เศรษฐกิจไม่ได้ดีดัง ดร.สมคิดโว ประชาชนพึงระวัง
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) และคณะได้ออกสำรวจความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องหลายครั้ง ได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกันว่าเศรษฐกิจกำลังทรุดโดยมีรายละเอียดดังนี้:
วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561
ดร.โสภณ ได้สำรวจความเห็นของผู้ค้าแผงรายย่อย และรถสามล้อรับจ้างในบริเวณวัดอรุณราชวราราม ท่าเตียนแถววัดโพธิ์ ท่าช้างแถวพระบรมมหาราชวัง และถนนข้าวสาร ซึ่งเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจไปท่องเที่ยวมากที่สุด ในแต่ละบริเวณมีร้านค้า แผงลอยและผู้ประกอกการอยู่ราว 150-200 ราย โดย ดร.โสภณและคณะสำรวจแห่งละประมาณ 32 รายหรือราว 20% ของผู้ค้าทั้งหมด
ผลการสำรวจได้แสดงไว้ใน AREA แถลงฉบับที่ 85/2561 (https://goo.gl/qnscHx) และ FB Live ที่ https://goo.gl/GFx3AXพบว่า โดยสรุปทั้ง 4 บริเวณพบว่า นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจริง คือประมาณ 2.5% จากต้นปี 2560 แต่รายได้ลดลงเหลือ 97.2% ซึ่งแม้ไม่ได้ลดลงมาก แต่ไม่ได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจของชาติก็ดูตกต่ำลงจาก 100% เหลือ 96.7% เท่านั้น และที่สำคัญในปี 2562 คาดว่ายังจะลงต่อไปเหลือ 93.3%
สาเหตุที่นักท่องเที่ยวเพิ่ม แต่ขายสินค้าได้น้อยลงก็เพราะ นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพจากยุโรปมาลดลง เนื่องจากผลของรัฐประหารส่วนหนึ่ง ลูกค้าที่มามากก็คือชาวจีนซึ่งมักมาเป็นหมู่คณะ ไม่ได้ซื้อสินค้าอะไรมากนัก มาเดินมากกว่า ลูกค้าต่างชาติที่มา ยังต่อรองราคาอย่างสุดจะน่าเกลียด เช่น สินค้าราคา 100 บาท ต่อครึ่งราคา หรือต่อเหลือ 30 บาทบ้าง แม่ค้าบางรายถึงกับระบุว่าชาวพม่าที่มาทำงานในประเทศไทย แล้วแวะมาเที่ยว ยังมีกำลังซื้อมากกว่านักท่องเที่ยวเสียอีก และไม่ต่อรองราคาครึ่งต่อครึ่งเช่นนี้ นอกจากนั้น ยังอาจเป็นเพราะมีผู้ค้ามากยิ่งขึ้นอีกด้วย ผู้ค้าหลายรายโดยเฉพาะที่ถนนข้าวสารก็เจ๊งไปหลายร้าน โรงแรมก็ไม่เต็มเช่นเมื่อหลายปีก่อนรัฐประหาร
15 พฤศจิกายน 2560
AREA แถลง ฉบับที่ 434/2560: ดร.โสภณปัดตัวเลขราชการ ฟังธงท่องเที่ยวไทยดิ่งเหว (https://goo.gl/tDQUgp) ดร.โสภณ พบว่าที่ศูนย์การค้าเอเซียทีค ผู้ค้าส่วนมากเห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงกว่าเมื่อ 1 ปีก่อนหน้านี้ โดยอาจกล่าวได้ว่า 57% เห็นว่าลดลง และมีเพียง 14% เท่านั้นที่เห็นว่าเพิ่มขึ้น ที่เห็นว่าเหมือนเดิมมีเพียง 29% ถ้าสมมติว่า 50% คือตัวเลข 'สอบผ่าน' ปรากฏว่า ผู้ค้าประเมินผลไว้ที่ 43% ถือว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง หรือ 'สอบตก'
ในด้านรายได้จากการขายสินค้าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาโดยเปรียบเทียบก็พบว่า มีถึง 39% บอกว่าลดลงมาก ที่บอกว่าลดลงมี 34% ที่บอกว่าเท่าเดิมมีเพียง 23% ส่วนที่เห็นว่าเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นมากมีเพียง 4% เท่านั้น หากใช้เกณฑ์ 50% ถือว่า 'สอบผ่าน' ก็จะพบว่า คะแนนที่ได้อยู่ที่ 39% เท่านั้นแสดงว่า 'สอบตก' รายได้จากการค้าขายของผู้ค้าลดลงมากพอสมควร
เมื่อถามถึงเศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะเป็นอย่างไรในอนาคต ผลปรากฏว่าส่วนมากยังบอกเหมือนปี 2560 คือยังไม่ได้ดีขึ้น ที่ว่าดีขึ้นมา 25% ส่วนที่ว่าจะดีขึ้นมากมีเพียง 1% เท่านั้น แต่มีที่เห็นว่าแย่ลง 11% และแย่ลงมาก 4% และในการนี้คะแนนรวมอยู่ที่ 51% กรณีนี้ดูเหมือนกับ 'สอบผ่าน' แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ตอบแบบสอบถามตอบว่าเศรษฐกิจแย่เหมือนเดิม คือเหมือนปี 2560 และคาดว่าคงจะไม่แย่ลงไปกว่านี้ที่แย่มากอยู่แล้ว จึงทำให้คะแนนได้มากกว่า 50% แต่หลายคนก็บอกว่าหากมีการเลือกตั้ง สถานการณ์อาจจะดีขึ้นกว่านี้
ในการสำรวจยังพบว่าผู้ค้าบางรายก็บอกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอาจไม่ได้ลดลงหรือลดลงไม่ได้มาก แต่คนมาส่วนมากมาเดินชมบรรยากาศต่าง ๆ แต่ไม่ค่อยซื้อสินค้า หรือใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าลดลง บ้างก็ว่านักท่องเที่ยวจีนมาเดิน แต่ไม่ได้มาซื้อสินค้าเท่าที่ควร นอกจากนี้สำหรับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ทำงานมานาน 4-5 ปี คือตั้งแต่แรก ๆ ที่ศูนย์การค้านี้เปิดใช้บริการ ก็มีความเห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง จำนวนรถทัวร์ที่มาจอดลดน้อยลงกว่าแต่ก่อน
วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2560
ในการสำรวจผู้ค้าในบริเวณพัฒน์พงศ์ครั้งนี้ (http://bit.ly/2wzVgFL) ในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยว ในกรณีปกติ อาจอนุมานว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 100% แต่ผู้ค้าประเมินเหลือเพียง 63% จากที่ควรจะเป็น แสดงว่าลดลงมากถึง 37% ทีเดียว ในอีกแง่หนึ่งผู้ค้าที่เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมากมีถึง 64% ที่เห็นว่าค่อนข้างลดลงมี 27% และที่เห็นว่าปานกลาง (เหมือนเดิม) มี 6% ส่วนที่เห็นว่าเพิ่มขึ้น มีเพียง 3% และที่เห็นว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมามากที่สุดมีเพียง 1% เท่านั้น
ในด้านรายได้จากนักท่องเที่ยว ซึ่งในแง่หนึ่งก็น่าจะล้อไปตามจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ก็อาจแตกต่างกันได้ ผลการศึกษาพบว่า ในกรณีปกติ อาจอนุมานว่ามีรายได้จากการท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 100% แต่ผู้ค้าประเมินเหลือเพียง 62% จากที่ควรจะเป็น แสดงว่าลดลงมากถึง 38% ทีเดียว แสดงว่าประเมินลดลงไปในทำนองเดียวกัน ในอีกแง่หนึ่งผู้ค้าที่เห็นว่ารายได้จากการท่องเที่ยวลดลงมากมีถึง 65% ที่เห็นว่าค่อนข้างลดลงมี 27% และที่เห็นว่าปานกลาง (เหมือนเดิม) มี 5% ส่วนที่เห็นว่าเพิ่มขึ้น มีเพียง 3% เท่านั้น
ต่อความเห็นต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศในอีก 1 ปีข้างหน้า (ปี 2561) หาก 100% เป็นค่าปกติ ปรากฏว่าผู้ค้าประเมินไว้ที่ 86% ซึ่งแสดงว่าจะต่ำกว่าปกติเมื่อเทียบกับปี 2560 ประมาณ 14% แม้จะไม่แตกต่างจากการประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยว ผู้ค้าบางส่วนประเมินว่าเศรษฐกิจคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้แล้ว ขณะนี้น่าจะถึงก้นบึ้งแล้ว โดยรวมแล้ว ที่เห็นว่าเศรษฐกิจในปี 2561 จะแยกมากมีเพียง 16% ที่เห็นว่าค่อนข้างแย่มี 40% ที่เห็นว่าปานกลางหรือเหมือนปี 2560 มี 39% ที่เห็นว่าจะดีขึ้นมี 16% นั่นเอง
ปี 2559 แท็กซี่ก็มองว่าแย่
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ดร.โสภณ ก็ได้ให้คณะไปสำรวจความเห็นของคนขับแท็กซี่ทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ปรากฏว่าต่างมองว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง (http://bit.ly/1TgPQra) ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเพราะนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่มาเป็นหมู่คณะไม่ได้มาใช้บริการแท็กซี่ แต่นักท่องเที่ยวชาติอื่นก็ลดน้อยลงเช่นกัน แท็กซี่ ซึ่งเป็นเสมือน "ทูต" หรือ "หน้าต่าง" ของประเทศไทย กลับไม่รู้สึกรู้สาด้วย เป็นสิ่งที่พึงพิจารณา
การที่ผลสำรวจภาคสนามกับตัวเลขของทางราชการสวนทางกันเช่นนี้ ผู้เกี่ยวข้องจึงควรศึกษาให้แน่ชัด การลงทุนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การสร้างโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยว จึงควรดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจมีความเสี่ยงที่แฝงอยู่ การวิเคราะห์ทางการเงินจึงควรเพิ่มค่าความเสี่ยงหรือ Risk Premium ให้มากขึ้น เผื่อกรณีที่มีความเสี่ยงสูงเกินกว่าตัวเลขที่เป็นทางการนั่นเอง
ที่ว่าเศรษฐกิจดีล่ะ
ที่มีข่าวพาดหัวว่า "ฟันธง 3 ปัจจัยหนุน ศก ไตรมาสแรกโตเกินคาด" (กรุงเทพธุรกิจ 27 กุมภาพันธ์ 2561 https://goo.gl/FHBW4y) นั้น ปรากฏว่าในรายละเอียดว่าการส่งออกของไทยแม้จะโต แต่ก็ยังต่ำกว่าจีนและเวียดนามมาก แถมนำเข้าก็โต 24.3% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า แม้ยอดขายรถ และภาษีจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจภูมิภาคเติบโต 0.7% เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่พึงวางใจ
การที่มีตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่ม แต่ทำไมต้องปลดรัฐมนตรีท่องเที่ยว ถ้าการทำงานด้านการท่องเที่ยวได้ผลจริง จะปลดรัฐมนตรีทำไม ทำไปเพียงแค่ให้คนอื่นที่มีคอนเนคชั่นได้เป็นรัฐมนตรีบ้างเท่านั้นหรือ หรือเศรษฐกิจไม่ได้ดีอย่างที่ ดร.สมคิดคุย ทุกท่านต้องพิจารณาให้ดี
ที่มา: https://goo.gl/ozcaAb
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
นิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิต
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย


