เสียวท้ายเกม หงส์แดงเฉือนเอาชนะเรือใบ 4-3
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบสุดมัน 4-3 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตาราง ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ...การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2017-18 ประจำวันอาทิตย์ที่ 14 ม.ค. คู่ที่น่าสนใจ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล อันดับ 4 ของตารางเปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงของตารางเปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 3 ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ โจเอล มาติป เปิดบอลขึ้นหน้าให้ โรแบร์โต เฟอร์มิโน ดีดต่อให้ให้ ซาดิโอ มาเน ได้โอกาสจะหลุดเดี่ยวแต่จับบอลลั่น บอลมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงก็ไปติดบล็อกจากนั้น นาทีที่ 9 ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โรแบร์โต เฟอร์มิโน ตัดบอลได้ ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน พาบอลโซโล่เดี่ยวขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวา บอลพุ่งผ่าน เอแดร์สัน เข้าไปตุงตาข่ายนาทีที่ 14 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้หลุดไปยิงในเขตโทษ แต่โดนกองหลังเข้ามาบีบ เลยยิงหลุดกรอบออกไป และถัดมา 6 นาที แมนฯซิตี้ น่าตีเสมอได้ เมื่อ เควิน เดอ บรุน เปิดบอลจากฝั่งขวามาหน้าประตู เซร์คิโอ อเกวโร พุ่งมาชาร์จ แต่ไม่ถึงนาทีที่ 23 เป็นโอกาสของทีมเยือนบ้าง เมื่อ เลรอย ซาเน ได้พลิกบอลตรงหน้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้าย บอลแฉลบ เดยัน ลอฟเรน หลุดเสาแรกออกไปนิดเดียวถึงนาทีที่ 40 แมนฯซิตี้ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 เมื่อ ไคล์ วอลเกอร์ วางบอลมาฝั่งซ้ายอย่างแม่นยำให้ เลรอย ซาเน พาบอลเข้าเขตโทษก่อนแตะหนี โจเอล มาติป แล้วยิงด้วยซ้ายเต็มข้อยัดเสาแรกเข้าไปตุงตาข่ายจบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1-1กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 50 แมนฯซิตี้ เกือบขึ้นนำ จากจังหวะลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายเปิดเข้ามา และเป็น นิโคลัส โอตาเมนดี ได้โขกเน้นๆ บอลชนคานออกหลังไปจากนั้น นาทีที่ 55 หงส์แดงได้ลุ้น 2 จังหวะติดๆ เริ่มจากจังหวะที่ เอแดร์สัน ปัดบอลออกมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงสวนทันที แต่ เอแดร์สัน ยังปัดออกมาได้ และจังหวะต่อมา อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลดด แชมเบอร์เลน ได้ยิงไปที่เสาแรก แต่ เอแดร์สัน ยังเซฟได้อีกถึงนาทีที่ 59 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน พาบอลขึ้นมา ก่อนจ่ายทะลุช่องให้ โรแบร์โต เฟอร์มิโน เบียดชนะ จอห์น สโตนส์ แล้วกระดกบอลเสียบเสาไกลเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้ และนาทีที่ นาทีที่ 60 เจ้าถิ่นเกือบบวกสกอร์เพิ่ม เมื่อ ซาดิโอ มาเน ได้กดด้วยซ้ายจากนอกกรอบ บอลพุ่งชนเสาออกไปดังสนั่นนาทีที่ 62 ลิเวอร์พูล หนีเป็น 3-1 นิโคลัส โอตาเมนดี จ่ายบอลไปติด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนที่ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ จะจ่ายต่อให้ ซาดิโอ มาเน ตั้งป้อมยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงามแค่นั้นยังไม่พอ นาทีที่ 67 ลิเวอร์พูล นำห่าง 4-1 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลทะลุขึ้นมาบอลเลยมาถึง เอแดร์สัน เตะสกัดออกมาไม่ดี มาเข้าทาง ซาลาห์ ยิงสวนตูมเดียวเข้าประตูไปเลยจากนั้น นาทีที่ 83 แมนฯซิตี้ ไล่มาเป็น 2-4 จากจังหวะที่ แบร์นาโด ซิลวา กดด้วยซ้ายในเขตโทษเข้าไปเข้าสู่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1 แมนฯซิตี้ ไล่มาเป็น 3-4 จากจังหวะที่ เซร์คิโอ อเกวโร ได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนตักเข้ากลางให้ อิลคาย กุนโดกัน พักอกแล้วยิงเข้าไปและในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+4 แฟนหงส์แดงเกือบช็อก เมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร ได้พุ่งโหม่งโล่งๆ บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวจบเกม ลิเวอร์พูล ทำได้ เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 4-3 เก็บเพิ่มเป็น 47 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตาราง โดยมีแต้มเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง แต่ประตูได้เสียเป็นรอง ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำจ่าฝูงต่อไป แต่แพ้เป็นนัดแรกของฤดูกาล
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล:โลริส คาริอุส,โจโกเมซ,เดยัน ลอฟเรน,โจเอล มาติป,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,เอ็มเร ชาน,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม,อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน,โมฮาเหม้ด ซาลาห์,ซาดิโอ มาเน,โรแบร์โต เฟอร์มิโน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้:เอแดร์สัน,ไคล์ วอลเกอร์,จอห์น สโตนส์,นิโคลัส โอตาเมนดี,ฟาเบียน เดลฟ์,เควิน เดอ บรุน,อิลคาย กุนโดกัน,แฟร์นันดินโญ,เลรอย ซาเน,ราฮีม สเตอร์ลิง,เซร์คิโอ อเกวโร
แหล่งข้อมูล Facebook : ลิงชิงบอล
อ่านข่าวฟุตบอลได้ที่ https://www.facebook.com/lingchingballpage/