เป็นตุ๊ด กะเทย เกย์แอ๊บแมนต้องประหาร!!! ส่องประเทศที่ต่อต้านตุ๊ดซีส์ แดนนรกเพศที่สาม อย่าเผลอซุกซนเข้าไปเด็ดขาด
เป็นตุ๊ด เกย์กะเทย แอ๊บแมนต้องประหาร!!! ส่องประเทศที่ต่อต้านตุ๊ดซีส์ แดนนรกเพศที่สาม อย่าเผลอซุกซนเข้าไปเด็ดขาด
การเหยียดเพศในสังคมนั้นมีมานาน ส่วนใหญ่ก็ให้ความสำคัญกับเพศชายเป็นหลัก ตั้งแต่ อาชีพ ตำแหน่ง หรืออำนาจต่างๆ เพศชายจะดูเป็นผู้มีสิทธิมีเสียงมากกว่า ยิ่งใครเป็นบุคคลผิดเพศ บางประเทศถึงขั้นออกเป็นกฎหมาย ให้ได้รับบทลงโทษเลยก็มี เอาง่ายๆ เพียงแค่ในประเทศอาเซียน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย คือกลุ่มประเทศที่ไม่ยอมรับเพศที่ 3 มากที่สุด
ในประเทศมาเลเซีย ถือว่าพฤติกรรมเป็นเกย์ (เลสเบี้ยนไม่เข้าข่าย ) เป็นคดีอาญาร้ายแรงต้องโทษจำคุก 20 ปี และเฆี่ยนประจานกลางที่สาธารณะแต่ในระดับท้องถิ่น ที่มีการใช้กฎหมายชาเรีย ทั้งเกย์และเลสเบี้ยนต้องถูกจำคุก 3 ปี ถูกเฆี่ยน และต้องจ่ายค่าปรับ ในประเทศ อินโดนีเซีย ยังไม่มีกฎหมายต่อต้านเกย์ระดับชาติ แต่ในบางเมืองบางจังหวัดก็นำกฎหมายชาเรียมาบังคับใช้ ใครแสดงออกถึงพฤติกรรมเบี่ยงเบน ก็จะถูกตราหน้า เหยีดหยาม ดูแคลน อาจถึงขึ้นตัดศีรษะเผาทิ้ง นำขี้เถ้าโยนทะเล
ในกลุ่มประเทศอิสลาม ตะวันออกกลาง พฤติกรรมการรักร่วมเพศ เป็นสิ่งกฎหมาย ทั้งใน อิรัก ซาอุดีอาระเบีย อัฟกานิสถาน จอร์แดน อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หากจับได้ต้องโดนทำโทษโดยการโบย จำคุก หนักถึงขั้นประหารชีวิต ที่หนักที่สุดคือในประเทศอิรัก มีการตั้งหน่วยล่าสังหารไล่ล่ากลุ่มเกย์และเลสเบี้ยน จนพวกเขาต้องลี้ภัย หากโดนจับได้ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้ชะตากรรมว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในประเทศ อูกันดา มีกฎหมายต่อต้านคนรักร่วมเพศ ใครที่เป็นคนรักร่วมเพศจะมีโทษถึงประหารชีวิต นอกจากนี้ยังมีโทษจำคุกผู้ที่ไม่ยอมแจ้งให้ทางการทราบว่า ใครมีพฤติกรรมต้องสงสัย หรือบางรายอาจอนุโลมให้รีบย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น
ในประเทศรัสเซียออกกฎหมายห้ามเกย์ ‘เปิดตัว’ ในที่สาธารณะ ป้องกันความเข้าใจผิดที่ว่าคู่รักร่วมเพศเป็นสิ่งปกติเช่นเดียวกับคู่รักชายหญิงทั่วไป คนที่ถูกจับในข้อหาเผยแพร่ความเป็นเกย์ จะถูกจับกุมและปรับเป็นเงิน 200,000 รูเบิล หรือเกือบ 200,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนนักท่องเที่ยวที่ทำผิด นอกจากจะถูกปรับ ยังอาจถูกกักตัวไว้ได้ถึง 14 วัน และส่งตัวกลับประเทศอีกด้วย
ย้อนกลับมายังประเทศไทย นับว่ายังเปิดกว้างมากทีสำหรับเพศที่สาม เพียงแต่ยังไม่มีกฎหมายถึงจุดพีคถึงขั้นให้แต่งงานได้ แต่การใช้ชีวิต และการประกอบอาชีพก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคมากนัก และไม่ได้มีการกีดกัน อาจจะมีบ้างเป็นบางราย อย่างการแสดงออกถึงการเหยียดเพศที่สามตามที่เกริ่นไว้ข้างต้น เมื่อเทียบกันแล้ว เมืองไทยก็ยังเรียกได้ว่า เป็นแดนสวรรค์ของเพศเหล่านี้ ไม่มีกฎหมายเอาผิดอย่างที่ประเทศอื่นๆ ที่ถึงกับต้องประหารชีวิต แล้วตอนนี้ถึงเวลานั้นแล้วหรือยัง?