เมื่อนักข่าวอาชญากรรมเป็นอาชญากรเสียเอง
ชิคาโก ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 คือสถานที่ซึ่งอุดมไปด้วยมาเฟีย แก๊งสเตอร์มากมาย โดยเป็นที่ตั้งของขุมกำลังมาเฟียผู้เป็นตำนานอย่าง “อัล คาโปน” ในยุคนั้นสหรัฐอเมริกาผ่านกฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ นั่นทำให้ธุรกจิสุราทุกประเภทกลายเป็นของผิดกฎหมาย จนกลายเป็นรายได้มหาศาลให้กับเหล่ามาเฟียในการทำธุรกิจประเภทนี้ จนร่ำรวยเงินทองกันอย่างเพลิดเพลินและทรงอิทธิพลเป็นอย่างยิ่ง
ชิคาโก เป็นสีสันของมาเฟีย การเข่นฆ่า อาชญากรรมต่าง ๆ นานามีจำนวนมาก เรื่องราวเหล่านี้คล้ายเลือดที่โชยดึงดูดฉลามให้เข้ามารุมล้อม การฆาตกรรม ยิง ปล้น กลิ่นคาวเลือดหลังควันปืน กลายเป็นเรื่องราวชั้นดี ของธุรกิจหนังสือพิมพ์ในชิคาโก ที่จะสาดเรื่องราวโดยอิงฐานข้อเท็จจริงเพียงเล็กน้อย แล้วเคล้าด้วยเรื่องเสิรมแต่งมากสีสัน เพื่อทำให้ธุรกิจของสื่อพุ่งกระฉูดฉีกหนีคู่แข็ง
Alfred Jake Lingle Jr. คือนักข่าวอาชญากรรมสายตำรวจแห่งหนังสือพิมพ์ชิคาโก ทรีบูน (ปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจอยุ่) Lingle เป็นนักข่าวอาชญากรรมผู้ยิ่งใหญ่ เริ่มทำงานเป็นนักข่าวตั้งแต่อายุ 21 ปี ส่งข่าวทางโทรศัพท์ให้กับรีไรท์เตอร์ในสำนักพิมพ์ดีดแป้นพิมพ์ดีดลงเป็นข่าว
นี่คือยอดนักข่าวที่ไม่เคยต้องเอาสมุดจดข่าวออกมายามคุยกับแหล่งข่าว เพราะเขามากบารมียิ่งนัก มีแหล่งข่าวเป็นถึงผู้บัญชาการตำรวจในชิคาโก ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็ก และเหล่าวัยรุ่นริมถนนที่มักจะให้เรื่องราวเด็ด ๆ ไปตีพิมพ์ข่าวเสมอ
Lingle มีรายได้อาทิตย์ละ 65 เหรียญ แต่ใน 1 ปีเขากลับมีรายได้ถึง 60,000 เหรียญ เพราะธุรกิจที่เขายุ่มย่ามไปทั่ว จนบอกกันว่าที่เขาทำงานหนังสือพิมพ์อยู่นั้น ไม่ใช่เพราะว่าทางหนังสือพิมพ์จ่ายเงินให้เขาคุ้มค่า แต่เพราะเขารักในการทำอาชีพนี้
เป็นนักข่าวต้นแบบของสื่อมวลชนในชิคาโกล้วนอยากเป็น ร่ำรวยแต่งกายดี เขาบอกว่าได้รับมรดกจากพ่อเป็นจำนวนเงินมหาศาล ทุกคนต่างเชื่อและยอมรับในฝีมือของนักข่าวสายตำรวจคนนี้
จนกระทั่ง 9 มิถุนายน 1930 18 ปีหลังจากที่เป็นนักข่าวสายอาชญากรรม Lingle ก็ถูกคนร้ายใช้ปืนพกสั้น .38 ยิงเข้าที่หลังศีรษะเสียชีวิตขณะกำลังจะเดินไปถึงสถานีรถไฟเพื่อต่อรถไปพนันม้าแข่ง
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการนักข่าวอย่างยิ่ง สื่อในชิคาโกต่างเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “การลอบฆ่า” ถือเป็นความรุนแรงของพวกมาเฟียที่ต้องการปิดปากสื่อข่มขู่ฐานันดรที่ 4 ตำรวจชิคาโกระดมกำลังหลายร้อยนายเพื่อตามล่าคนร้าย (ซึ่งถูกระบุว่า ตัวผอม ผมบลอนด์ และมีนัยน์ตาสีฟ้า) ชิคาโกทริบูนประกาศมอบเงินจำนวน 20,000 เหรียญให้กับเบาะแสคดีนี้ ขณะที่สื่ออื่น ๆ รวมลงขัน ตัวเลขเพิ่มไปถึง 30,000 เหรียญ
มกราคม 1931 ตำรวจจับคนร้ายได้ชื่อ Leo V. Brother จากเมืองเซนต์หลุยส์ พยานหลายรายยืนยันว่าเขาอยู่ในจุดเกิดเหตุ แต่เจ้าตัวปฏิเสธ อย่างไรก็ดีศาลลงโทษจำคุกชายคนนี้ 14 ปี ติดจริงอยู่ 8 ปี มีความเป็นไปได้ว่า Leo อาจไม่ได้ฆ่า Lingle จึงได้รับโทษจำคุกน้อยในเวลาต่อมา
เรื่องราวทำท่าว่าจะจบไป แต่แล้วนักข่าวจากหนังสือพิมพ์เซนต์หลุยส์ สตาร์เริ่มสงสัย ด้วยข้อสมมุตฐานทีว่า ในยุคที่ชิคาโกเป็นเมืองของมาเฟีย ทุกคนในเมืองทั้งตำรวจ อัยการ ศาลและนักข่าว ใครกันจะมือสะอาดได้หมด โดยเฉพาะนักข่าวอาชญากรรมผู้มีเรื่องราวข่าวมานำเสนอได้อย่างตื่นตาตื่นใจ ดังนั้นภายหลังการเสียชีวิตได้ไม่นาน นักข่าวจึงเริ่มตามรอยเงินในบัญชีของLingle กับผู้บัญชาการตำรวจในเมืองชิคาโก เขาพบว่าเงินมีจำนวนมากมหาศาล มีการถอนเข้าออกตลอดเวลา ความสงสัยนำไปสู่การสืบสวนแกะรอย เมื่อตามรอยเงินไปเรื่อย ๆ ก็พบความจริง
Lingle มีรายได้เสริมจากการเป็นนักข่าว ด้วยการวิ่งเก็บเงินตำรวจซื้อขายตำแหน่ง โดยหากใครอยากเป็นจ่า ต้องจ่ายหัวละ 1,500 เหรียญ หากอยากเป็นผู้กอง ก็ 5,000 เหรียญ (ตำรวจอเมริกายศไม่สูงและเยอะเหมือนตำรวจประเทศไทย) นอกจากนี้เขายังเกี่ยวข้องกับการพนัน เรียกเก็บรายได้เบียร์ในยุคที่แอลกอฮอลล์ผิดกฎหมาย ความร่ำรวยทุกอย่างเกิดจากการเข้าไปเกี่ยวข้องในธุรกิจมาเฟีย ภาษาชาวบ้านไทย ๆ เรียกว่า Lingle มีสันดานนิสัย “ตีกิน” ไปทั่ว
แน่นอนคนตีกินระดับตำนานข่าว Lingle ย่อมต้องรู้จักมักคุ้นสนิทสนมกับเจ้าพ่อ อัล คาโปน โดยวันที่เขาถูกยิงได้ติดเข็มขัดเพชรที่เสื้อ ซึ่งเป็นของขวัญจากอัล คาโปนมอบให้
นักข่าวหนุ่มร่ำรวยกับเงินที่หามาได้ ทำให้ผู้เป็นตำนานเล่นการพนันทุกประเภท จนติดพนันอย่างหนัก จากที่ได้ก็เริ่มเสีย ใช้เครดิตเล่นพนันต่อ จนเป็นหนี้ของอัล คาโปน เป็นจำนวนมากมายมหาศาล (ติดหนี้เกือบ 1 แสนเหรียญ เทียบเป็นเงินปัจจุบันจะได้ถึง 1 ล้านเหรียญทีเดียว)
แต่ Lingle อาศัยความเป็นสื่อไปรีดไถมาเฟียคนอื่นๆ เพื่อนำเงินมาจ่ายปลดหนี้ของอัล คาโปน สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าพ่ออัล คาโปน อย่างยิ่ง เมื่อนักข่าวคิดเหิมเกริม เจ้าพ่อระดับนี้ก็ไม่เสียเวลาจะปล่อยให้มีลมหายใจต่อไป จนนำไปสู่การยิงทิ้ง อีกทั้งในยุคนั้นมีความเป็นไปได้ว่า เจ้าของหนังสือพิมพ์ชิคาโก ทริบูน รู้เห็นการกระทำของ Lingle ที่เกี่ยวข้องกับพวกมาเฟียอีกด้วย
อย่างไรก็ดีก็ยังไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าใครกันแน่ที่สั่งฆ่าอดีตนักข่าวอาชญากรรมคนนี้
Lingle กลายเป็นตำนานฉาวโฉ่ของสื่อมวลชนอเมริกา ตอนแรกที่ตายมีการจัดขบวนแห่ศพอย่างเกียรติยศ ทุกคนต่างเรียกเขาว่าตำนาน นักข่าวน้ำดีต่าง ๆ นานา
แต่เมื่อเรื่องฉาวโฉ่ปรากฏ ไม่ว่าจะมีบ้านพักตากอากาศหลายหลัง เงินเก็บจำนวนมหาศาล ความเกี่ยวโยงกับการวิ่งซิ้อขายตำแหน่งตำรวจ และความใกล้ชิดกับเจ้าพ่อ ทำให้หนังสือพิมพ์ชิคาโก ทริบูนต้องตีพิมพ์ข้อความออกมาว่า
“บัดนี้ตัวตนของนายอัลเฟรด ลิงเกิล ได้เผยโฉมใหม่ที่แตกต่างออกไปจากที่ทุกคนในทีมบริหารของทริบูน รู้จักเมื่อครั้งเขายังมีชีวิต… เขาไม่เคยเป็นและไม่อาจจะเรียกว่าเป็นนักข่าวชั้นยอดได้เลย”
ปิดตำนานนักข่าวอาชญากรรมผู้เป็นอาชญากรเสียเอง
และจบท้ายตายอย่างหมาข้างถนน ตายไร้ค่าเหมือนคนที่ตายในสงครามของพวกมาเฟีย
เหลือเพียงความมฉาวโฉ่ให้ประณามไปชั่วกาลนาน
-D-
ป.ล. ข้อมูลจากหนังสือคนข่าวฉลาดทำงานศตวรรษ 21 เดวิด เรนดัลเขียน สุนันทา แย้มทัพแปล หน้า 105-107
http://www.nydailynews.com/news/justice-story/corrupt-chicago-tribune-reporter-meets-bloody-article-1.1367171
http://www.chicagotribune.com/news/nationworld/politics/chi-chicagodays-jakelingle-story-story.html