นางบำเรอทหารญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2
นางบำเรอเหล่านั้นเป็นสตรีวัยรุ่นชาวประเทศซึ่งจักรวรรดิญี่ปุ่นยึดครองได้ ส่วนใหญ่นำมาจากประเทศเกาหลี ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น และประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่สตรีชาวไทย เวียดนาม มลายู ไต้หวัน และดินแดนอื่น ๆ ในความยึดครองของจักรวรรดิญี่ปุ่น ถูกใช้แรงงานอยู่ ณ สำนักนางบำเรอซึ่งตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ประเทศจีน ประเทศไทย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย กลุ่มประเทศมลายูอังกฤษ ประเทศพม่า เกาะนิวกินี เกาะฮ่องกง เกาะมาเก๊า และอาณานิคมอินโดจีนฝรั่งเศส สำนักนางบำเรอดังกล่าว
ทหารในสมเด็จพระจักรพรรดิเป็นผู้ดำเนินกิจการ มีทั้งที่ทำการเองโดยตรง และที่ตั้งเอกชนให้ทำการแทนแล้วคอยกำกับดูแลต่ที่ใช้อาวุธจี้พามาก็มี กับที่ลวงว่าจะพามาทำงานในโรงงานหรือร้านอาหารก็มี แต่จำพวกหลังนี้ เมื่อยินยอมมาด้วยแล้ว ก็จะถูกกักขังไว้ที่สำนักนางบำเรอทันที อนึ่ง สตรีบางคนถูกชำเราแล้วจึงส่งเข้าสำนักนางบำเรอก็มีสำหรับนางบำเรอนั้น ประมาณจำนวนไว้ต่างกัน นักวิชาการชาวญี่ปุ่นบางคนคำนวณไว้ที่สองหมื่นคนเป็นอย่างน้อย และนักวิชาการชาวจีนว่า สี่แสนหนึ่งหมื่นคนเป็นอย่างสูง แต่ตัวเลขที่ถูกต้องนั้นยังเป็นที่ค้นคว้าและอภิปรายกันอยู่
นักวิชาการชาวญี่ปุ่นบางคน เช่น อิกุฮิโกะ ฮะตะ (Ikuhiko Hata) นักประวัติศาสตร์ โต้แย้งว่า รัฐบาลหรือทหารในสมเด็จพระจักรพรรดิไม่ได้จัดหานางบำเรอโดยกระทำอย่างเป็นองค์กรขณะที่นักวิชาการชาวญี่ปุ่นบางคนอาศัยคำให้การของอดีตนางบำเรอและทหารในสมเด็จพระจักรพรรดิมาชี้ว่า ทั้งกองทัพบกแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่นและกองทัพเรือแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่นมีส่วนโดยตรงและโดยอ้อมในการข่มขืนใจ ฉ้อฉล ล่อลวง และลักพาสตรีวัยรุ่นในทุก ๆ ดินแดนที่ตนยึดครองได้