หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนานนอร์ส (Norse Mythology)

โพสท์โดย kongphop 88
 
อักษรรูนมีความเกี่ยวข้องกับกับตำนานนอร์ส ผู้ที่ต้องการจะใช้อักษรรูนจึงจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับตำนานและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอักษรรูน
 
การกำเนิด
ในยุคเริ่มแรกนั้น มุสเปลล์ (Muspell) เป็นดินแดนแห่งไฟ เป็นสถานที่ของแสงและความร้อนที่น่ากลัว มีเพียงสิ่งมีชีวิตเดียวเท่านั้นที่จะทนต่อไฟของดินแดนแห่งนี้ได้ สิ่งมีชีวิตนั้นคือยักษ์ไฟ (Fire Giants) ผู้รักษาดินแดนมุสเปลล์ เป็นยักษ์ที่มีดาบไฟเป็นอาวุธ ในตอนสิ้นสุดของยุคเริ่มแรกนั้น แร็คนาร็อค Surt และบรรดาพวกพ้องของเขาได้วางแผนที่จะทำลายเหล่าเทพและโลกของเหล่าเทพด้วยไฟ
ภายนอกของดินแดนมุสเพลล์ มีช่องว่างที่เรียกว่า Ginnungugap และทางเหนือของช่องว่างนี้คือ นิฟเฟิลฮีม โลกแห่งความมืดและความหนาวเหน็บ ในโลกแห่งนี้มีแม่น้ำทั้งหมดเจ็ดสายที่มีต้นน้ำมาจากบ่อน้ำอันใหญ่ แม่น้ำนั้นเป็นน้ำแข็งและยึดครองพื้นที่ของ Ginnungugap เมื่อลม ฝน น้ำแข็ง และอากาศหนาวเย็นมาพบกันที่ความร้อนและไฟของดินแดนมุสเพลล์ที่ใจกลางของ Ginnungugap ความสว่าง อากาศ และความอบอุ่นจึงเกิดขึ้น
 
สถานที่ที่ไฟและน้ำแข็งพบกันครั้งแรกนั้น การละลายได้เกิดขึ้น ภายใต้น้ำแข็งที่ละลายนั้นคือร่างของยักษ์น้ำแข็ง (Frost Giant) มีชื่อว่า Ymir Ymir ที่กำลังนอนหลับนั้นได้ตกลงไปในเหงื่อ ใต้แขนซ้ายของเขามีสิ่งมีชีวิตคู่หนึ่งเจริญเติบโตขึ้นมา สิ่งมีชีวิตนั้นคือยักษ์ผู้ชายและยักษ์ผู้หญิง ขาข้างหนึ่งของเขาได้กลายเป็นลูกชายคนหนึ่งและอื่น ๆ
 
ส่วนน้ำค้างแข็งที่ละลายนั้นได้กลายเป็นวัวชื่อว่า Audhumla ซึ่งเต้านมของวัวตัวนี้ทำให้แม่น้ำสี่สายกลายเป็นน้ำนมเพื่อเป็นอาหารให้กับยักษ์ Ymir 
 
หลังจากวันหนึ่งของการตีอิฐน้ำแข็งที่มีความเค็ม อิฐน้ำแข็งได้ปล่อยเส้นผมของผู้ชายออกมาจากน้ำแข็ง หลังจากนั้นถัดมาสองวัน ศีรษะของชายผู้นั้นก็ปรากฏ ในวันที่สาม ร่างของชายคนหนึ่งก็ถูกปล่อยออกมาจากน้ำแข็ง ชายผู้นั้นมีชื่อว่า Buri Buri มีลูกชายชื่อว่า Bor  Bor ได้แต่งงานกับ Bestla ลูกสาวของยักษ์ และมีลูกชายด้วยกันสามคน คือ Odin Villi และ Vé  Odin ด้วยความร่วมมือของพระอนุชาของพระองค์ทั้งสองคน พระองค์เป็นผู้ปกครองสวรรค์และโลก พระองค์ยังเป็นเทพเจ้าที่มีชื่อเสียงและเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากเทพเจ้าทั้งปวงอีกด้วย
 
Odin และพระอนุชาของพระองค์ได้ฆ่ายักษ์  Ymir และนำร่างของยักษ์ไปไว้ยังใจกลางของ Ginnungugap และสร้างโลกที่ชื่อว่า มิดการ์ด จากร่างกายของยักษ์ Ymir  เลือดของเขาได้กลายเป็นทะเลและทะเลสาบ กะโหลกของเขาได้กลายเป็นสิ่งที่ครอบคลุมท้องฟ้า สมองของเขาถูกโยนขึ้นไปบนอากาสและกลายเป็นเมฆ จากนั้นประกายไฟและถ่านที่ยังลุกไหม้จากดินแดนมุสเพลล์ได้ถูกวางไว้ในใจกลางของ Ginnungugap เพื่อให้แสงสว่างกับดินแดนมิดการ์ด เทพโอดินและพระอนุชาได้ตั้งชื่อให้กับดวงดาวและตั้งวิถีการโคจรของมัน โครงกระดูกของยักษ์ Ymir กลายเป็นภูเขาของดินแดนมิดการ์ด ฟันและกรามของเขากลายเป็นหินและก็นกรวด เนื้อของเขากลายเป็นฝุ่นใน Grottekvarnen เส้นผมของเขากลายเป็นต้นไม้ หนอนในเนื้อของยักษ์ Ymir กลายเป็นคนแคระ สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเป็นผู้ชาย แต่อาศัยอยู่บนโลก พระอาทิตย์ของ Buri ได้วางคนแคระลงภายใต้แต่ละมุมของท้องฟ้า คนแคระสี่คนเรียกว่า Austri (ทิศตะวันออก) Vestri (ทิศตะวันตก) Nordri (ทิศเหนือ) และ Sudri (ทิศใต้)
 
มิดการ์ด (Midgard)
มิดการ์ดถูกล้อมรอบโดยมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาล โอดิน Vili และ Vé ได้มอบดินแดนที่อยู่ตามชายฝั่งให้กับกลุ่มยักษ์ที่เป็นมิตรที่ชื่อว่า Etin สำหรับการตั้งถิ่นฐานของพวกเขา จากต้นไม้สองต้น พวกเขาสร้างผู้ชายและผู้หญิง โอดินมอบวิญญาณและชีวิตให้กับผู้ชายและผู้หญิง Vili มอบความเข้าใจและพลังในการเคลื่อนไหว  Vé มอบเครื่องแต่งกายและชื่อให้กับผู้ชายและผู้หญิง ผู้ชายมีชื่อว่า Ask (แอช) และผู้หญิงมีชื่อว่า Embla (เอล์ม) Ask และ Embla เป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ที่อยู่ในดินแดนมิดการ์ด
 
แอสการ์ด (Asgard)
ต่อมาพวกเขาสร้างดินแดนแอสการ์ด ที่อยู่สำหรับเหล่าเทพ ในห้องโถงที่มีชื่อว่า Hlidskjálf เทพโอดินประทับอยู่บนที่นั่งสูงที่พระองค์จะสามารถมองเห็นโลกทั้งใบได้ เทพโอดิมีพระมเหสีชื่อว่า Frigga ลูกสาวของยักษ์ Fjörgvin
 
อิกดราซิล (Yggdrasil)
อิกดราซิล คือ ต้นไม้แห่งโชคชะตา เกิดขึ้นในใจกลางของดินแดนมิดการ์ด กิ่งก้านของมันไปถึงดินแดนแอสการ์ด จักรวาลทั้งหมดรวมตัวอยู่ที่ต้นไม้ต้นนี้ อิกดราซิลมีรากสามอัน อันหนึ่งไปถึงดินแดนใต้พิภพ อีกอันหนึ่งไปถึงโลกของยักษ์น้ำแข็ง และอันสุดท้ายไปถึงโลกของมนุษย์ ภายใต้ต้นไม้อิกดราซิลคือบ่อน้ำ Urda ถูกปกป้องคุ้มครองโดย Norn เทพีแห่งโชคชะตาทั้งสามองค์ บ่อน้ำอีกสองบ่อก็หลอ่เลี้ยงต้นไม้อิกดราซิลด้วย บ่อหนึ่งเรียกว่า Hvergelmer และอีกบ่อหนึ่งเรียกว่า บ่อน้ำของ Mimer  มังกร Nidhog นอนอยู่ในบ่อน้ำ Hvergelmer และแทะเล็มรากของต้นไม้ บ่อน้ำของ Mimer เป็นบ่อน้ำแห่งความฉลาด ถูกปกปักรักษาโดยสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุด Mimer ครั้งหนึ่งเทพโอดินได้ให้ดวงพระเนตรข้างขวาสำหรับการดื่มน้ำจากบ่อน้ำบ่อนี้
 
ไบฟรอสต์ (Bifröst)
เหล่าเทพเจ้าได้สร้างสะพานเรียกว่า ไบฟรอสต์ ซึ่งเชื่อมระหว่างแอสการ์ด (สวรรค์) ไปยังมิดการ์ด (โลก) พวกเขาข้ามผ่านสะพานสายรุ้งทุกวัน ไบฟรอสต์ถุกปกปักรักษาโดยเทพ Heimdall เทพ Heimdall นอนหลับนานยิ่งกว่านก มองเห็น 100 วันเดินทางในแต่ละทิศทาง และยังมีหูที่สามารถฟังเสียงหญ้าและขนที่เจริญเติบโต แต่ไบฟรอสต์จะพังทลายเมื่อยักษ์น้ำแข็งเดินทางผ่านมาที่ Ragnarok ไม่มีอะไรที่จะวางใจได้เมื่อลูกชายของมุสเพลล์กำลังอยู่ในช่วงการรบ
 
เทพและเทพี
เทพและเทพีนอร์สถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือ Aesir และ Vanir โดยกลุ่ม Vanir คือเทพเทพีที่อยู่บนโลก เป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย และความอุดมสมบูรณ์ พวกเขามีความร่วมมือกันระหว่างโลกและทะเล เทพที่มีความสำคัญที่สุดของกลุ่ม Vanir คือ Njord Freyr Aegir และ Freya
กลุ่ม Aesir คือกลุ่มเทพเทพีที่อยู่บนท้องฟ้า เป็นสัญลักษณ์ของพลัง ความฉลาด และสงคราม พวกเขามีชีวิตที่ยาวนาน แต่ไม่เป็นอมตะ เทพโอดินเป็นหัวหน้าเทพเทพีทั้งปวง เทพเจ้าที่มีพลังเวทมนตร์อยู่ด้วย เช่น ธอร์ มีค้อนเวทมนตร์ เป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้าที่ปกครองผู้ชายที่ทำงาน โลกิเป็นยักษ์ที่ถูกรับเข้ามาในกลุ่ม Aesir พระองค์และเทพโอดินได้สาบานตนสร้างมิตรภาพกันและกลายเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกัน โลกิเป็นนักเล่นกล นักจำแลง และผู้สร้างปัญหา
 
ในอดีตมีสงครามระหว่างเทพเจ้ากลุ่ม Aesir และกลุ่ม Vanir ความขัดแย้งระหว่างเทพเจ้าเกิดขึ้นเมื่อเทพโอดินและเทพธอร์สับสนที่จะยอมรับสถานะของเทพเจ้ากลุ่ม Vanir เทพเจ้ากลุ่ม Vanir ได้ส่งหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงาม Gullveig (เครื่องดื่มทองคำ) แก่เทพเจ้ากลุ่ม Aesir ผู้ที่พยายามทำลายเธอ หญิงสาวฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาสามครั้ง และนำพวกเขาไปสู่การติดสินบน สงคราม จากนั้นได้แตกสลายไป หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายหมดแรง แต่ละฝ่ายได้ส่งตัวแทนออกมาเจรจา กลุ่ม Vanir ได้ส่งเทพ Njord และลูกชาย และลูกสาว Freyr และ Freya กลุ่ม Aesir ได้ส่ง Mimir และ Hoenir การพักรบถูกเฉลิมฉลองโดยการพบปะในที่ที่เทพเจ้าทั้งหมดถ่มน้ำลายลงไปในชามแล้วสร้างยักษ์ที่เรียกว่า Kvasir ขึ้นมา ผู้ที่เป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุขและความสามัคคีระหว่างเทพเจ้าด้วยกัน ต่อมายักษ์ Kvasir ได้สังเวยตัวเองและเลือดของเขาได้กลายเป็นเครื่องดื่มที่มีพลังที่สามารถมอมเมาเทเจ้าอละให้แรงบันดาลใจในบทกวี
 
Balder ลูกชายคนหนึ่งของเทพโอดิน เป็นสัญลักษณ์ของความฉลาด ความกตัญญู และความรอบคอบ ทั้งเทพเจ้าและผู้ชายมายังพระองค์เพื่อตัดสินคดีความเกี่ยวกับกฎหมาย และการตีดสินของพระองค์เป็นธรรม เทพ Balder เคยฝันถึงการที่ชีวิตของพระองค์ถูกคุกคาม เมื่อรายงานเรื่องนี้ให้กับพระมารดา Frigga พระนางได้ไขว่คว้าคำสาบานจากไฟ น้ำ เหล็ก โลก หิน รวมไปถึงนกทั้งหมดและสัตว์ พวกมันสาบานว่าจะไม่ทำร้ายเทพ Balder เพราะภูมิคุ้มกันของพระองค์ เทพเจ้ากลุ่ม Aesir ใช้เทพ Balder เป็นเป้าหมายในเกมส์ต่าง ๆ ปาลูกดอกและก็นหินใส่พระองค์ เมื่อโลกิเห็นเข้า พระองค์ได้ปลอมตัวเป็นผู้หญิงและถามเทพี Frigga ว่าทำไมเทพ Balder จึงไม่ได้รับการถูกทำร้าย เทพี Frigga บอกถึงคำสาบาน โลกิหลอกพระนางโดยการบอกว่ามิสเซิลโทเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เห็นด้วยกับคำสาบาน โลกิได้เก็บมิสเซิลโทมาแล้วทำเป็นลูกธนู พระองค์นำลูกศรไปให้กับเทพตาบอด Hoder พี่น้องของเทพ Balder และอาสาให้เขายิงลูกศร เมื่อมิสเซิลโทถูกเทพ Balder พระองค์ก็ตาย 
 
เพราะเทพ Balder ไม่ใช่อัศวินและไม่ได้ตายในสงคราม พระองค์จึงไม่ได้ไปที่ Valhalla สถานที่สำหรับวีรบุรุษ แต่เดินทางไปสู่นรก ผู้รักษาดินแดนแห่งความตาย เฮล (ลูกสาวของโลกิ) ตอบรับว่าถ้าทุกอย่างในโลกทั้งตายและมีชีวิตร้องไห้เพื่อเทพเจ้า Balder จากนั้นพระองค์จะสามารถกลับไปเป็นเทพในกลุ่ม Aesir ได้ แต่ถ้าไม่ พระองค์จะต้องอยู่กับเฮล
เทพเจ้ากลุ่ม Aesir ได้ส่งผู้ส่งสารมายังโลกเพื่อที่จะให้ร้องไห้เพื่อเทพ Balder ทุกคนยอมรับเว้นแต่นางยักษ์ที่ชื่อ Thokk (ร่างแปลงของโลกิ) ผู้ที่ไม่ต้องการจะร้องไห้เพื่อไม่ให้เทพ Balder อยู่ในนรก เทพเจ้ากลุ่ม Aesir ประสบความสำเร็จในการจับโลกิ เพื่อที่จะลงโทษพระองค์ในคดีต่าง ๆ ที่พระองค์ทำไว้ พวกเขาล่ามพระองค์ไว้กับงู ที่จะหยดพิษออกมาบนพระองค์ ทำให้กิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง
 
แร็คนาร็อค (Raknarok)
แร็คนาร็อค หรือจุดจบของโลกถูกทำนายขึ้นเมื่อ Mirmir ไม่มีผู้ปกปักรักษาบ่อน้ำของเขาอีกต่อไป รากของต้นไม้อิกดราซิลเริ่มที่จะเน่า มังกร Nidhog จะแทะเล็มรากที่อยู่ในบ่อน้ำ Hvergelmer ได้สำเร็จในที่สุด พวก Norn จะถูกเตือนเกี่ยวกับมลพิษของบ่อน้ำ Urdh และใบไม้ทีเป็นสีเหลืองของอิกดราซิล เทพโอดินได้สังเวยดวงตาให้ไว้ในบ่อน้ำของ Mirmir และดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น พระงอค์รู้ว่าไม่มีอะไรที่จะหยุด Fibulwinter สามปีที่มีแต่ฤดูหนาวอันยาวนานได้ อันเป็นสิ่งที่ตามมาโดยแร็คนาร็อค
แต่ละวันจะหนาวเหน็บจนแม้แต่บ่อน้ำ Urda จะแข็งตัวจนกลายเป็นของแข็ง พายุและฝนหิมะจะกระหน่ำใส่อิกดราซิล กิ่งไม้ของอิกดราซิลกิ่งหนึ่งจะหักและร่วง Jormungand งูที่โดดเด่น เรือของนรก Naglfar จะมองเห็นในหมอก หมาป่า Skoll และ Manegarm จะเข้าใกล้พระอาทิตย์และดวงจันทร์ ซึ่งพวกมันได้ไล่ล่าสำหรับ eons หมาป่า Fenrir และหมาป่าของเฮล Garm จะหลุดพ้นจากการถูกล่าม เหล่ายักษ์จะปล่อยตัวโลกิออกมาจากการถูกล่ามโซ่บนภูเขา Nidhoggr จะละทิ้งต้นไม้อิกดราซิลและมุ่งหน้าไปยังแอสการ์ด ข้างหลังเป็นกองทัพของเหล่ายักษ์ เทพ Heimdal จะเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด และจะใช้  Gjallarhorn เพื่อเป่าเตือนภัย
 
โลกิจะเป็นแกนนำสัตว์ประหลาดและยักษ์เข้าโจมตีเทพเจ้าในสงครามแร็คนาร็อคบนที่ราบ Vigrid ผู้นำแห่งยักษ์ไฟ Surt จะโจมตี Freyr ผู้ที่สวมชุดเกราะเป็นเพียงเขาของกวาง Freyr จะใช้เขากวางของพระองค์ติดเข้าไปในดวงตาของ Surt แต่จากนั้น Surt จะฆ่าพระองค์ด้วยดาบไฟของมัน ลูกชายของเทพธอร์ Magni จะส่งลูกธนูเข้าไปยังหัวของ Nidhoggr ในแต่ละข้าง เทพโอดินและเทพธอร์จะสู้กับ fenrir และ Jormungand เทพโอดินจะปาหอกของพระองค์เข้าไปในหน้าอกของ Fenrir แต่หมาป่าจะกระแทกเทพโอดินลงไปบนพื้น เทพธอร์จะฆ่างู Jormungand ด้วยค้อนของพระองค์ แต่จากนั้นจะเดินถอยหลังไปเก้าก้าวแล้วหล่นลงไป ถูกพิษของงู Tyr จะฆ่าหมาป่า Garm Vidar จะชำระความแค้นเพื่อเทพโอดิน ศัตรูโลกิและ Heimdall จะปาหอกใส่กันในเวลาเดียวกันและทั้งคู่จะตาย Modi จะถูกบ้อมด้วยยักษ์ แต่ Magni และ Vidar จะมาช่วยพระองค์ให้รอดพ้นภัย
 
ลมจะรุนแรงขึ้นและเป่าอิกดราซิลจากทุกทิศทางจนอิกดราซิลล้ม เอลฟ์มืดปลอมจะได้รับรางวัลและอิกดราซิลจะเผาไหม้ สะพานสายรุ้งไบฟรอสต์จะพังทลายและโลกจะทลาย เทพกลุ่ม Aesir ที่ยังเหลืออยู่จะหลบหนีไปในเรือของ Freyr มันจะถูกเอาไปโดยเรือของเฮล จากนั้นมิดการ์ดจะถูกทำลายด้วยไฟ และจมลงสู่ทะเล
 
การทำลายครั้งสุดท้ายนี้จะตามมาหลังจากการเกิดใหม่ โลกจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งจากทะเล ลูกชายเจ็ดคนของกลุ่มเทพเจ้า Aesir ที่ตายไปแล้วจะกลับมายังแอสการ์ดและปกครองจักรวาล
 
Havamal : คำพูดของผู้ที่อยู่สูงสุด
The Havamàl เป็นส่วนหนึ่งของบทกลอน Edda ซึ่งเป็นงานเขียนที่เป็นแหล่งข้อมูลของตำนานนอร์ส นี่เป็นสิ่งที่ตัดตอนมาจากการแปลความของ Havamal โดย ดับบลิว.เอช ออเดน และ พี.บี. เทย์เลอร์ ซึ่งมีคำพูดของเทพโอดินเกี่ยวกับว่า พระองค์ได้รับอักษรรูนและพลังของอักษรรูนมาได้อย่างไร
 
" ข้าที่บาดเจ็บแขวนอยู่บนตะแลงแกงที่มีลมกวาด
เป็นเวลาเก้าคืน
ถูกแทงโดยหอก ให้คำมั่นสัญญากับโอดิน
เสนอตัว ตัวข้าสู่ตัวข้า
ผู้ที่ปราดเปรื่องรู้ว่าไม่ได้มาจากฤดูใบไม้ผลิ
รากของไม้กางเขนโบราณ
พวกเขาไม่ให้ขนมปังแก่ข้า
พวกเขาไม่ให้เหล้าน้ำผึ้งแก่ข้า
ข้ามองลงไป
ด้วยเสียงร้องไห้ที่ดังกังวาน
ข้าหยิบรูนขึ้นมา
จากต้นไม้ที่ข้าร่วงลงมา
เก้าอันมีพลัง
ข้าเรียนรู้มาจากบิดาของ Bolthor Bestla ผู้มีชื่อเสียง
พระองค์เทเนื้อให้ข้า
ผสมกับ Odrerir ที่มีเวทมนตร์
ฉาบและเจริญเติบโตดี
คำจากคำให้คำกับข้า
การกระทำจากการกระทำให้การกระทำกับข้า
 
รูน เจ้าจะพบ และบริวารที่อ่านใจง่าย
บริวารที่แข็งแกร่งมาก
บริวารที่มีพลังมาก
บริวารที่ Bolthor ทำให้ด่างพร้อย
สร้างขึ้นโดยพลังอันทรงอำนาจ
แกะสลักโดยเทพแห่งการพยากรณ์
 
สำหรับเทพเจ้าโดยโอดิน สำหรับเอลฟ์โดย Dain
โดย Dvalin สำหรับคนแคระ
โดย Asvid สำหรับยักษ์ที่น่าเกลียด
และบางครั้งข้าแกะสลักตัวเอง
ก่อนที่บุรุษจะถูกสร้าง กรีดพวกเขา
ใครที่ฟื้นคืนคนแรก จะร่วงลงจากนั้น
 
รู้ว่าจะตัดพวกเขาอย่างไร
รู้ว่าจะอ่านพวกเขาอย่างไร
รู้ว่าจะทำให้พวกเขาแปดเปื้อนอย่างไร
รู้ว่าจะพิสูจน์พวกเขาอย่างไร
รู้ว่าจะปลุกพวกเขาอย่างไร
รู้ว่าจะได้เปรียบพวกเขาอย่างไร
รู้ว่าจะส่งพวกเขาอย่างไร
รู้ว่าจะส่งพวกเขาอย่างไร
 
ไม่ถามดีกว่ามากกว่าการข้ามเครื่องประกัน
เหมือนของขวัญที่ต้องการของขวัญ
ไม่ส่งดีกว่า
มากกว่าการสังหารมากเกินไป "
 
การแปลความฉบับอื่น บอกไว้ว่า
 
" เจ้ารู้วิธีปั้นพวกเขาหรือไม่ ?
เจ้ารู้วิธีอ่านพวกเขาหรือไม่ ?
เจ้ารู้วิธีแต่งแต้มพวกเขาหรือไม่ ?
เจ้ารู้วิธีเข้าใจพวกเขาหรือไม่ ?
เจ้ารู้วิธีสวดมนต์หรือไม่ ?
เจ้ารู้วิธีสังเวยหรือไม่ ? *
เจ้ารู้วิธีส่งหรือไม่ **
เจ้ารู้วิธีทอดทิ้งหรือไม่ ? *** 
จะดีกว่าถ้าไม่สวดมนต์ตลอดเวลา มากกว่าการสังเวยมากเกินไป
ของขวัญต้องการของขวัญเป็นการตอบแทน
จะดีกว่าถ้าไม่ส่งเลย มากกว่าการตอบโต้มากเกินไป
แกะสลักโอดินก่อนเวลา ****เมื่อเขาตื่น เมื่อเขากลับคืนมา***** "
 
-------
*  ในเรื่องโชคชะตา การเสนอบางสิ่งให้กับเทพเจ้า จะได้รับพร
** เวทมนตร์รูน – วิธีส่งพรหรือคำสาปรูนิค
*** วิธีตอบโต้เวทมนตร์รูน
**** Thund คือชื่อของเทพโอดิน หมายถึง ‘ผอม’ หมายความถึงเวลาอันยาวนานของความเข้มงวด การแขวนในต้นไม้
***** เมื่อเขาฟิ้นคืนหลังจากร่วงหล่นลงมาจากอิกดราซิล เมื่อเขากลับคืนสู่โลกหลังจากการสังเวยอันยาวนาน
 
สำหรับ Havamàl ฉบับเต็ม คลิกที่นี่
kongphop 88
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
kongphop 88's profile


โพสท์โดย: kongphop 88
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อย"ลาบูบู้" ไม่รอด โดนเขมรเคลมเรียบร้อยแล้ว..บอกรากเหง้ามาจาก "หน้ากาล"ชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?❤️หวยเด็ด 12 สำนัก❤️คัดมาให้แล้ว หวยซอง (( ชุดที่ 2 )) ประจำงวด 2 พ.ค. 2567
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาว "เจี๊ยบ" ทำเนียนเดินรวมกับ นร.ญี่ปุ่น..ทำเอาหนุ่ม "บอย" ถึงกับแยกไม่ออกชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธชวนมารู้จักลาบูบู้ มาการอง เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สภาเวทมนต์
โหราศาสตร์สำหรับผู้เริ่มต้นตำนานนอร์ส (Norse Mythology)รู้จักกับรูน (Introduction to Runes)พิจารณาคดี 1/2017
ตั้งกระทู้ใหม่