หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทำไมอิสลามถึงให้ความสำคัญกับหินดำ?

Share แชร์บอร์ด ข่าววันนี้ โพสท์โดย hamizan

ทำไมอิสลามถึงให้ความสำคัญกับหินดำ?

หินดำเป็นหินที่ถูกตั้งอยู่มุมของกะบะฮ์ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ถูกคลุมรอบด้วยกับเงิน หินดำเป็นจุดเริ่มของการเวียนรอบกะบะห์ (ตอวาฟ) ซึ่งถูกยกเหนือพื้นดินประมาณ 1.5 เมตร เป็นหินที่มีความหนัก เป็นรูปทรงวงรี มีสีดำแดง

 

หินดำเป็นหินที่ถูกประทานลงมาจากสวรรค์ โดยลงมาในสภาพที่เป็นชิ้นเดียว แต่ปัจจุบันนี้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำนวน 8 ชิ้น ถูกเคลือบด้วยกับปูนน้ำมันที่สามารถมองผ่านได้ ซึ่งผสมด้วยขี้ผึ้ง ชะมดเชียง และอัมบัร (ไขจากลำไส้ปลาวาฬนำมาใช้ทำเครื่องสำอางพวกน้ำหอม) ซึ่งถูกวางไว้บนหัวของหินดำ

 

ผู้ที่นำเอาหินดำมาวางไว้ ณ กะบะฮ์คือท่านศาสดาอิบรอฮีม เพื่อให้ผู้ตอวาฟเริ่มตอวาฟ ณ จุดเริ่มที่หินดำ เพื่อไม่ให้เกิดการสับสน

 

สำหรับการจูบหินดำนั้น ท่านศาสดามูฮัมหมัดได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า “หินดำคือการสาบานของอัลลอฮ์ (ผู้ทรงสูงส่งและมีเกียรติ) ในพื้นพิภพนี้ ซึ่งสิ่งถูกสร้างของพระองค์ (มนุษย์) สามารถจับสัมผัสมันได้ เสมือนกับการที่บุรุษได้จับสัมผัสมือของพี่น้องของเขา”

 

ด้วยเหตุนี้เอง ท่านศาสดาจึงได้จูบหินดำ โดยได้มีรายงานจากท่านอุมัร บุตร อัลค็อฏฏ๊อบว่า ตัวท่านอุมัรเองก็ได้จูบหินดำ ซึ่งในขณะท่านอุมัรจูบหินดำนั้น ท่านอุมัรได้กล่าวกับหินดำว่า “ฉันรู้ว่า ท่านก็คือหินก้อนหนึ่งที่ไม่มีอันตราย ไม่มีประโยชน์ และหากแม้นว่าฉันไม่เห็นท่านศาสดามูฮัหมัดจูบท่านล่ะก็ ฉันก็จะไม่จูบท่าน” หลังจากนั้นท่านอุมัรก็ร้องไห้ และหันหลังไปพบท่านอาลี บุตร อบีตอเล็บ ท่านอุมัรจึงได้กล่าวขึ้นว่า “โอ้บิดาแห่งฮูเซนเอ๋ย ที่นี่ใช่ไหม ที่ท่านได้หลั่งน้ำตาและขอพร” ท่านอาลีจึงกล่าวว่า “โอ้ท่านผู้นำแห่งเหล่าศรัทธาชน! เนื่องจากหินก้อนนั้นมีโทษและประโยชน์” ท่านอุมัรกล่าวต่อไปว่า “แล้วอย่างไรล่ะที่มันมีโทษและประโยชน์” ท่านอาลีกล่าวว่า “แน่นอน เมื่ออัลลอฮ์ทรงสัญญาแก่บรรดาดวงวิญญาณในขณะที่อยู่ในโลกแห่งวิญญาณ พระองค์จะทรงบันทึกให้แก่พวกเขาโดยเป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากนั้นหินก้อนนี้ก็ได้กลืนการบันทึกนี้ เพื่อเป็นพยานแก่ผู้ศรัทธาถึงการรักษาสัญญา และเป็นพยานแก่ผู้ทรยศถึงการทรยศ” เมื่อท่านผู้อ่านทั้งหลายรู้เรื่องนี้ ท่านก็จะเข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ถึงได้ของพรต่ออัลลอฮฺในขณะจูบหินดำว่า 

 

اللّهُمَّ إيْمَاناً بِكَ ، وَتَصْدِيْقاً بِكِتَابِكَ ، وَوَفَاءً بِعَهْدِكَ

 

“โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงทำให้ฉันศรัทธา โดยศรัทธาต่อท่าน และขอพระองค์ทรงทำให้ฉันเชื่อมั่น ด้วยการเชื่อมันต่อการบันทึกของท่าน และขอพระองค์ทรงทำให้ฉันรักษาสัญญา ด้วยการรักษาสัญญาของท่าน”

 

ได้มีรายงานว่า “เมื่อท่านศาสดาอิบรอฮีม (อะลัยฮิสสลาม) สิ้นสุดการสร้างกะบะฮ์ด้วยกับการนำเอาหินดำมาวาง โดยได้กล่าวกับท่านศาสดาอิสมาแอลผู้เป็นบุตรชายว่า “ท่านจงนำเอาหินก้อนหนึ่งมาให้ฉัน เพื่อที่ฉันจะได้นำมาเป็นสัญลักษณ์ของกการเริ่มตอวาฟ” แล้วท่านศาสดาอิสมาแอลก็ได้ออกไปเอาหินก้อนหนึ่งมา ท่านศาสดาอิบรอฮีมจึงกล่าวว่า “ท่านจงไปเอาหินก้อนอื่นที่มิใช่หินก้อนนี้มา” แล้วท่านศาสดาอิสมาแอลก็ออกไปเอาหินมาอีกก้อน ท่านศาสดาอิบรอฮีมจึงกล่าวเป็นครั้งที่สามว่า “ท่านจงไปเอาหินก้อนอื่นที่มิใช่หินก้อนนี้มา” แล้วท่านศาสดาอิสมาแอลก็ออกไปเอาหินมาเป็นก้อนที่สาม และท่านศาสดาอิบรอฮีมก็ได้กล่าวว่า “ได้มาหาแก่ฉันซึ่งบุคคลที่ทำให้ฉันไม่ต้องการหินของท่าน” แล้วท่านศาสดาอิบรอฮีมก็ได้มองไปยังหินดำที่อยู่ในตำแหน่งของมัน

 

ปรากฏว่าในยุคก่อนอิสลาม หินก้อนนี้ถูกวางไว้ใกล้ๆกะบะฮ์ ต่อมาก็ถูกทำเอาออกไปไกลจากกะบะฮ์หลังจากเปิดเมืองมักกะห์ให้เป็นเมืองอิสลาม และได้ถูกนำมาวางไว้ในตำแหน่งของมันในปัจจุบันนี้ ชาวอาหรับกล่าวกันว่า ภายใต้หินก้อนนี้ มีอุปกรณ์ก่อสร้างที่ท่านศาสดาอิบรอฮีมใช้ในการก่อสร้างกะบะฮ์ และอาหรับทั้งก่อนอิสลามและในยุคอิสลามก็เชื่อกันว่า หินก้อนนี้มีความศักดิ์สิทธิ์

 

ในยุคที่ท่านศาสดาถือกำเนิดมาก่อนที่จะทำการเผยแพร่ศาสนาแห่งอัลลอฮฺ ชาวกุเรชได้ทำการบูรณะกะบะฮ์เสร็จสิ้น พวกเขามีความขัดแย้งกันว่าใครจะเป็นผู้นำเอาหินดำไปวางไว้ในที่ของมัน เหตุการณ์นี้เกือบสร้าง ความวุ่นวายระหว่างลูกหลานชาวเผ่ากุเรช ดังนั้นท่านอบูอุมัยยะห์ อิบนุ อัลมุเฆเราะห์จึงได้ยืนขึ้น แล้วกล่าวว่า โอ้ชาวกุเรชเอ๋ย ! พวกท่านจงให้บุคคลแรกที่เข้ามาทางประตูมัสญิดนี้เป็นผู้ตัดสินความขัดแย้งระหว่างพวกท่านเถิด แล้วพวกเขาก็ปฏิบัติตาม ปรากฏว่าคนแรกที่เดินเข้ามาก็คือท่านศาสดามูฮัมหมัด (ศ็อลฯ) ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นท่านศาสดา พวกเขาก็กล่าวว่า ชายคนนี้เป็นผู้ที่ไว้วางใจได้ เรายินดี (ให้เขาเป็นผู้ตัดสิน) ชายคนนี้คือมูฮัมหมัด เมื่อท่านศาสดาเดินมายังพวกเขา แล้วพวกเขาก็บอกเรื่องราวการขัดแย้งระหว่างพวกเขา ท่านศาสดาจึงกล่าวว่า “จงเอาผ้าหนึ่งชิ้นมาให้ฉัน” แล้วผ้าก็ได้ถูกนำมา แล้วท่านศาสดาก็ได้ยกหินดำด้วยกับมืออันมีเกียรติของท่านวางไว้บนผ้าผืนนั้น แล้วท่านศาสดาก็ได้กล่าวว่า “ทุกๆเผ่าจงจับด้านหนึ่งจากผ้านี้ และจงยกมันขึ้นพร้อมๆกัน” แล้วพวกเขาก็ปฏิบัติตามจนกระทั้งถึงที่วางหินดำ ท่านศาสดาก็ได้ใช้มือของท่านยกหินดำไปวางไว้ในที่ของมัน

 

ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ศ็อลฯ)ได้กล่าวว่า “หินดำได้ถูกประทานลงมาจากสวรรค์ ในสภาพที่มีความขาวจัดประดุจน้ำนม ต่อมาความชั่วของมนุษย์ได้ทำให้มันเปลี่ยนสีเป็นสีดำ” แน่นอนสีดำนั้นมีอยู่เฉพาะหัวของหินดำเท่านั้น แต่ส่วนที่เหลือเป็นสีขาว ซึ่งบอกเล่าโดยมูฮัมมัด บุตร นาเฟียะอ์ อัลคอซาอีย์ เพราะเขาเห็นด้วยตาของเขาโดยเขากล่าวว่า “ฉันได้สังเกตหินดำในขณะที่มันแตกเป็นชิ้นๆ เห็นว่าความดำนั้นมีอยู่บนหัวของหินดำเท่านั้น และส่วนที่เหลือของมันเป็นสีขาว” หินดำคือการสาบานของอัลลอฮฺบนโลกนี้ เพราะท่านศาสดากล่าวว่า “แท้จริงแล้วหินดำนี้คือการสาบานของอัลลอฮฺในโลกนี้”

 

หินดำจะเป็นพยานให้กับบุคคลที่จูบหรือสัมผัสมันในวันกิยามะห์ เพราะท่านศาสดามูฮัมหมัดได้กล่าวไว้ว่า “แท้จริงสำหรับหินดำนี้มีลิ้นและมี 2 ริมฝีปาก มันจะเป็นพยานให้กับผู้ที่จูบหรือสัมผัสมันในวันกิยามะห์ด้วยความสัจจริง”

 

ด้วยเหตุทั้งปวงนี้ ทำให้เราได้รู้ว่า สิ่งต่างๆที่อัลลอฮฺ (ตะอาลา) ทรงสร้างขึ้นมานั้นมีโทษ ประโยชน์ และมีคุณลักษณ์ความพิเศษที่ต่างกันออกไป ดังนั้นหินดำก็คือวัตถุชิ้นหนึ่งที่อัลลอฮฺให้ความพิเศษแก่มัน เช่นเดียวกัน พระอาทิตย์และดวงจันทร์ที่เป็นวัตถุหนึ่งที่อัลลอฮฺทรงสร้างขึ้น โดยพระองค์จะให้ความสามารถแก่มันทั้งสอง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะมนุษย์ 

 

จากการวิจัยใหม่ๆ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต่างต้องตะลึงถึงความมหัศจรรย์ของหินดำ พวกเขาได้ศึกษาพบว่า แท้จริงสำหรับทุกๆเรือนร่างและสิ่งต่างๆมีพลังหรือรัศมีที่กระจายอยู่รอบๆตัวของมัน ดังนั้นผู้ที่ใกล้ชิด สัมผัส และจูบหินดำนั้นจะรู้สึกและสัมผัสได้ถึงพลังงานชนิดหนึ่ง และนี่เป็นสิ่งที่ชี้ถึงลักษณะพิเศษ ประโยชน์ในการมอง การจูบ และการสัมผัสหินศักดิ์สิทธิ์นี้ เนื่องจากดังกล่าวจะเป็นการหยิบยื่นพลังงานแก่เขา และแน่นอนทุกคนที่ทำการจูบหินดำนี้จะรู้สึกมีความกระฉับกระเฉง และสัมผัสพลังงานอันน่าประหลาด ซึ่งนี่อาจเป็นความเร้นลับที่ท่านศาสดามูฮัมหมัดได้ปฏิบัติต่อหินดำในขณะเริ่มเวียนรอบกะบะฮ์ด้วยการจูบและสัมผัส และสิ้นสุด ณ หินดิน... วัลลอฮู่อะลัม

 

จากหนังสือ “อิสลาม...ทำไม” โดย อะห์หมัดมุสตอฟา โต๊ะลง

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
hamizan's profile


โพสท์โดย: hamizan
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: ไทยเฉย, คิโยมิ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รวบแล้ว 1 มือวางเพลิงป่วนใต้10 เคล็ดลับในการฮีลใจตัวเอง สามารถทำได้อย่างไรบ้าง มาดูกันจ้า
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รพ.แม่ลาน แจง! "บังชาติ"หรือ"แม่หญิงลี" ไม่ได้เป็นบุคลากรรพ.แม่ลาน หลังบุคคลดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด!อ่านนิยายไร้สาระจริงหรือ"ซีอิ๊วแบบเม็ด" ฉีกทุกกฎของซอส..นวัตกรรมใหม่จาก "เด็กสมบูรณ์""บิ๊กเต่า" รับหลักฐาน "ทนายตั้ม" ลั่น ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง9 โรงเรียนหญิงล้วนที่น่าสนใจในประเทศไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
คลิปไวรัล! “เตือนแล้วไมีฟัง” พ่อสั่งสอนลูกชาย โดยทุบคอนโซลเกมจนพังยับเยินหนุ่มพ่นน้ำลายนาน 5 นาที กลายเป็นสถิติโลก!!เกิดเหตุทะเลาะวิวาททั่วสนามบินรัวซีรัสเซียส่งเรือรบไปทะเลแดงแล้ว
ตั้งกระทู้ใหม่