อีลอน มัสก์เตือน AI จะเป็นต้นเหตุของสงครามโลกครั้งที่สาม
เมื่อประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวออกมาตรง ๆ ว่า “ใครที่ครองอำนาจปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้ก็จะเป็นผู้คุมกฎของโลกในยุคต่อไป” ได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อออกไป
ทำให้ซีอีโอคนดังอย่างอีลอน มัสก์ (ELON MUSK) ต้องออกมาแสดงความเห็นของเขาต่อ AI ต่างหากที่จะเป็นตัวจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สาม ไม่ใช่คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนืออย่างที่หลายคนหวั่นเกรงกัน
โดยสิ่งที่อีลอน มัสก์โพสต์นั้นมีใจความดังต่อไปนี้
ELON MUSK (@ELONMUSK)
“CHINA, RUSSIA, SOON ALL COUNTRIES W STRONG COMPUTER SCIENCE. COMPETITION FOR AI SUPERIORITY AT NATIONAL LEVEL MOST LIKELY CAUSE OF WW3 IMO.”
“จีน รัสเซีย และทุกประเทศที่การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์, การแข่งขันด้านความเป็นเลิศทางปัญญาประดิษฐ์ในระดับประเทศนี้ น่าจะเป็นต้นเหตุของสงครามโลกครั้งที่สาม ในความเห็นของผม”
SEPTEMBER 4, 2017
อย่างไรก็ตาม ความกังวลของอีลอน มัสก์เกี่ยวกับ AI ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้เขาได้เคยร่วมลงชื่อกับผู้เชี่ยวชาญด้านโรโบติกส์จำนวน 116 คนเรียกร้องให้สหประชาชาติแบนการสร้างอาวุธอัตโนมัติที่ประกอบด้วยโดรน และอาวุธสำหรับยิงได้กลางอากาศสำหรับใช้ในการสงครามหรือ KILLER ROBOT มาแล้ว
อีกทั้งหากมีโอกาส อีลอน มัสก์ก็มักให้ความเห็นไปในทิศทางว่า AI นั้นเป็นภัยต่อมนุษยชาติ รวมถึงมีความเป็นไปได้ว่า AI อาจเป็นตัวจุดชนวนการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 มากกว่าผู้นำเกาหลีเหนืออย่างคิมจองอึนด้วย โดยเขามองว่า การส่งขีปนาวุธของเกาหลีเหนือนั้นจะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายก็จริง แต่ผู้ที่จะได้รับผลจากการกระทำหนักที่สุดก็คือเกาหลีเหนือเอง ตรงข้ามกับ AI ที่หากมนุษย์นำมาใช้ไม่ถูกวิธี สิ่งที่หายไปอาจเป็นมนุษย์แทนก็เป็นได้
สืบเนื่องมาจากกรณีที่วลาดิเมียร์ ปูติน (VLADIMIR PUTIN) ประธานาธิบดีของรัสเซียได้เดินทางไปแสดงปาฐกถาให้เด็กนักเรียนในประเทศรัสเซียฟังเมื่อวันศุกร์ที่ 1 กันยายน ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกของระบบการศึกษาในประเทศ
เนื้อหาสำคัญของปาฐกถาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องราวความก้าวหน้าทางวิทยาสตร์เป็นส่วนใหญ่ โดยปูตินยังได้ยกประเด็นเรื่องอันตรายของปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมา ซึ่งเขาเชื่อว่าชาติใดก็ตามที่เป็นผู้นำในงานวิจัยและการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ก็จะกลายเป็นผู้กุมอำนาจเหนือประเทศอื่นๆ ในที่สุด
“ปัญญาประดิษฐ์คืออนาคต ไม่ใช่แค่ประเทศรัสเซียเท่านั้น แต่เป็นเรื่องสำหรับมวลมนุษยชาติทุกๆ คน มันเข้ามาพร้อมกับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ และในขณะเดียวกันก็ยังเป็นภัยคุกคามที่ยากต่อการคาดการณ์อีกด้วย ใครก็ตามที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านปัญญาประดิษฐ์ก็จะกลายเป็นผู้ปกครองโลกใบนี้”
อย่างไรก็ตามปูตินเชื่อว่าคงจะไม่มีชาติใดหรือหน่วยงานใดที่จะกลายเป็นผู้ผูกขาดในวงการของปัญญาประดิษฐ์ “ถ้าพวกเรา (รัสเซีย) กลายเป็นผู้นำด้านวิทยาการปัญญาประดิษฐ์ เราจะเเบ่งปันความรู้และวิธีการให้กับคนทั้งโลก เช่นเดียวกับวิธีการที่เราเเชร์ความรู้เรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ของพวกเราในปัจจุบัน”