เตือนภัย “กลุ่มข้ามเพศ” ทั้ง เกย์ สาวประเภทสอง วัยรุ่น ฯลฯ อย่าวางใจคู่นอน พบปัญหาผู้ติดเชื้อ “HIV”
นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอชไอวี จากอดีต จนถึงปัจจุบัน ล่าสุด ทาง UNAIDS ร่วมแสดงความยินดีกับกระทรวงสาธารณสุข กับ การเปิดตัวยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ฉบับใหม่
ยุทธศาสตร์นี้เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญยิ่งที่จะนำพาประเทศไปสู่การยุติปัญหาเอดส์ ภายในปี พ.ศ. 2573 คาดว่ามีผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีลดลง
ทั้งนี้ การระบาดของเอชไอวีในประเทศไทยส่วนใหญ่เกิดจากประชากรหลักที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสูงได้แก่ ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย สาวประเภทสอง ผู้ให้บริการทางเพศ และเยาวชน ฯลฯ
กองบรรณาธิการข่าวเว็บไซต์ Medhubnews.com รายงานว่า คุณอุษา สุขาพันธุ์ “พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งนอกเหนือจะทำงานอุทิศตนเพื่อผู้ป่วยโรคทั่วไปแล้ว
คุณอุษา สุขาพันธุ์ ยังได้ร่วมมือกับ สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ทุ่มเท่ให้ความรู้ คำปรึกษา เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย สาวประเภทสอง ฯลฯ
“ปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของโรค HIV ยังพบอยู่จำนวนมาก ส่วนมากจะไม่ค่อยมารับการตรวจ บางคนรอให้อาการออกแล้วจึงมาตรวจ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะหากมาตรวจแล้วพบตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้รับยาต้านไวรัส ดูแลรักษา จนทำให้มีชัวิตที่ดี เทียบเท่ากับคนปกติ แต่ต้องทานยาให้มีระเบียบวินัย”
ขณะนี้กระแสข่าวเรื่อง กลุ่มผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายไม่นิยมป้องกันโดยสวมถุงยางอนามัยนั้น ถือว่าเป็นปัญหามาก เนื่องจากการ สวมถุงยางอนามัยป้องกัน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้หลายโรค ทั้ง HIV หนองใน ฯลฯ
บางคนชอบสด คิดว่าอีกฝ่ายไว้ใจได้ หรือ บางคนทานยาป้องกัน ที่ยังมีความเข้าใจผิดๆ อยู่ ดังนั้นจึงอยากให้ป้องกัน สวมถุงยางอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์จะดีกว่า”
สำหรับ นวัตกรรมของ ยา PrEP ใช้กินเพื่อป้องกันการติดเชื้อ สามารถกินยาเพร็พได้ก่อนมีภาวะเสี่ยง 7 วัน และป้องกันการติดเชื้อได้เกือบ 100% หรือ ถ้าเกิดภาวะเสี่ยงฉุกเฉินขึ้นมา ก็มียา PEP สำหรับกินทันทีหลังภาวะเสี่ยง 28 วัน
อย่างไรก็ตาม การใช้ยา 2 ตัวนี้ แม้จะถูกสร้างความเชื่อผิดๆ ว่า กินเพร็พแล้วจะทำอะไรก็ได้ “มั่ว” หรือ “สด” หรือ “มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ต้องสวมถุงยางได้
ทั้งที่จริงมันต้องเป็นของที่ใช้คู่กัน เพร็พเอง ก็ไม่ใช่ว่าจะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ทุกโรค
ปัจจุบันเราตระหนักถึงความสำคัญในการตรวจเลือด อย่างน้อยควรตรวจ 6เดือนต่อครั้ง เพื่อหากเกิดอุบัติเหตุติดเชื้อขึ้นมา ก็สามารถรักษาตัวและระวังผู้อื่นได้ ไม่แพร่เชื้อต่อแล้วจะลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้
ทั้งนี้ แม้การใช้ “ยาเพร็พ และ ยาเปป” เป็นเรื่องของการป้องกัน โดยเปรียบเหมือนผู้หญิงกินยาคุม การใช้ยาเพร็พ ในเกย์ ก็คือการป้องกัน ที่มีประสิทธิภาพ
แต่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็คือ การใช้ถุงยางอนามัยควบคู่กันไปด้วย และ ใช้ 100 %