คนเป็นมะเร็งนับหมื่น แห่รับสมุนไพร "หมอแสง" ถามความคืบหน้าหลังรัฐเข้าตรวจสอบ เมื่อไหร่จะได้เอกสารสิทธิบัตร อย.รับรองยา?

นับวันผู้ป่วยยิ่งเพิ่มขึ้น เดินทางมาจากทั่วทิศ เพื่อมาลงประจำวันก่อนวันรับสมุนไพรเทวดา
ช่วงเช้าของ (4พฤศจิกายน 2560) ที่บริเวณลานจอดรถหน้า สภ.เมืองปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวพบว่ามีประชาชน จากทั่วสารทิศ ซึ่งเป็นผู้ป่วยด้วยโรงมะเร็ง ต่างแห่กันเดินทางมาที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ส่งผลให้บริเวณลานจอดรถพื้นที่กว่า 10 ไร่ มีรถยนต์จอดเต็มพื้นที่  ส่วนผู้ที่เดินทางมาในช่วงสายต้องจอดรถยนต์ไว้ตามถนนหน้า สภ.เมืองปราจีนบุรี เป็นทางยาว
โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีประชาชน จำนวนหลายพันคน ทั้งผู้ป่วยชาย แบะหญิง พร้อมญาติผู้ป่วยต้องรอเข้าคิวเพื่อลงบันทึกประจำวัน
เป็นการนำหลักฐานเพื่อเดินทางไปที่บ้านนายแสงชัย แหเลิศตระกูล ผู้บริหารงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ณ ตำบลบางเดชะ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี  เพื่อลงทะเบียนรับสมุนไพรแก้มะเร็งร้าย ที่ทางด้านนายแสงชัย  มีกำหนดให้ผู้ป่วยมะเร็งมารับยาสมุนไพร ฟรี ในทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน  และในเดือนนี้ปรากฏว่ามีประชาชนที่ทราบข่าวจากสื่อต่างๆ ที่เผยแพร่ข่าวสารไปแล้วนั้น  ว่าผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง  โดยเฉพาะระยะสุดท้ายกว่า 90 % รับสมุนไพรไปรับประทานแล้ว มีอาการดีขึ้น บางรายไปตรวจที่โรงพยาบาลพบค่ามะเร็ง เป็น 0  จึงทำให้มีประชาชนต้องการสมุนไพรจากหมอแสงชัย เพิ่มมากขึ้นและจากการที่มีประชาชนมาจำนวนมาก ทำให้ พ.ต.อ.ประสาน แก้วมหาสุริวงษ์  ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี  ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบนายมาช่วยลงบันทึกประจำวันให้กับประชาชน ที่มาใช้บริการตลอดทั้งวัน
หลังจากผู้ป่วยพร้อมญาติได้หลักฐานบันทึกประจำวันไปแล้ว ก็มุ่งหน้าไปที่ บ้านหมอแสงชัย เพื่อรอเข้าคิวในการตรวจสอบเอกสาร ประกอบด้วย  ใบรับรองแพทย์ว่าป่วยเป็นมะเร็ง บันทึกประจำวัน จาก สภ.เมืองปราจีนบุรี บัตรประชาชน  สำเนาทะเบียนบ้าน ทางกลุ่มเพื่อนหมอแสงชัย จะทำการตรวจสอบเอกสารของผู้ประสงค์จะขอรับยา ตั้งแต่เวลา 02.00 น.  ในคืนนี้เป็นต้นไป พร้อมจ่ายสมุนไพรให้กับผู้ป่วย
จากการที่มีประชาชนเดินทางมาจำนวนหลายพันคน ส่งผลให้ที่พักรายวัน ในเขตพื้นที่  อ.เมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม และอำเภอใกล้เคียง เต็มเกือบทุกที่ รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับบรรดา พ่อค้า แม่ค้า ที่ได้นำสินค้ามาจำหน่ายเป็นอย่างมากอีกด้วย
ด้านนางศิริกุล คำมั่น  อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/5  หมู่ 1 ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง หนึ่งในผู้ป่วยมะเร็งที่รับสมุนไพรจากหมอแสงชัย ไปรับประทานแล้ว และมีอาการดีขึ้น กล่าวว่า  ตนเองเป็นมะเร็งปอด หรือที่ต่อมไทมัด ผ่าตัดมาแล้วครึ่งหนึ่งก็เหลืออีกครึ่งหนึ่ง แต่ก็ผ่าตัดมาหลายครั้ง ด้านหลังก็ผ่า 3 ครั้ง และที่หน้าอกถึงสะดือ แล้วให้คีโม หลังจากนั้นมันก็งอกขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะเป็นมะเร็งชนิดร้าย ก็เริ่มเป็นตั้งแต่ระยะแรก แพทย์ก็เรียกสามีและลูกมา บอกว่าให้ดูแลแม่ดี ๆ อยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน แต่ก็อยู่มาได้ 10 ปี แล้ว ในระยะ 10 ปี ก็ดูแลตัวเองมาตลอด พยายามศึกษาว่าควรดูแลตัวเองอย่างไรทั้งเรื่อง อาหาร พร้อมด้วยการออกกำลังกาย และทำกิจกรรมที่ไม่ให้เกดความเครียด ต่อมาระยะหลังก็งอกขึ้นมาอีก 7 ก้อน ก้อนละประมาณ 2 ซม.หมอก็ผ่าตัดอีก ตอนนี้ก็งอกขึ้นมาอีก 6 ก้อน ไม่รู้จะผ่าตัดได้หรือเปล่า หมอก็แนะนำให้ฉีดยาเข็มละ 4 แสน รวม 6 เข็ม เป็นเงิน 2.4 ล้าน ให้คิดดู ตนเองเลยตัดสินใจไม่รักษา มันก็มีอาการปวด หมอก็ให้ยารักษาตามอาการ  และกลับมาหาหมอแสงชัย ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้าย เมื่อกินยาแล้วอาการก็ดีขึ้น ตื่นมากระชุ่มกระชวย  หลับลึก หลับสบายขึ้น กินสมุนไพร มา 3- 4 เดือนแล้ว ตนสังเกตอาการที่เคยเป็นมากว่า 10 ปี ก็รู้ว่าอาการดีขึ้น 
ส่วนทางด้าน นางอำไพ ประสมสุข  อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24  หมู่ 12  ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง กล่าวด้วยว่า ตนเองก็เป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 รักษาแพทย์แผนปัจจุบันเสร็จแล้ว ก็เลยมากินยาหมอแสง จนขณะนี้ค่ามะเร็งไม่มีแล้ว
นายชำนาญ อเนกนวล อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223/1  หมู่ 10  ต.ท่าบุญมี  อ.เกาะจันทร์  จ.ชลบุรี กล่าวว่า   

ตนเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย รักษาที่โรงพยาบาลชลบุรี หมอก็เอ๊กซเรย์ และเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจก็ยังไม่แน่ใจ เลยเจาะไขกระดูกไปตรวจ พบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เมื่อเดือนสิงหาคม 2559   แพทย์ก็รักษาตามขั้นตอน แล้วผมก็หันมากินยาหมอแสงชัย  ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่ง และได้กินยามาแล้ว 5 เดือน ตอนนี้ค่ามะเร็งเป็นศูนย์ ซึ่งหมอก็แปลกใจว่าทำไมหายเร็ว

 

ด้าน นายแสงชัย บอกว่าได้สูตรยามาจากหมอพื้นบ้านชาวกัมพูชา และได้นำกลับมาพัฒนาสูตรให้ดีขึ้น เริ่มจากนำไปทดลองใช้กับสุนัขจรจัด ที่ป่วยเป็นมะเร็งอวัยวะเพศ พบว่าสุนัขมีอาการดีขึ้น จึงเริ่มนำไปใช้กับลูกสาวตัวเองที่ป่วยเป็นมะเร็ง อาการก็ดีขึ้นเช่นกัน จึงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบยาตัวนี้ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะต้องการช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยใจจริง.