ไม่ใช่หมอก! กรุงเทพฯ ฝุ่นควันสะสมเกินมาตรฐาน เตือนเลี่ยงการออกจากบ้าน
ในช่วงดึกของวันที่ 23 ม.ค. จนถึงเช้าวันที่ 24 ม.คที่ผ่าน มาเกิดสภาพอากาศขมุกขมัวคล้าย หมอกเกิดขึ้นทั่วกรุงเทพและปริมณฑล แต่เฟซบุ๊กความรู้สนุกๆแบบหมอแมวได้โพสท์ว่า ไม่ใช่หมอกแต่เป็นฝุ่นอนุภาคขนาดจิ๋วที่อันตรายต่อร่างกาย โดยได้โพสท์ระบุว่า
“ตกลงที่อากาศ2-3 วันนี้ขมุกขมัวมันไม่ใช่หมอก แต่มันคือ PM2.5 สินะ PM 2.5 คือฝุ่นอนุภาคขนาดจิ๋ว ที่สามารถผ่านขนจมูก ขี้มูก โพรงจมูก คอ หลอดลมใหญ่ ขนพัดโบก เสมหะ หลอดลมเล็ก หลอดลมย่อย ไปตกที่ถุงลมได้โดยตรง ดังนั้นมันสามารถพาอะไรก็ตามที่อยู่ในตัวมัน เช่นหากเป็นฝุ่นที่มีสารเคมี ก็เอาสารเคมีไป ตกในปอดได้”
ขณะเดียวกันเพจ Drama addict ก็โพสท์ข้อความไปในทางทิศเดียวกัน ระบุด้วยว่า "คือที่เห็นเป็นหมอกลงเช้านี้ที่ กทม นั่นไม่ใช่หมอกนะครับ แต่เป็นฝุ่นควันอนุภาคขนาดเล็กจิ๋ว ซึ่งมักเกิดจากไฟป่าหรือมลภาวะจากโรงงานอุตสาหกรรมไรเทือกนั้น หากมีในระดับสูงแล้วสูดเข้าไปจะเป็นผลเสียกับสุขภาพได้ ซึ่งของไทยตอนนี้ แดงเถือกเลย แต่ถ้าดูจากแอปพวกเช็คมลภาวะอากาศ จะยังเขียวปี๋เหมือนอากาศดีอยู่ เพราะเขาใช้ค่า pm 10 ซึ่งเป็นอนุภาคที่ใหญ่กว่าเป็นค่าชี้วัด ส่วนของเว็บ ตปท เขาใช้ค่า pm 2.5 น่ะ"
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ สอบผ่านเว็บไซต์ดัชนีชี้วัดคุณภาพ พบว่า อากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครเกือบทุกแห่ง โดยเฉพาะจุดวัดที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ คุณภาพอากาศอยูาในเกณฑ์ "เป็นอันตรายต่อสุขภาพ"
ในเว็บไซต์ดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศ ระบุว่า สภาพอากาศที่เหมาะสมแก่การหายใจและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพคืออยู่ในช่วงค่า 0-50 ส่วนระดับ 51-100 ยังอยู่ในช่วงกลางๆ เช่นเดียวกับช่วงค่า 101-150 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคนบางกลุ่ม เช่น เด็กและผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืดควรงดออกกำลังกายแจ้งเป็นเวลานาน ขณะที่ค่า 151-200 ซึ่งหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ กำลังเผชิญอยู่นั้นคือ ควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน
เพจ ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว ยังได้โพสท์อีกว่า
คำถามที่เกิดตามมาหลังจากที่มีข้อมูลข่าวเรื่องฝุ่นควันในอากาศมากกว่าปกติในช่วงนี้คือ แล้วจะทำยังไงต่อดี
- คำแนะนำหลักๆคือ ในคนที่มีโรคประจำตัวเรื่องทางเดินหายใจ ควรระวังการอยู่กลางแจ้งนานๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยู่ในตัวอาคารหรือพื้นที่ที่ไม่มีควันเข้ามามมากๆ
แต่คนที่ต้องทำงานกลางแจ้งนานๆ เราจะป้องกันตัวยังไงดี
ก็ใช้หน้ากากครับ
หน้ากากที่จะใช้ ไม่ใช่หน้ากากผ้าธรรมดาแบบอันขวานะครับ แต่ต้องเป็นแบบอันซ้าย และควรจะมีความสามารถในการกรองฝุ่นขนาดเล็ก ซึ่งที่หาซื้อได้ทั่วไป จะเป็นหน้ากาก N95
หน้ากาก N95 ป้องกันฝุ่นขนาด 0.1-0.3 ไมครอนได้ 95%
ซึ่งเจ้าฝุ่นที่เรากลัว คือฝุ่นที่เล็กกว่า 2.5 ไมครอน การใช้หน้ากาก N95 ก็จะป้องกันได้ระดับนึง
ส่วนหน้ากากผ้า หรือหน้ากากห้องผ่าตัดทั่วไป ป้องกันไม่ได้
ทีนี้หน้ากากนี้เวลาใส่มันจะต้องใส่ให้ถูกวิธี ไม่งั้นก็ไม่ได้ประสิทธิภาพ ก็ต้องหัดใส่ให้ถูกต้อง
ใส่แล้วมันจะแน่นอึดอัด และใช้กำลังในการหายใจเยอะ ดังนั้นหากมีโรคปอดที่เจอฝุ่นก็ไม่ได้ ใส่หน้ากากก็ไม่ไหว ก็ควรอยู่แต่ในบ้านก่อน
อ้างอิง http://www.one31.net/news/detail/609
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.youtube.com/watch?v=x1m_HcCX5oM
เพจ ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว
https://www.facebook.com/HmxMaew/photos/a.398936216867904.96187.398912630203596/1624611790967001/?type=3&theater
http://aqicn.org/city/thailand/bangkok/chulalongkorn-hospital/