวเอง เลยไม่เคยเปิดใจมองความจริงที่เป็น แม้แต่พ่อแม่ที่เราคิดว่าเค้าไม่รักเราเหมือนพี่สาวน้องสาว เค้าก็รักเรามากๆ มีอะไรก็คิดถึงเราก่อนตลอด คอยเป็นห่วงตลอด แต่เป็นเพราะเราเองอีกนั่นแหละ ที่ตีความสิ่งที่พวกเค้าทำในแง่ลบมาตลอดฝ่ายเดียว วันนั้นเราเลยเข้าใจทุกอย่างค่ะ ที่ผ่านมาถึงแม้คนภายนอกจะมองเรายังไง จะไม่ชอบ จะกีดกัน จะดูถูกเรายังไง แต่สุดท้ายแล้วคนที่รักและเข้าใจเรามากที่สุดก็คือ คนในครอบครัวของเรา และคนสำคัญ ที่มีผลต่อชีวิตเรามากที่สุดก็คือ “ตัวเราเอง” ค่ะ เรื่องนี้มันทำให้เราได้รู้ว่า ต่อให้คนทั้งโลกจะมอง จะดูถูกเราแค่ไหน แต่เราต้องไม่ดูถูกตัวเองค่ะ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา คนที่ทำให้เรารู้สึกแย่ มองทุกอย่าง มองสิ่งดีๆที่คนรอบตัวทำให้ไปในทางแย่ๆหมด ก็คือ “ตัวเราเอง” เช่นกัน

ตอนนั้นเราเหมือนได้ครอบครัวใหม่ ได้พี่สาว น้องสาวคนใหม่ ทั้งที่เป็นคนเดิม เพราะแค่มุมมองความคิดของเราที่มีต่อคนในครอบครัวเปลี่ยนไปจากเดิมค่ะ จากพี่น้องที่ไม่คุยกัน ไม่สนิทกัน จากวันนั้นก็กลับมาคุยกันมากขึ้น มันรู้สึกดีมากๆ เป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตเราเลยค่ะ หลังจากคือเรากับน้องสาวก็สนิทกันมากเลยค่ะ กลายเป็นว่าตัวติดกันไปเลย

ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกดีกับตัวเองมากๆแล้วก็ยุ่งมากๆเช่นกัน แต่ระหว่างนี้ก็พยายามไปหาหมอรักษาตาที่นั่นทีที่นี่ที ไปมาหลายที่แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้จริงๆซักทีเพราะเคสเราค่อนข้างยากจนเราเริ่มท้อ ผ่านมานานจนน้องสาวที่เป็นเจ้าแม่ความสวยความงามอยู่แล้วและอยากให้เจ้สวยบ้างเจ้ากี้เจ้าการให้เรากลับไปปรึกษาที่ Lovely Eye and Skin Clinic อีกครั้ง จากที่เราเคยอินบ็อกซ์ไปถามทิ้งไว้เป็นปีแต่ไม่ได้ไปซักที ก็น้องสาวเราคนนี้อีกแหละที่เป็นคนแนะนำคลินิกนี้ให้ จนเราได้ไปผ่าตัดยกมุมตาล่าง เพื่อรักษาเยื่อบุตาอักเสบกับคุณหมอรวงข้าวเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2560 ที่ผ่านมา ตอนนี้อาการต่างๆที่เคยเป็นปัญหาของเราก็หายไปแล้วค่ะ จากที่เมื่อก่อนเราตาแห้งง่ายมากๆ โดนลมนานๆไม่ค่อยได้เพราะจะเจ็บตา น้ำตาไหลตลอด ก่อนหน้านี้เราหลับตาไม่สนิทด้วย เลยทำให้พวกฝุ่นหรือลมมันเข้าตาง่าย ต้องเข้าออกโรงพยาบาลรักษาเยื่อบุตาอักเสบเป็นๆหายๆ ตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว รู้สึกว่าใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมากๆ

นี่คือเรา หลังจากผ่าตัดรักษาเอ็นตาล่างกับหมอรวงข้าวเรียบร้อยแล้วค่ะ

เราค่อนข้างประทับใจคุณหมอที่เป็นจักษุแพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยเฉพาะ พอแผลหายสนิทก็เลยตัดสินใจทำตา 2 ชั้นที่นี่ต่อเลยค่ะ อย่างน้อยคุณหมอก็เข้าใจปัญหาของเราตั้งแต่แรก ก็คิดว่าน่าจะง่ายกว่าไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่น ก่อนทำเราไปปรึกษากับหมอรวงข้าวอีกครั้ง คุณหมอบอกว่าเรามีปัญหาตาไม่เท่ากันตั้งแต่กำเนิดอยู่แล้วนะ คือข้างนึงลูกตาเล็ก ข้างนึงลูกตาโต ซึ่งเกิดจากโครงสร้างใบหน้าและเบ้าตาที่ไม่เท่ากันด้วย หลังทำอาจจะเท่ากันขึ้นแต่ก็ยังไม่เท่ากันอยู่ดีนะ แต่เราก็โอเคค่ะ เชื่อมือคุณหมอด้วย คิดว่าดีขึ้นสัก 50-70% ก็พอใจแล้ว ที่เหลือก็คิดว่าแต่งหน้ากลบเอาได้ค่ะ เราได้คิวทำตา 2 ชั้น วันที่ 21 กรกฎาคม 2560 ค่ะ

ก่อนทำค่ะ ถ่ายเก็บไว้ก่อนเลย รอดูการเปลี่ยนแปลงค่ะ

ระหว่างรอเข้าไปทำตา 2 ชั้นค่ะ พนักงานบอกว่ารักษากล้ามเนื้อตาแล้วดูดีขึ้นเยอะเลย ก่อนหน้านี้ตาเราจะแบะชัดเจนมาก

 

เสร็จแล้วค่ะ ออกจากห้องปุ๊บเซลฟี่ปั๊บเลย หมอรวงข้าวมือเบามากจริงๆ เพราะไม่เจ็บเลยค่ะ ตอนฉีดยาชาก็ไม่เจ็บนะ 

 

เสร็จแล้วค่ะ กลับบ้านได้

หลังผ่า1วัน ไม่ช้ำ บวมเล็กน้อย ไม่เจ็บแล้วคะ แต่ตึงๆบ้างนิดหน่อย

หลังผ่าวันที่2. ไม่ช้ำ แต่บวมเล็กน้อยค่ะ

วันที่ 3 ยังบวมอยู่นิดๆค่ะ แต่เริ่มเข้าที่แล้ว

วันที่4 ค่ะ วันนี้ทำงานวันแรก ที่ทำงานเราจะฝุ่นค่อนข้างเยอะ เวลาทำงานก็จะใส่แว่นไว้ตลอดค่ะ กันฝุ่น

วันที่ 5

วันที่ 6

วันที่ 7 ยุบไปเยอะเลยค่ะ แต่มันยังดูบวมๆเพราะไหมมันรัดเปลือกตาไว้ ช่วงนี้เราไม่ได้ทาครีมเลย หน้าก็จะค้ำๆโทรมๆหน่อย

ภาพนี้วันที่ 1 สิงหาคม ค่ะ 11 วันหลังทำตา 2 ชั้น วันนี้มาตัดไหมแล้วค่ะ
หมอนัดมาดูแผลหลังตัดไหมอีกทีวันที่ 7 สิงหาคมค่ะ

วันที่ 12 หลังทำตา 2 ชั้นค่ะ หลังตัดไหม 1 วัน ไปทำงานแบบไม่ใส่แว่น ตาข้างที่บวมเริ่มยุบ เพราะตัดไหมออกไปแล้ว

วันที่ 13 หลังทำตา 2 ชั้นค่ะ

วันที่ 14 หลังทำตา 2 ชั้นค่ะ อาจจะดูเหมือนชั้นตาเราไม่เท่ากันนิดๆนะคะ เป็นเพราะตาไม่เท่ากันอยู่เดิม เป็นสิ่งที่คาดว่าจะเป็นอยู่แล้วค่ะ แต่ดูจริงๆถ้าไม่ได้สังเกตก็จะไม่ชัดค่ะ

วันที่ 7 สิงหาคม เราไปหาหมอตามนัดมาค่ะ แต่วันนั้นเราเป็นภูมิแพ้กำเริบพอดีตาที่ใกล้จะหายบวมเลยบวมเลยบวมขึ้นมาอีก หมอเลยนัดอีกทีวันที่ 17 สิงหาคมค่ะ

หลังทำตา 2 ชั้น  20 วันค่ะ

วันที่ 17 สิงหาคม ไปหาคุณหมอตามนัดค่ะ คุณหมอบอกว่าแผลสวย ยุบลงเยอะเลย นี่เทียบรูปให้ดูนะคะ ก่อนทำหลังทำยังไม่ถึงเดือนเลย ต่างกันมาก

แล้วก็ฉีดยาลดบวมให้ 1 ข้าง ข้างที่บวมกว่าและนัด วันที่ 6 กันยายน เพื่อดูแผลอีกครั้งค่ะ

วันที่ 23 สิงหาคม ครบ 1 เดือนหลังทำ ชั้นตาเริ่มเข้าที่ ดูสวยกว่าก่อนเหมือนเป็นคนใหม่เลย

วันที่ 28 สิงหาคม เริ่มถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ

วันที่ 6 กันยายน ไปหาคุณหมอครั้งสุดท้าย รอบนี้คุณหมอไม่นัดแล้วค่ะ เพราะแผลสวยแห้งสนิท ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ได้อายครีมมาอันนึงด้วยค่ะ

 

สำหรับเราที่ไม่เคยยิ้มให้ตัวเองได้เต็มที่เวลาส่องกระจก แต่หลังจากที่ตัดสินใจลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลง พัฒนาตัวเองให้ดูดีขึ้น อาจจะไม่ได้สวยเท่าคนอื่นๆ แต่ตอนนี้ก็คิดว่าตัวเองดูดีกว่าที่เคยเป็นมาตลอดชีวิตมากแล้วค่ะ และสิ่งที่เราได้นอกจากความมั่นใจในตัวเองที่ไม่เคยมีมาก่อน ก็คือเรามีความสุขกับชีิวิตตัวเองมากขึ้นค่ะ ไม่ใช่แค่เพราะสวยขึ้น ดูดีขึ้น แต่เพราะเราได้หันกลับมารักตัวเองมากขึ้น และจากที่เราได้เปิดใจคุยกับครอบครัวช่วงก่อนที่เราตัดสินใจรักษาตา เพราะเป็นสิ่งที่เราคิดว่ามันทำให้พ่อแม่พี่สาวน้องสาวไม่รักเรา ไม่เห็นค่าของเรา ตอนนี้เราก็ได้เข้าใจพวกเค้ามากขึ้น รักครอบครัวมากขึ้น ที่สำคัญคือเรามองเห็นความรักความหวังดีจากคนรอบตัวมากขึ้นด้วย ไม่ใช่เพราะดวงตาของเราที่ดีขึ้น แต่เพราะเราเปิดใจมากขึ้น ตอนนี้เรารู้แล้วว่า สิ่งที่เห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นเสมอไป เราเลยต้องใช้หัวใจมองความจริง มากกว่าแค่ใช้ตา

เนื้อหาโดย: noolekzi
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
noolekzi's profile


โพสท์โดย: noolekzi
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: lovelypony, jillspare, sundaywi, bppnon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลาบูบู้หลบไป ลิซ่าไปสอยDimooแล้วเจนนี่ Blackpink - ไบร์ท วชิรวิชญ์ นำทีมซุปตาร์เอเชียร่วมงาน Met Gala 2024ออเดอร์สุดหลอน ส่งที่กำแพงเรือนจำร้าง..แล้วเรียกชื่อให้ออกมากินสะเทือนวงการแพทย์อินเดีย หลังชายแขนขาด2ข้างได้รับการต่อแขนใหม่แขนจากผู้บริจาคให้ จนสำเร็จ!!เครื่องบินฝึกหัดของกองทัพอากาศ รุ่นที่ผลิตขึ้นโดยฝีมือคนไทยความเป็นมาของงาน " Met Gala "ข้าราชการราชวงศ์ชิงออกเยี่ยม: ภาพที่น่าตกตะลึงของผู้แบกเกี้ยวโปรดระวัง! เลี่ยงให้ไกล ต้นไม้ที่มีรังนก..เพราะมันแฝงด้วยอันตราย'ก้อง ห้วยไร่' ตัดพ้อ รถทัวร์ไปลงที่ 'โน้ส อุดม' หมด ที่ร้องเปิดโชว์ก็ถูก Netflix ตัดออกอีก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เครื่องบินฝึกหัดของกองทัพอากาศ รุ่นที่ผลิตขึ้นโดยฝีมือคนไทยห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในเขตจังหวัดภาคอีสานของไทยประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากที่สุดสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ 5 วิธี จัดการเงินยังไงให้สิ้นเดือนไม่หมดตัว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด Review, HowTo, ท่องเที่ยว
เมืองนี้แดดออก 21 ชั่วโมง ก็ยังหนาวเที่ยวทะเลเดือนไหนไม่มีมรสุมอุโมงค์ไม้ไผ่สวยๆ ณ วัดจุฬาภรณ์วนาราม นครนายก ช่วยแผ่นดินไหวเนปาล 30 :คืนสุดท้ายกับเนปาลี
ตั้งกระทู้ใหม่