ฟังชัดๆ! ตำรวจ ยัน พกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย
จากกรณี "ฟลุ๊คศรี มณีเด้ง" ออกมาโพสเป็นคลิปในเฟสบุ๊คว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยาทำเกินกว่าเหตุในการจับกุมตนเองขณะที่ตรวจค้นรถพบ บุหรี่ไฟฟ้า ที่ตนรับสารภาพว่ามีไว้สูบ ทำให้เกิดคำถามสรุปแล้วว่า การพกบุหรี่ไฟฟ้าไว้สูบนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ ขณะที่มีนักกฎหมาย ทนายชื่อดังหลายคนออกมาโพสกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุชัดว่า ใครที่พกบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นผู้จำหน่ายหรือ ครอบครองไว้เพื่อสูบ ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการยึด ปรับและอายัด หากพบว่ามีการครอบครอง หรือได้มาซึ่งผิดกฎหมาย โดยบุหรี่ไฟฟ้าถูกกำหนดเป็นสินค้าที่อันตรายต่อสุขภาพ เป็นสินค้าต้องห้าม และยังหนีภาษีอีกด้วย
ส่วนผู้จำหน่ายร้านค้า มีความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค 2558 ที่กำหนดให้ บารากู่ และบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยา เป็นสินค้าห้ามขาย ห้ามให้บริการ เนื่องจากพบสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ส่วนผู้ครอบครอง มีความผิดฐานรับไว้เป็นของซึ่งรู้ว่าไม่ผ่านศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ปี2560 มีโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่กิน 10 เท่าของมูลค่า
ส่วนกรณีที่ "ฟลุ๊คศรี มณีเด้ง" ได้กล่าวว่า การดำเนินจับกุมตนนั้นได้ทำเกินกว่าเหตุ ทาง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า เป็นการดำเนินการตามปกติ ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ ปรับ ยึดสิ่งของที่เป็ฯความผิดให้สิ่งของนั้นเป็นอำนาของตำรวจ หากพบว่ามีการครอบครองผิดกฎหมายให้นำสู่กระบวนการโดยตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยาน หลักฐานทั้งหมด สรุปเป็นสำนวนส่งอัยการ ส่วนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 วรรค3 ที่กำหนดว่า หากไม่รู้ถือว่าไม่ผิด นั้น เป็นเพียงองค์ประกอบความผิด ที่ผู้ถูกกล่าวหาจะต้องไปสู้ในชั้นศาลเอง ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาของตำรวจ โดยที่ผ่านมาทาง สตช.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานตามระเบียบนี้ ยืนยันปฎิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน