พวกคอมมิวนิสต์คือพวกไม่เอาเจ้า
มีภาพที่น่าสนใจที่พลพรรคคอมมิวนิสต์บางกลุ่มมาออกร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี แถมยังบอกว่าร้องมาแต่ในป่านานนับสิบปีแล้ว แต่แท้จริงพวกคอมมิวนิสต์ไม่เอาเจ้ามาแต่ต้น!
ผมก็ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ไม่เคยเข้าป่า ไม่มีชื่อเป็น “สหาย” แต่ในยุคสมัยของผม คือช่วงเรียนธรรมศาสตร์ปี 2519-2522 เป็นยุคที่แนวคิดฝ่ายซ้ายมาแรง นักศึกษาส่วนมากในสมัยนั้น ไม่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการทรราช ผมจึงได้ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ไปด้วย แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ก็ไม่ถึงขนาดไปร่วมต่อสู้กับอำนาจรัฐในขณะนั้นที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก
แต่หากวิเคราะห์ตามประจักษ์หลักฐานในอดีต จะพบว่าพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เป็นพรรคที่ไม่ยอมรับในสถาบันพระมหากษัตริย์ ประจักษ์หลักฐานสำคัญของการไม่เอาเจ้า ไม่ถือสถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกคอมมิวนิสต์ในช่วงที่ต่อสู้กับรัฐบาลตั้งแต่ปี 2508-2526 โดยประมาณนั้นสามารถดูได้จากบรรดาเพลงของพรรคฯ ที่แต่งโดยคนของพรรคฯ ที่มีรวมกันประมาณ 200 เพลง แต่มีเพลงที่ต่อต้าน “ศักดินา” อยู่หลายเพลง ซึ่งล้วนเป็นเพลงดังๆ ในยุคนั้น เช่น:
เพลง “จากบ้าน” (ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .ขุนศึกร่วมกับศักดินาล้อมปราบลูกไทย นำเอาชาติไทยไปขายให้จักรพรรดินิยม มันร่วมกันกดขี่ปวงประชาซีดซม ปล้นสะดมไทยทั้งชาติปล้นประชาชน เมฆมืดดำที่คลุมฟ้า. . .”
เพลง “ดินแดนของเรา” (ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .ชีวิตชาวประชากลับสูญสิ้น เพราะพวกศักดินานิยม คอยริดคุมคร่า ปล้นสะดม มันรื่นรมย์บนสายเลือดและน้ำตา. . .”
เพลง “เดินทางไกลใต้ตะวันสีแดง” (คำร้อง สุรชัย จันทิมาธร) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .ปืนศึกคำราม นั่นคือ สงครามประชา มวลชนเรือนล้าน ปักใจประหาร ขุนศึกศักดินา ด้วยเพลิงความแค้น ที่ยังอัดแน่น ฝังในอุรา. . .”
เพลง “ตายสิบเกิดแสน” (คาราวาน) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .ผู้ใดกอบ ผู้ใดโกย ต้องถูกโบย เพราะมันผิด เรามีงาน เรามีกิน และแผ่นดิน ไม่มีเจ้า เรามีเหตุ เรามีผล เราต่างคน ต่างเทียมเท่า. . .”
เพลง “ถั่งโถมโหมแรงไฟ” (คำร้อง สุรชัย จันทิมาธร, ทองกราน ทานา) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .ความลำบากนั่นคือมิตร ล้างอุปสรรค โค่นจักรพรรดิฟาสซิสต์ และศักดินา มันก่อกรรมทำร้าย เราเรื่อยมาชาติประชาเป็นดังผู้ พลีกรรม. . .”
เพลง “นกน้อย” (ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .โอ้เจ้านกน้อยเอ๋ย โผผินบินโต้ลม ช่วยกันทลายสังคม-ทุนนิยมและศักดินา ปฏิวัติที่ดินชาวนา สร้างประชาธิปไตย ตามพรรคคอมมิวนิสต์ไป สร้างไทยใหม่ให้วัฒนา. . .
”
เพลง “รำวง 1 ธันวา” (ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .ศักดินาขุนศึก แสนศึกเปรมปรีดิ์ เรามายอมพร้อมพลีชีวาตม์ ด้วยพลัง ประชาชน ผู้ทุกข์ทนไม่สะท้าน ลุกขึ้นตีต่อต้าน มาสมานเลือดไทย ไทต้องเป็นของไทย ไปเราไปตีมัน. . .”
เพลง “ลุงโง่ย้ายภูเขา” (ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .ลุงโง่ แกอยู่พงไพร แกคิดจะย้าย ภูเขาใหญ่ที่ขวางอยู่(ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .ลุงโง่ เปรียบดังพรรคเรา คิดจะโค่นภูเขา ที่ขวางทางก้าวหน้า ลูกหนึ่ง จักรพรรดิอเมริกา (ซ้ำ) ลูกสองศักดินา สามนายทุนขุนนาง. . .”
เพลง “สามประสาน” (ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .ร่วมจิต ร่วมใจ ร่วมกาย มุ่งหมาย โค่นล้ม ทุนนิยม ศักดินา จักรวรรดินิยม เพื่อสร้างสังคม ไร้กดขี่บีฑา ไชโย ชัยชนะของประชาชน. . .”
เพลง “เสียงปืนเสียงแคน” (ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง) มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “. . .เสียงปืนเปลี่ยนชีวิตเรา จากความเศร้าไปสู่รื่นรมย์ เสียงปืนเสียงแคนดังทั่วหล้า มุ่งโค่นจักรพรรดินิยมศักดินา นายทุนขุนนาง ปลดแอกชาวไทยไพศาล พ้นทรมานนับพันหมื่นปี. . .”
ดังนั้นพลพรรคคอมมิวนิสต์ที่ยอมรับในสถาบัน จึงเป็นพลพรรคที่กลายพันธุ์ ที่ได้รับผลประโยชน์ต่างตอบแทนในภายหลัง อย่างไรก็ตามก็น่ายินดีประการหนึ่งที่เกิดการหยุดการตัดสินความขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธ ซึ่งทำให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมากแก่ทั้งสองฝ่าย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธจะไม่เกิดขึ้นอีก หากประชาชนไม่ถูกกดขี่จนหมดทางออก
ที่มา: https://goo.gl/mS7KW5