หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เมื่อผมติดเชื้อHIV (เกย์รับ แชร์ประสบการณ์) อุทาหรณ์ไม่สวมถุงยาง

โพสท์โดย warrior B

สมาชิกเวบไซต์พันทิปท่านหนึ่ง อายุ 27ปี แชร์ประสบการณ์การติดเชื้อ HIV จากการมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียว ปกติจขท.จะให้คู่ขา สวมถุงยางป้องกันทุกครั้ง แต่ครั้งนี้พลาดคู่ขาขอสด อ้างสวมถุงยางแล้วไม่แข็ง.. หลังจากนั้นป่วย ไปตรวจเลือดพบว่าเป็นผลบวก โชคดีที่มีแม่ที่เข้าใจ จึงอยากจะเตือนทุกคนไว้เป็นอุทาหรณ์ โดยได้เล่าเรื่องราวดังนี้ 

สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวก่อนว่า นี่คือกระทู้เเรกของผมในPantip (ยืมเเอคเคาท์ของพี่มาเพราะผมตั้งไม่ได้ ไม่ได้ยืนยันตัวตน) ถ้ามีอะไรผิดพลาดตรงไหน ผมต้องขออภัยด้วยนะครับ การถ่ายทอดของผมคงจะยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เเต่สิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ผมมีความตั้งใจอย่างมาก ที่จะมาถ่ายทอดให้พี่ๆ น้องๆ หรือ เพื่อนๆในนี้ทุกคนได้อ่านกันครับ เเละผมหวังว่า สิ่งที่ผมได้ทำนี้ จะเป็นประโยชน์เเก่ทุกคนในการใช้ชีวิต.


ปัจจุบันผมอายุ27 ปีครับ (เพิ่งจะผ่านวันเกิดมาเมื่อไม่กี่วัน) ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ คือผมได้เคยไปมีความเสี่ยงมา (อ้อ...ผมเป็นกลุ่มคนรักร่วมเพศนะครับ) สิ่งที่ผมได้ไปเสี่ยงมาเมื่อ20กว่าวันนั้นคือ ผมได้นัดเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งปกติผมก็ไม่เคยได้นัดอะไรใครบ่อยๆหรอก เเต่ในวันนั้นก็ได้นัดคนคนนึง เพื่อมีเพศสัมพันธุ์กัน

ซึ่งปกติผ้าผมจะมีอะไรกับใครผมก็จะไม่ลืมที่จะพกถุงยางอนามัยไปด้วย (ผมเป็นฝ่ายรับนะครับ) เเต่ก็จะพกถุงยางอนามัยติดตัวไว้เสมอๆ เเต่วันนั้น ที่ไปเจอคนนั้น ก็เริ่มมีอะไรกันตามปกติ โดยตอนเเรกเค้าก็สวมถุงยางอนามัย เเต่เค้าบอกว่า อวัยวะเพศของเค้าไม่เเข็งตัว ถ้าใส่ถุงยางอนามัย ทำให้สอดใส่ไม่ได้ ผมก็คิดในใจว่า จะยังไงดีล่ะ งั้นก็ไม่เอาต่อ เเยกย้ายกันกลับก็ได้ เพราะผมไม่สดนะ เเต่เค้าก็คะยั้นคะยอผมว่า ขอสดนะ ขอเอาเข้าเเค่ส่วนหัวพอ

ผมก็พูดไปว่า เเต่มันก็เสี่ยงนะ เเต่เค้าก็ไม่ฟัง จัดการถอดถุงออก เเละใช้อวัยวะเพศสอดใส่เข้ามา (ใส่เเค่ส่วนปลายๆ ไม่ได้สอดใส่เข้ามาจริงจัง) ทำเเบบนี้อยู่ประมาณเกือบๆ10นาที จนผมตั้งสติได้ เเละบอกให้เค้าใส่ถุง เค้าก็ใส่นะ เเล้วก็ถอดอีก เเละพูดคำเดิมว่า "ใส่เเล้วไม่เเข็ง" เเล้วก็ทำเหมือนคือ สอดใส่อวัยวะเพศเข้ามา เเต่ไม่ถึงกับใส่เข้ามาเเบบเต็มๆ หรือเสร็จอะไร เเล้วผมก็บอกพอ เเละเเยกย้ายกัน เพราะคิดว่า มันไม่ใช่เเล้ว  (จริงๆ ผมควรจะตั้งสติได้ตั้งเเต่ทีเเรกเเล้วเเหละ เเต่ก็ช้าไป)


หลังจากเเยกย้ายกันไป ผมก็ใช้ชีวิตเเบบปกติ ไม่ได้มีการนัดใครเพิ่มอีก เเต่ในใจก็ยังกังวลกับเรื่องนี้มาตลอด. จนมาถึงวันที่ 10 กุมพาพันธ์ 2561 ผมก็เริ่มมีอาการเหมือนคนไม่สบาย

ตอนเเรกก็คิดว่าตัวเองเป็นหวัดธรรมดา เพราะมีอาการไอ เจ็บคอ มีไข้ เเต่ก็ยังทำกิจกรรมอะไรในชีวิตตามปกติ เเละก็กินยาพาราไป ซึ่งปกติ ถ้าผมไม่สบาย กินยาพารามันก็ควรจะหายไปภายใน2วัน หรือไข้ต้องลดบ้าง ผมเลยสงสัยว่า หรือจะเป็นไข้เลือดออก เเต่อาการก็ไม่ได้เหมือนไข้เลือดออก กินยามาจนถึงวันที่13 ไข้เริ่มลด เเต่มันจะชอบมีไข้กลางคืน เเละ มีไข้ตอนบ่าย เป็นๆหายๆ สลับไปเเบบนี้ทั้งวัน บวกกับมีอาการถ่ายเหลว เเละมีต่อมน้ำเหลืองที่คอโตอยู่1ก้อน เเต่ไม่ใหญ่มาก


ผมก็มาค้นหาในกูเกิลบ้าง พันทิปบ้าง ว่าเป็นอะไร ด้วยความที่ยังไม่อยากไปหาหมอ จนมาเจอหลายๆกระทู้เกี่ยวกับHIV ว่าอาการในระยะที่รับเชื้อมาเป็นยังไง เท่านั้นเเหละ ใจผมเเป้วไปเลยทันที เพราะอ่านอันไหนมันก็ตรงกับเรา เเต่ก็ยังพยายามเข้าข้างตัวเองว่า ไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ตอนมีอะไรกับคนนั้นกสอดใส่เเค่ไม่กี่ครั้งเอง ไม่ได้หลั่งข้างในซะด้วยซ้ำ คงไม่ติดหรอก.
เเต่ผมก็ทนกับอาการจิตตกไม่ไหว ที่ต้องนั่งหาข้อมูลทั้งวันทั้งคือ อ่านอยู่นั่นเเหละ จนไม่เป็นอันทำกิจกรรมอะไร เก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่กินข้าวกับที่บ้าน 


จนวันที่ 14 กุมพาพันธ์ ผมได้เเอบที่บ้านไปตรวจเลือด (ผมอยู่กับเเม่ เเละพี่สาวคนโตที่ยังไม่ได้เเต่งงาน1คน) ในวันนั้นผมว่างพอดี พอเเม่กับพี่สาวไปทำงานผมก็ขับรถออกไปที่คลินิกใกล้ๆบ้าน ที่เป็นคลินิกเเล็ปตรวจHIVผมได้โทรนัดคนที่ตรวจไว้เเล้วตั้งเเต่คืนวันที่13 เพราะคลินิกนี้ เปิดช่วงเช้าเเค่ 6โมงเช้า ถึง 8 โมง เเละเปิดอีกครั้งตอนเย็น


ผมต้องไปช่วงเช้า เพื่อที่จะไม่ให้ที่บ้านรู้ เพราะถ้าไปตอนเย็น ทั้งเเม่เเละพี่สาวคงจะกลับมาจากทำงานเเล้วผมก็ไปถึงที่คลินิกตั้งเเต่ตี5กว่า ไปถึงก่อนคนตรวจเลือดซะอีก เพราะกังวลใจมาก อยากตรวจเร็วๆบุคลากรทั้งคลินิกมีเเค่คนเดียว เค้ามาถึงก็เจาะเลือด เเละบอกให้ผมรอประมาณครึ่งชั่วโมงผมก็นั่งรอเเบบกระวนกระวาย จนผ่านไปครึ่งชั่วโมง เค้าก็เดินออกมา พร้อมกับใบผล เเละเรียกให้ผมที่เคาน์เตอร์ (ตอนนั้นยังไม่มีลูกค้าท่านอื่น) 


เค้าก็บอกผมว่า "ผลออกมาเป็นลบนะ ยินดีด้วย" เเต่ "ที่คลินิกผมใช้เป็นน้ำยาGen3 ซึ่งของคุณไปเสี่ยงมาไม่กี่วัน อาจจะยังอยู่ในช่วงที่เป็นWindow Period คือช่วงนี้อาจจะยังตรวจหาไม่เจอ คุณจะลองให้ผมส่งตรวจGEN4มั้ย เพราะน้ำยาตัวนี้จะมีความไวในการตรวจเจอเยอะกว่า เเต่ผมต้องส่งเลือดคุณเข้าเเล็ปกทม"
ผมก็เลยบอกว่า อ๋อครับ งั้นเดี๋ยววันที่16ผมจะมาใหม่


จนถึงวันที่16 ผมก็ไปที่คลินิกอีก เวลาเดิม เค้าเจาะเลือดผมอีกครั้ง เเละบอกว่า จะมีเเล็ปจากกทม. มารับเลือดตอน9โมง เเละจะรายงานผลให้ทราบตอน3ทุ่ม ผมก็ห๊ะ ทำไมนานจัง (คิดในใจ) เเล้วก็จ่ายเงินเพิ่มอีก800 เเล้วก็กลับบ้าน พร้อมกับใจที่ยังห่อเหี่ยวอยู่เหมือนเดิม


ผมเฝ้ามองนาฬิกาตลอด จนถึง3ทุ่ม เค้าก็ยังไม่โทรมา จนผมโทรถาม เค้าบอกว่า ผลยังไม่ออก ให้รอ
ผมรอจนหลับไป จนเช้า เค้าก็โทรมาบอกว่า....


"ผลการตรวจด้วยGEN4ของคุณออกมาเป็น Reactive ทางเเล็ปจึงได้ตรวจด้วยวิธีอื่นอีก2ครั้งเพื่อยืนยันผล เเต่อีก2ครั้ง ผลออกมาเป็น Non Reactive นั่นหมายความว่า ผลยังไม่เเน่นอน ทางเราจะทำการตรวจด้วยเทคโนโลยีที่ไวขึ้นไปขึ้นไปอีก เเละจะเเจ้งผลอีกภายใจ3วันค่ะ"


โอ้โห ตอนนั้นใจผมนี่เเบบว่า ร้อนรนมาก ในความไม่เเน่ชัด ตกลงมันบวกหรือลบกันเเน่ ผมออกมาเเน่มั้ย ใครจะรอได้ถึง3วัน
ตอนนั้นผมอยู่ในห้อง เเทบจะเป็นบ้า ประมาณว่าเสียสติไปเลย ร้องไห้ เอาหัวทุบกับโต๊ะหลายครั้งมาก เพราะไม่รู้จะทำยังไง 
กระวนกระวายอยู่เเบบนั้นจนถึงบ่าย2โมง เลยตัดสินใจไลน์ไปบอกเเม่ว่า มีเรื่องจะบอก ผมเริ่มต้นด้วยการถามเเม่ว่า"ถ้าบอกอะไรเเม่ไป อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวผม เเม่จะยังรักผมอยู่มั้ย" (ตอนนั้นเเม่ผมยังอยู่ที่บริษัท)


เเม่ก็ตอบกลับมาว่า "รักสิ ยังไงก็คือลูก " (ขอบอกก่อนนะครับว่า ผมไม่เคยบอกเเม่ว่าผมเป็นเกย์ เเม่อาจจะรู้เเหละ เเต่ไม่พูด เเละผมก็คิดว่า เเม่คงจะคิดว่าผมจะสารภาพเรื่องที่ผมเป็นเกย์ เเต่เปล่าเลย) T_T


ผมก็บอกว่า ตอนนี้เครียดมาก เก็บคนเดียวมาหลายวันเเล้ว อยากเล่าให้เเม่ฟัง ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว เเต่ขออย่างเดียวคือ เเม่อย่ารังเกียจ 


เเม่ก็บอกว่า ไม่หรอก บอกเเม่มาเถอะ เเม่รักลูก มีอะไร บอกมาผมก็เงียบไปนาน จนเเม่โทรมา เเต่ผมไม่รับ เพราะตอนนั้นร้องไห้อยู่ ผมก็ตัดสายเเละส่งไลน์เเทนว่า ผมขอขับรถไปหาเเม่ที่หน้าบริษัทได้ไหม


เเม่บอกว่าได้ มาเลย มาหาเเม่ บอกเเม่ว่าเป็นอะไรผมก็ขับรถออกไปตอนนั้นเลย ไปถึงหน้าบริษัทเเม่ จอดรถอยู่หน้าบริษัทเเม่อยู่ส่งไลน์หาเเม่ว่าผมเคยไปเสี่ยงมา เเละคิดว่าตัวเอง อาจจะมีโอกาสติดเชื่อ เอชไอวีผมอยากให้เเม่พาไปตรวจที่โรงพยาบาลได้มั้ย ให้เเน่ชัดเเม่ผมก็เดินออกมาหาทีรถ (ตอนนั้นเเม่เลิกงานพอดี)เเม่ก็เข้ามาในรถ เเละมาปลอบ เเละบอกว่า ทำไมไม่บอกเเม่ตั้งเเต่เเรก เเม่รักลูก เเละเเม่รับได้เสมอ ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวเย็นนี้เเม่พาไปโรงพยาบาล


ประมาณ6โมงเย็น ผมกับเเม่ก็ไปที่รพ. เอกชนเเห่งหนึ่งทำการขอเจาะเลือด (โดนเรียกเจาะไป2ครั้ง) ทั้งหาHIV เเละโรคอื่นๆ เเละทำการเอ็กซ์เรย์ปอดด้วยเเล้วก็นั่งรอผล นานมากๆ จนถึง5ทุ่ม มีพยาบาลมาเรียกผมเเละเเม่เข้าห้องที่ปิดมิดชิด ตอนนั้นผมลุ้นมากๆ เเต่ก็คลายกังวลไปได้เรื่องนึงคือ ผมบอกเเม่เเละเเม่รับรู้เเล้วหมอบอกว่า ปอดปกติดีนะคะ เเต่เลือดไม่ดีค่ะ รอผลนานหน่อย เพราะหมอต้องปั่นเลือดเเละใช้การตรวจหลายวิธี เพื่อยืนยันผลค่ะ สรุปนะคะ ผลเป็นบวกค่ะ 


ตอนนั้นผมก็เเบบ หูอื้อไปเลย เเต่เเม่บอกว่า ไม่เป็นไร หมอก็รีบพูดขึ้นมาว่า เเต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เดี๋ยวนี้มียาที่ดีค่ะ เราสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ มีชีวิตที่ดีได้ เเค่ปฎิบัติตามคำเเนะนำของเเพทย์ รักษาสุขภาพดีๆ เเค่นี้ก็มีอายุยืนยาวได้ค่ะ
เเม่ก็เสริมหมอมาเป็นพักๆว่า ใช่ๆ ดูอย่างเเม่สิ เเม่ก็กินยาความดันทุกวัน เป็น10เม็ด เเต่ละคนมีโรคไม่เหมือนกัน ไม่ต้องคิดมาก
เท่านั้นเเหละ ผมก็ยิ้มได้ เเละโล่งใจ เพราะกำลังใจเริ่มมา


เเละก็กลับบ้าน เกือบเที่ยงคืน ไปเเวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางกับเเม่ก่อนเข้าบ้าน เเม่ก็พูดตลอดว่า ต้องมีกำลังใจนะ อย่าคิดมาก เดี๋ยวเเม่จะพามาตรวจCD4อีกที เเละถ้าหมอให้รับยาต้าน ก็ต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด หมั่นออกกำลังกายเเล้วที่นี้รู้หรือยังว่า เเม่รักลูกขนาดไหน มีอะไรอย่าเก็บไว้คนเดียวเหมือนที่ผ่านมา เเม่รักลูกทุกคนเท่ากัน


วันรุ่งขึ้น ผมกับครอบครัวก็พากันไปทำบุญ พยายามหากิจกรรมทำ เเต่ผมก็พยายามป้องกันตัวเองก่อนที่จะเข้าตรวจ CD4 คือเวลาไปในที่คนเยอะๆต้องใช้ผ้าปิดปาก เพื่อป้องกันตัวเอง เพราะถ้าเรารับเชื้อเเล้ว ร่างกายเราจะอ่อนเเอ

      ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ของผมครับที่เกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันนี้ การเล่าเรื่อง หรือการพิมพ์ของของอาจจะไม่สวยงาม เเต่ผมหวังว่า มันคงจะเป็นข้อคิดให้ทุกคนได้ครับ ในการใช้ชีวิต อย่าไว้ใจใครทั้งนั้น ถ้าจะมีเพศสัมพันธุ์ก็อย่าลืมทีจะป้องกันนะครับ เพราะมันหมายถึงชีวิตของคุณทั้งชีวิต


อย่าเอาความสุขเเค่ไม่กี่วินาทีมาทำลาย ความสุขทั้งชีวิตของคุณเเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเมื่อ ถ้ามันเกิดขึ้นมาเเล้ว ก็จงใช้สติครับ ลืมเรื่องราวในอดีต เรากลับไปเเก้ไขอะไรไม่ได้เเล้ว มีอย่างเดียวที่ทำได้คือ หากำลังใจครับ อย่าเก็บไว้คนเดียว อย่าเครียดไปคนเดียว พยายามหากิจกรรมทำ หมั่นดูเเลสุขภาพ ปฎิบัติตามคำเเนะนำของเเพทย์อย่างเคร่งครัด


เเค่นี้คุณก็มีชิวิตที่ยืนยาวได้ครับ เหมือนคนปกติทั่วไป  ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ ที่ติดเชื้อเอชไอวีเหมือนกัน หรือจะโรคอื่นๆ ขอให้มีกำลังใจที่ดี.

โพสท์โดย: HaRuTo
แหล่งที่มา: สมาชิกเวบไซต์พันทิป สมาชิกหมายเลข 1460532
https://pantip.com/topic/37388838
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
warrior B's profile


โพสท์โดย: warrior B
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (4/5 จาก 10 คน)
VOTED: boyfriends1150, kit, กอกระดุม, Thorsten, ซาอิ, ยูยู่ของคุณโบ, โอ๊ย, taewsa
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักมวยเตะก้นสาวชูป้าย เลยโดนคนดูรุมกระทืบสรุปดราม่า "กุสุมา สันป่าเหียง"อวัยวะร่างกายกลัวอะไรแร๊พเปอร์ชื่อดัง "คริส คิง" ถูกโจรยิงตายในตรอกชาวบ้านพบสัตว์ลึกลับสีดำในกรุงโตเกียว7 สิ่งที่ควรทำเมื่ออายุ 40
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เมื่อหนุ่มทำพัดลมไอเย็นเอง..ว่าแต่มันคลายร้อนได้จริงหรือ ?เอาอีกแล้ว! เขมรก็อปปี้หนังไทย เรื่องเด็กหญิงวัลลี ยอดกตัญญู?รู้ยังค่าเทอม "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ค่าธรรมเนียมการศึกษา ปี 2567สรุปดราม่า "กุสุมา สันป่าเหียง"รีวิวหนังสือ Don Quixote ดอน กีโฆเต อัศวินแห่งลามันชา
Liu Yifei @ Harper's BAZAAR China April 2024นางเอกของ มาร์ช จุฑาวุฒิ ภัทรกำพลพี่ นิว มาโชว์ 004.นักกล้ามจากไต้หวัน.
ตั้งกระทู้ใหม่