หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ซื้อ ถือ ขาย อาวุธหลักของนักลงทุน

Share แชร์บอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้ โพสท์โดย Jaruwan Inta

นักลงทุนหลายคนโดยเฉพาะที่เป็นมือใหม่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์มาไม่นาน เรียกว่ายังไม่สามารถรู้วิธีเอาตัวรอดได้ มักจะมีปัญหาคล้ายๆ กันก็คือการพยายามหาเหตุผลอธิบายทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งจุดนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มีประสบการณ์ได้ให้ความเห็นเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า บุคคลที่จะมีความสุขการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ต้องเป็นคนที่ปรับตัวได้เร็วโดยที่ไม่ต้องการคำอธิบายหรือเหตุผลที่แจ่มชัดไปเสียทั้งหมด หรือเรียกว่ายอมรับในสิ่งที่ดูเหมือนไม่มีเหตุผลได้ และต้องเป็นคนที่ไม่พยายามโทษคนอื่นหรือเหตุการณ์รอบตัวเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่คิด คนเหล่านี้จะมีวิธีการลงทุนที่คิดว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเอง ผลการตัดสินใจหรือการการทำทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบของตัวเอง โดยไม่โวยวายหรือโทษสิ่งใดทั้งสิ้น เรียกว่าเมื่อหุ้นขึ้นก็ไม่นั่งงงอยู่ว่าเพราะอะไร หรือหุ้นลงก็ไม่โวยวายว่าใครทำราคาลงเป็นต้น

เพราะถ้าเรามองราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เราจะเห็นความผันผวนอยู่ตลอดเวลา นักลงทุนหรือนักเก็งกำไร ก็เห็นหุ้นที่มีราคาเพิ่มขึ้นหรือลดลง (ไม่ว่าจะสมเหตุสมผลหรือไม่ก็ตาม) อยู่ทุกวี่วัน เมื่อหุ้นราคาขยับขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าอยู่เฉยๆ เอาแต่โวยวายก็เสียโอกาส (โดยเฉพาะกับหุ้นของบริษัท/กิจการที่เราได้วิเคราะห์แล้วว่ามูลค่าสูงกว่าราคาปัจจุบันอยู่มาก หรือเรียกว่าหุ้นมีราคาถูก) แล้วก็มานั่งงงว่าหุ้นขึ้นไปทำไม (นั่งบ่นก็เพราะไม่ได้ซื้อล่ะสิ มัวแต่รอของ ถูกมากถึงมากที่สุด ก็ในเมื่อคุณเห็นได้ คนอื่นก็อาจจะเพิ่งมาเห็นได้เหมือนกัน) ในทางตรงกันข้ามเมื่อหุ้นราคาตกลงมาแล้วหลายคนซื้อมาราคาแพงมากแล้วติดยอดดอย (กรณีนี้โชคดีที่มักไม่เกิดกับนักลงทุนแนวเน้นมูลค่าหรือ VI เท่าไรนัก) แล้วก็มานั่งบ่นว่าเอ๊ะใครทุบราคาหุ้น บางทีแย่กว่านั้นก็มีความพยายามที่จะไปตามดูว่าใครกันแน่เป็นคนทุบจะได้โทษได้ถูกคน (แล้วมันจะหาเจอไหม จะไปโทษทำไม ของแพงเกินไปมันก็ต้องปรับตัวลงมาบ้างเป็นธรรมดา) ดูแล้วหลายคนอาจจะว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับนักลงทุนที่เป็นมืออาชีพจริงๆ แล้วเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเสียเวลา ไร้สาระ และตลกด้วยซ้ำไป

แทนที่เราจะหวังพึ่งคนอื่นหรือนั่งเวียนหัวกับการที่หุ้นขึ้นหรือลงแล้วจะหวังให้ใครสักคนมาคอยติดตามดูแลราคาให้เราดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวและจะไปหวังพึ่งใครได้ นักลงทุนที่แท้จริงต้องหวังพึ่งตัวเองโดยใช้อาวุธสามอย่างที่เรามีอยู่ก็คือการ ซื้อ ถือ หรือ ขาย นั่นเอง

ซื้อ ถือ ขาย สามอาวุธสำคัญก็พอแล้ว

เมื่อเราสนใจหุ้นบางตัวที่คิดคำนวณดูแล้วว่าราคาในตลาดนั้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก (เรียกว่า หุ้นถูก) สิ่งที่เราควรทำก็คือการหาจังหวะซื้อเข้ามาบ้าง แล้ว จัดการต้นทุนให้ต่ำที่สุด (อ่าน วิชาที่สามวิชาควบคุมต้นทุน) ไม่ใช่ไปนั่งรอให้หุ้นลดราคาลงมาอีกแบบนี้เท่ากับเป็นการเสียโอกาส ในขณะที่ถ้าเราคิดว่าเราซื้อหุ้นมาแล้วราคาตกลงไปนิดหน่อยแต่มันถูกมากแล้ว เราอาจจะอยู่เฉยๆ คือใช้อาวุธที่เรียกว่า ถือ เอาไว้ก็ได้ เมื่อราคาตกลงไปจนถึงราคาที่ถูกมากจริงๆ ถ้าเรามีความมั่นใจมากในกิจการนั้นก็อาจจะไปซื้อเพิ่มมาก็ได้อีก ในทางตรงกันข้ามถ้าซื้อแล้วปรับราคาขึ้นไปเรื่อยแต่ยังไม่เกินมูลค่า (ยังไม่ แพง เกินพื้นฐาน) เราก็ยังสามารถใช้อาวุธตัวเดิมนี้คือถือหุ้นเอาไว้ แล้วรอให้หุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ มาจนถึงจุดหนึ่งที่เราคิดว่าราคาแพงมากเราก็อาจจะใช้อาวุธอีกตัวคือ ขาย ออกบ้างหรือขายเพื่อเก็บทุนกลับมา ถ้าเราขายหุ้นไปในจำนวนที่มากพอเพื่อจะได้ทุนกลับมาทั้งหมดนั่นคือการกำจัดความเสี่ยงไปทั้งหมด หรือพูดง่ายง่ายก็คือเราจะไม่ขาดทุนกับหุ้นนั้นแน่ๆ

อาวุธ ขาย ใช้รักษาทุนไว้ได้

ในโลกของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้นมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ไม่ว่าเราจะคำนวนมูลค่าต่างๆ ไว้ได้เท่าไร แต่เราไม่สามารถควบคุมราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลงในตลาดได้เลย ดังนั้นเราก็ต้องถือเครื่องมืออีกหนึ่งอย่างเก็บไว้เป็นสำคัญก็คือการขาย กรณีนี้ก็คือการ ขายตัดขาดทุน (อ่าน วิชาแรกวิชาคัทลอส) หมายความว่าเรา ตัดไม่ให้ขาดทุนมากไปกว่านี้ นั่นเอง

ดังนั้นนักลงทุนทุกท่านควรจำให้ขึ้นใจเอาไว้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เกิดความผันผวนในราคาหุ้นที่เราถืออยู่ เราเท่านั้นที่เป็นคนถืออาวุธสำคัญสามอย่างคือการ ซื้อ ถือ หรือ ขาย หุ้นนั้นออกไป อาวุธสามอย่างนี้ก็พอเพียงแล้วในการเอาตัวรอดและประสบความสำเร็จในการลงทุน อย่ามัวโวยวายว่าทำไมหุ้นถึงขึ้น ทำไมหุ้นถึงลง ใครเป็นคนทำ มันเป็นสิ่งที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นความลับของโลก บางทีเราก็ไม่มีทางรู้ได้หรือแม้จะรู้ก็สายไปเสียแล้ว ดังนั้น จงถืออาวุธไว้ให้มั่นแล้วใช้ให้เต็มที่ในการเอาตัวรอดจากตลาดหลักทรัพย์ครับ

เนื้อหาโดย: Jaruwan Inta
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Jaruwan Inta's profile


โพสท์โดย: Jaruwan Inta
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สุสานวัดดอน. สุสานกลางกรุง!อึ้ง! ลาวขุดค้นพบ "พระเจ้าแสนแซ่" องค์พระที่มีวิธีการสร้างไม่เหมือนพระพุทธรูปทั่วไป หล่อแยกเป็นชิ้นๆ?ยลโฉมความงดงามของนครวัดก๊อปเกรดเอจากฝีมือจีน อลังการไม่แพ้นครวัดของกัมพูชา!นักดื่มกระทิงแดง กำลังมองหากระป๋อง ที่มีจุดสีน้ำเงินอยู่ข้างใต้เผยโฉมหน้า "แบงค์" ที่ "เจ๊ปิ่น ทรงหิว" เต๊าะจนสำเร็จ..งานนี้ไม่หิวอีกต่อไปแล้ว!"ศรีสุวรรณ" รีเทิร์น ลุยฟ้อง ครม.-มท.1 ใช้อำนาจโดยมิชอบก่อสร้างถนนผ่านสวนเฉลิมพระเกียรติ ขัดต่อกฎหมายความน่ารักสดใส ของปลาคาร์ฟที่แหวกว่ายผ่านท่อระบายน้ำข้างถนนในญี่ปุ่นJKN ขาดทุน 2,157 ล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ธุรกิจคอนเทนต์แผ่วรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรก ที่สร้างเสร็จและเปิดใช้งานในประเทศไทย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ศรีสุวรรณ" รีเทิร์น ลุยฟ้อง ครม.-มท.1 ใช้อำนาจโดยมิชอบก่อสร้างถนนผ่านสวนเฉลิมพระเกียรติ ขัดต่อกฎหมายปรี๊ดเลย! "ครูไพบูลย์" โดนแซวว่าเล็ก..โต้กลับทันที "ผมเล็กหรือคุณโบ๋" กันแน่นักดื่มกระทิงแดง กำลังมองหากระป๋อง ที่มีจุดสีน้ำเงินอยู่ข้างใต้สลดหนุ่มติดตั้งเครื่องปั้มน้ำเชือกขาดพลัดตกบ่อดับ 2🤓 เข้ามาร่วมค้นพบสิ่งที่น่าประหลาดใจมากมายของเหล่าผู้คนในโลก Social 😆
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
รถไฟฟ้าใต้ดินสายแรก ที่สร้างเสร็จและเปิดใช้งานในประเทศไทยอุกกาบาตลูกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยถูกค้นพบบนพื้นผิวโลกราคาบ้านไม่ลด ความต้องการที่อยู่อาศัยไม่ลดสืบสานประเพณีเช็งเม้งของคนไทยเชื้อสายจีน
ตั้งกระทู้ใหม่