วิกฤติลำไยราคาตกต่ำเหลือกิโลละ 20 บาท
ชาวจันทบุรีรวมพลังแก้วิกฤติลำไยราคาตกต่ำเหลือกิโลละ 20 บาท โดยพบปัญหาลำไยร่วงมาแย่งชิงตลาดส่งออกลำไยช่อ อบจ.จันทบุรี แนะตัดวงจรลำไยร่วงออกจากระบบส่งออกและนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าแทน พร้อมพัฒนาคุณภาพลำไยช่อตามมาตรฐานในทิศทางเดียวกัน
25 พ.ย.60 เกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาวจ.จันทบุรี ร่วมเวทีประชาคมการแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำ พร้อมด้วยผู้แทนทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมระดมความคิดเห็นต่อวิกฤติราคาลำไยที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน บนความร่วมมือและการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี
นายพงษ์ศักดิ์ หลิวทวีศรีประกาย นายกสมาคมชาวสวนลำไย จังหวัดจันทบุรี ได้สะท้อนถึงปัญหาว่าขณะนี้เกษตรกรชาวสวนลำไยจังหวัดจันทบุรีกำลังเผชิญกับปัญหาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติราคาลำไยตกต่ำ จากที่เคยขายกันอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 40 บาท แต่ช่วงนี้ราคากลับตกเหลือเพียงประมาณกิโลกรัมละ 20 บาท ส่วนลูกลำไยร่วงจากช่อ อยู่ที่กิโลกรัมละ 5 – 6 บาทเท่านั้น / ปัญหาการเก็บลำไยของล้ง ที่เก็บแล้วทิ้ง / และรวมถึงปัญหาการพบว่ามีลูกลำไยร่วงออกจากช่อมากผิดปกติ ซึ่งในส่วนของลำไยร่วงนี้ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้ราคาลำไยตกต่ำ เนื่องจากลำไยร่วง เข้ามาฉุดราคาลำไยช่อให้ต่ำลง เพราะสามารถส่งออกตลาดต่างประเทศได้ เช่นเดียวกับลำไยช่อ
ด้านนายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำว่า เราจะต้องพยายามดึงลำไยร่วงที่เป็นต้นเหตุของปัญหาออกจากระบบการส่งออกให้ได้ โดยการนำลำไยร่วงมาเข้าสู่การแปรรูปแทน ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ลำไยอบแห้ง ซึ่งก็ต้องมีการจัดสร้างโรงอบแห้งที่มีมาตรฐาน / การนำลำไยมาทำเป็นน้ำเชื่อม หรือแม้แต่การทำเป็นน้ำส้มสายชู ขณะเดียวกันตัวเกษตรกรที่ปลูกลำไย ก็ต้องทำลำไยช่อให้ได้คุณภาพด้วย