กรมบัญชีกลางยันบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ขัดกฎหมาย
เมื่อวันที่ (10 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาร้องเรียนให้ยุติโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะเป็นการสูญเสียงบประมาณในการจัดทำบัตรสวัสดิการ โดยไม่ใช้ร่วมกับบัตรประชาชน เป็นการทำงานที่ไม่คุ้มค่า ไม่ประหยัดการใช้จ่ายของภาครัฐ เพราะรัฐต้องเสียเงินไปกับการจัดซื้อจัดหาบัตรสวัสดิการที่มีราคามากกว่า 35 บาท รวมทั้งอาจขัดมาตรา 62 ของรัฐธรรมนูญ
เรื่องนี้ทาง นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ยืนยันว่า การใช้งบจัดหาบัตรไม่ขัดมาตรา 62 ของรัฐธรรมนูญ และสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี มั่นใจโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายประชาชนได้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีพยายามให้ข้อมูลที่เป็นเท็จในการปลุกระดมเพื่อให้มีการยกเลิกการซื้อสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เช่น รัฐจัดสรรงบประมาณปีละ 50,000 ล้านบาท เพื่อเข้าไปสู่กระเป๋าของเอกชนรายใหญ่ไม่กี่รายหรือเอื้อประโยชน์แก่ผู้ผลิตสินค้าไม่กี่ราย เป็นต้น จึงมอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดและผู้เกี่ยวข้องในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการนี้ ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดรวบรวมปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชนผู้มีบัตรได้มีความคล่องตัวในการใช้จ่ายสินค้ามากขึ้น
ส่วนกรณีที่พบ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ บางจังหวัด เช่น มหาสารคาม ลำปาง กำแพงเพชร และสกลนคร จำนวน 6-7 ร้านค้า ได้ให้ผู้ถือบัตรมาซื้อสินค้าภายในร้านได้ตามจำนวนเงินในบัตร และขอเก็บบัตรไว้ก่อน และเปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้าเป็นเงินสด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำความผิดในเงื่อนไขที่ภาครัฐกำหนดไว้ โดยภายในสัปดาห์นี้กระทรวงพาณิชย์จะถอนรายชื่อร้านค้าเหล่านี้ไม่ให้เข้ามาร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐผ่านบัตรสวัสดิการของรัฐบาล แต่ร้านค้าที่จังหวัดมหาสารคามจะถอนเครื่องรูดบัตรออกจากร้านทันที ส่วนประชาชนที่ร่วมกระทำผิดเงื่อนไขนั้น จะส่งเรื่องให้ทางกรมบัญชีกลางไปพิจารณาว่า จะให้ถอนการใช้บัตรสวัสดิการหรือไม่