รองโฆษก ปชป.เตือน!! รัฐบาลควรแสดงท่ามี"ขึงขัง"ในการติดตามตัวผู้ร้ายข้ามแดนมารับการลงโทษไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยนสืบต่อยังลูกหลาน
รัฐบาลควรแสดงท่ามี"ขึงขัง"ในการติดตามตัวผู้ร้ายข้ามแดนมารับการลงโทษไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยนสืบต่อยังลูกหลาน
ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน www.mallikafoundation.com ขออนุญาตกล่าวว่า สำหรับข้อหาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ในสถานะผู้ร้ายข้ามแดนหรือนักโทษหนีคดี เป็นความอาญาแผ่นดินที่มาจากการทำผิดคดีทุจริตซึ่งเป็นคดีสากลของโลกนานาอารยะประเทศก็มีบรรทัดฐานสำหรับคนที่เกี่ยวข้องการทุจริตล้วนถูกดำเนินคดีเหมือนกัน
กระบวนการยุติธรรมสูงสุดระบุชัดเจนว่า อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ(กฎหมายอาญา) และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัคิหน้าที่ ความผิดทั้งหมดจะต้องถูกจำคุก 5 ปีและทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้นยังมีคดีความแพ่งจะต้องชำระค่าเสียหาย 36,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังโดยรัฐบาลจะต้องเป็นเจ้าภาพในการบังคับคดี
แต่ท่าทีของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกลับไม่ขึงขังตั้งใจจะนำตัวกลับมาดำเนินคดี เกรงประชาชนจะเข้าใจผิดว่ารัฐบาลยอมจำนนต่อพฤติการณ์การปรากฎกายของนักโทษที่ลอนดอนประเทศอังกฤษ หรือไม่มีความพยายามที่จะนำตัวกลับมาดำเนินคดีทั้งที่เป็นรัฐบาลพิเศษที่ปฏิวัติมาด้วยเหตุผลเรื่องทุจริตต่อบ้านเมืองด้วยซ้ำ ทั้งหมดจะเป็นความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมและจริยธรรมของบ้านเมืองสืบต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานในอนาคตเห็นบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยนองสังคม
"จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฏหมายสูงสุดของประเทศแสดงท่าทีที่ชัดเจนอย่างน้อยที่สุดก็เป็นตัวอย่างสำหรับเด็กแห่งชาตินี้ว่ากฎหมายไม่มีการละเว้นผู้กระทำความผิดไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนรวยหรือคนจนหรือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใด"