คุณหมอขอบคุณพี่ตูน.......ให้กำลังใจอีกหลายคน
คุณหมอขอบคุณพี่ตูน.......ทำอย่างนี้ให้กำลังใจอีกหลายคนที่ทำงานด้านนี้..........
"พี่ตูนก้าวคนละก้าว"
ใครๆก็พูดถึงพี่ตูน
พี่ตูนนักร้องดัง คนที่วิ่งตั้งแต่ภาคใต้สุดปลายประเทศ
มีจุดหมายที่ทางเหนือเพื่อหาเงินให้โรงพยาบาล
น้องสาวผมถามว่าพี่คิดยังไงเหรอ พี่ตูนช่วยโรงพยาบาล
เขียนอะไรขอบคุณพี่ตูนหน่อยสิ
ผมตอบน้องว่าเงินน่ะ ไม่มีผลอะไรเท่าไหร่หรอก
ได้มาเท่าไหร่ก็ไม่มากเลยเวลาใช้
โรงพยาบาลในประเทศนี้ ที่ขาดที่สุดไม่ใช่เงิน หรือเครื่องมือ
แต่เป็นคนที่จะทำงาน
ถ้ามีคนที่มีใจที่มีความสามารถ สู้และอดทนพอ
เงินก็จะมี ของก็จะมาอาจจะต้องรอหน่อยนะ
หากความจริงในใจแล้ว
ผมและบุคลากรสาธารณสุขทุกๆคน ขอบคุณคุณตูนมากๆ
สิ่งสำคัญจากการก้าวครั้งนี้
นอกจากเงินบริจาคซึ่งก็น่าจะมากพอดู
สามารถนำไปเปลี่ยนเป็นเครื่องมือดีๆ มาใช้ต่อชีวิตให้กับคนไข้จำนวนมาก
แต่แรงกระเพื่อมในสังคมที่คุณตูนเริ่มก้าวจนมีคนก้าวตาม
การให้และการอุทิศตน ของคุณตูน
ไปสู่การให้ ช่วยเหลือเกื้อกูล การให้ของคนไทยทั้งประเทศ
นี่สิน่าสนใจกว่า
อย่างน้อยๆที่เป็นรูปธรรม
รัฐบาลน่าจะตอบรับแล้ว กับการเปลี่ยนให้สามารถนำเงินบริจาคให้โรงพยาบาล ไปลดหย่อนภาษีได้เป็นสองเท่าของจำนวนเงิน
เชื่อแน่ว่าลำพังเปลี่ยนแค่สิทธิประโยชน์นี้เรื่องเดียว การบริจาคเงินให้โรงพยาบาลรัฐ น่าจะเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์
และน่าจะยั่งยืนด้วย
ส่วนเรื่องที่จะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนของโรงพยาบาลรัฐได้จริงๆปัญหาการจัดสรรบริหารงบประมาณ
และการมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของประชาชนนั้น
ก็เป็นหน้าที่ที่ผู้รับผิดชอบ และพวกเราจะสู้กันต่อ
อ้อที่คุณตูนกับหลายๆคนอาจจะไม่รู้ก็คือ
พวกคุณเติมกำลังใจให้กับพวกเรามากเหลือเกิน
การที่ยังมีคนยังเห็นค่า ศรัทธากับสิ่งที่พวกเราทำ
มันมีความหมายมาก
สำหรับสถานการณ์ขณะนี้
ที่พวกเราอ่อนล้าทั้งกายและใจ
ทำยังไง ก็ไม่พอสู้ยังไงก็ไม่ชนะ
และตั้งใจยังไงก็ไม่พ้นถูกด่าเพราะมันยังไม่ดีสมใจบางท่าน
วันนี้
ตรวจคนไข้ตั้งแต่เช้า จนบ่ายผ่าตัดต่อไปอีกหกราย
ได้กินข้าวเที่ยงตอนค่ำนี้เอง
และตอนนี้ก็มีคนไข้ช็อค ตกเลือดในท้องกำลังรอผ่าตัดอีกแล้ว
แถมบนกระดานมีชื่อคนไข้รอผ่าตัดพรุ่งนี้อีกตั้งหลายคนด้วย
เราก็จะสู้ต่ออย่างคุณตูนเหมือนกัน
ถึงมีบางท่านบอกว่าทนทำทำไม ออกมาเถอะ
รัฐบาลใช้งานเรามากเกินไป
เค้าอาจจะไม่เข้าใจเราไม่ได้ถูกใช้งาน
เราทำตามที่ควรต้องทำ
เราช่วยด้วยใจไม่ใช่เพราะหน้าที่รึถูกบังคับ
เพราะเราก็มี...."ความเชื่อ"ของเรา
ขอบคุณ คุณตูน และคนไทยทุกคนนะครับ
นี่จากใจชาวโรงพยาบาลทั้งประเทศเลยนะ :)
"มันเกือบจะล้มมันเหนื่อยมันล้าเหมือนแทบขาดใจ
เดินมาจนท้อไม่เจอจุดหมายปลายทางที่ฝัน
จะกลับดีไหมถ้าเดินต่อไปยากเย็นขนาดนั้น ยังถามใจ
ตลอดชีวิตฉันเชื่อในสิ่งที่คิด
หรือมันจะเป็นอะไรที่ผิด และฉันเองที่หลงทาง
ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่
มันจะไปจบที่ตรงไหน เมื่อเดินเท่าไหร่มันก็ไปไม่ถึง
เดินต่อช้าๆไม่อยากปล่อยฝันให้มันหลุดมือ
ที่สั่งให้ฉันไปต่อก็คือความเชื่อเท่านั้น
ถ้าในวันนี้เรี่ยวแรงยังเหลือก็ยังต้องฝัน ต้องก้าวไป
ตลอดชีวิตฉันเชื่อในสิ่งที่คิด
แม้ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิด จะขอทำสุดหัวใจ
ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่
มันจะไปจบที่ตรงไหน แต่จะยังไงก็ต้องไปให้ถึง
ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำว่าครั้งนึงเคยก้าวไป
แค่คนที่เชื่อในความฝัน จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป"
ปล.สิ่งที่คุณตูนให้พวกเรามาก่อนหน้านี้
โดยเจ้าตัวอาจจะไม่รู้ก็คือ
เพลงของคุณมันสร้างแรงบันดาลใจ
ให้กำลังใจเวลาที่เหนื่อยๆได้ดีชะมัด
ในรถผมมีดีวีดีที่เปิดบ่อยๆแผ่นเดียวคือ bodyslam
แต่ที่ยังทำตามไม่ได้คือ "เรือเล็กควรออกจากฝั่งนี่ละ"