จัดสวนเรียกนก-พรรณไม้เรียกนก

27 สิงหาคม 2560 (15:53) โพสท์โดย SBsukhon

+ + + จัดสวนเรียกนก-พรรณไม้เรียกนก + + +

สวนเรียกนก มีองค์ประกอบสำคัญเพียง 3 ข้อ คือ พรรณไม้เรียกนก บ้านนก และอ่างน้ำนก

1. แบ่งพื้นที่สำหรับตำแหน่งวางบ้านนกให้ชัดเจน ควรมีความสูงอย่างน้อย 2 เมตรเพื่อป้องกันแมว หรือหากตำแหน่งที่จะวางอยู่ทางทิศใต้หรือตะวันตก อย่าลืมสร้างชายคาหรือจัดวางไม้กระถางเพื่อสร้างร่มเงา ที่สำคัญต้องติดตั้งบ้านนกก่อนฤดูที่นกจะวางไข่ เชื้อเชิญให้พ่อแม่นกเลือกที่นี่เป็นบ้านหลังน้อย

2. หากคุณพอจะมีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อเรียกนก แนะนำให้ปลูกหมากเหลือง มะละกอ ทองหลาง หรือหางนกยูงฝรั่ง แต่ถ้าหากคุณอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่จำกัด แนะนำให้ปลูกไม้พุ่ม หรือไม้เลื้อยขนาดเล็ก เช่น สร้อยอินทนิล พวงชมพู เข็มเชียงใหม่ พวงแสด และพวงคราม เพราะพืชเหล่านี้เป็นพืชที่นกชอบมากินน้ำหวานและผลเป็นประจำ

3. นกกับน้ำเป็นของคู่กัน และถ้าสังเกตดีๆ นกจะชอบเล่นน้ำ เล่นจนเปียกแล้วจึงใช้ปากตกแต่งขน เพราะนกจำเป็นต้องทำความสะอาดขนเช่นเดียวกับมนุษย์ ผิวน้ำจึงไม่ควรต่ำกว่าขอบบ่อ 2-3 เซนติเมตร และเพิ่มไม้พุ่มรอบฐานอ่างเผื่อกรณีนกอาบน้ำ น้ำที่กระเด็นจะได้ช่วยรดต้นไม้ด้านล่างไปในตัว ดังนั้นอ่างน้ำนกจึงถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะเชื้อเชิญให้นกมาอยู่เป็นเพื่อนของคุณได้แน่นอน

นกบ้านที่ร้องเพลงเพราะมีหลายชนิด ไม่ได้มีเพียงแค่นกที่เราคุ้นเคย อย่างนกกระจิบ หรือนกเขา แต่ยังมีนกสีชมพูสวน นกขมิ้นน้อย นกนางแอ่น และนกกระเบื้องผา ซึ่งต่างก็มีสีสันและขนาดตัวที่น่ารัก แถมเสียงร้องยังสดใสฟังเพลินดีอีกด้วย

+ + + + + พรรณไม้เรียกนก + + + +

สำหรับพรรณไม้บางต้นอาจเป็นเสมือนที่พักพิงของสัตว์ แต่สำหรับ นกตัวน้อยนั้น ต้นไม้บางชนิดเป้นทั้งแหล่งอาหาร และแหล่งพักพิง โดยส่วนใหญ่นกจะชอบกัดกินผล หรือดูดน้ำหวานจากปลีของดอกไม้ มาดูกันว่าพรรณไม้ชนิดใดบ้างที่รับรองว่าปลูกแล้วบรรดานกตัวน้อยบินมายังสวนของคุณแน่นอน

#ผักเสี้ยนฝรั่ง ทนอากาศร้อนและแห้งแล้งได้ดี บำรุงด้วยปุ๋ยสูตร 16 สามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและลงแปลงปลูก

#เล็บมือนาง ปลูกง่าย ชอบดินร่วนปนทราย ชอบแสงแดดและน้ำปานกลาง ปลูกได้ทุกฤดู

#หญ้าหนวดแมว เติบโตได้ในดินทุกชนิด ชอบแดดรำไร หากปลูกกลางแจ้ง ดินต้องมีความชื้น รดน้ำเช้า-เย็น แต่ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ย

#ตะขบ ไม้ต้นขนาดกลาง ความสูงประมาณ 5-7 เมตร เปลือกสีเทา กิ่งแผ่สาขาขนานกับพื้นดิน ตามกิ่งมีขนปกคลุม ขนนุ่ม และปลายเป็นตุ่ม ผลมีลักษณะเป็นลูกทรงกลม ผิวบางเรียบ ขนาด 1.5 ซม. เมื่อสุกจะมีสีแดง รสหวาน

เมล็ด มีลักษณะเล็ก ๆ เป็นจำนวนมาก และผลนี่แหละคือแหล่งเรียกบรรดานกให้มาจิกกินเป็นอาหาร วิธีการปลูกนั้นปลูกง่าย โตเร็ว เจริญเติบโตได้ดีในดินทั่ว ๆ ไป ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หรือต้นที่เกิดขึ้นใหม่

#หว้า เป็นไม้ยืนต้นมีความสูง 10–25 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้าม แผ่นใบรูปรีหรือรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ดอกสีขาว ออกเป็นช่อตามง่ามใบ เกสรยาวเป็นพู่ ผลเป็นผลสดรูปรี ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

#ฝรั่ง เป็นไม้ต้น ขนาดกลาง สูงประมาณ 3-5 เมตร ผิวเปลือกต้นเรียบเกลี้ยง กิ่งอ่อนเป็นสี่เหลี่ยม ใบหนา หยาบ ใต้ท้องใบเป็นริ้ว เห็นเส้นใบชัดเจน ขนขึ้นนวล บางใบยาวประมาณ 10 ซม. กว้างประมาณ 6 ซม. ดอกฝรั่งช่อหนึ่งมีดอกย่อย 3 – 5 ดอก ดอกเล็กสีขาวอมเขียวอ่อน กลีบเลี้ยงแข็ง ผลมีรูปทรงกลม รูปไข่ หรือรูปรี ผิว เกลี้ยง สีเขียว เนื้อในขาว รสหวาน กรอบ หากผลสุกจะมีสีเหลืองเนื้อด้านในนิ่ม เป็นของโปรดสำหรับนกทั้งหลาย

#ต้นไทร เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มีหลากหลายชนิด ใบดกกลม ปลายแหลมมีขนาดประมาณ 3 ซม. ตามกิ่งและลำต้นมีรากอากาศย้อยลงดิน กลายเป็นต้นฝอยช่วยค้ำต้นให้แข็งแรง กิ่งก้านแผ่ให้ร่มเงาสวยงาม ส่วนลูกต้นไทรเป็นลูกกลมเล็ก เมื่อสุกจะมีสีแดงปนเหลือง และเป็นอาหารโปรดของนก

#หม่อน เป็นไม้พุ่มขนาดกลางหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีลำต้นตั้งตรง สูงได้ประมาณ 2.5 เมตร บางพันธุ์สูงได้ประมาณ 3-7 เมตร ผลเป็นผลรวมอยู่ในกระจุกเดียวกัน โดยจะออกตามซอกใบ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกระบอก ยาวประมาณ ผลแรกออกเป็นสีเขียว เมื่อผลสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงเข้มหรือสีม่วงดำ เกือบดำ เนื้อนิ่ม

#มะเดื่อ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ใบเดี่ยว ด้านหนึ่งหยาบ อีกด้านหนึ่งมีขนอ่อน ผลออกเป็นกระจุก ผลอ่อนสีเขียว พอสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดงหรือชมพู สุกแล้วมีกลิ่นหอม

#ตำลึง ไม้เลื้อยสมุนไพรไทย ใช้สำหรับเลื้อยเกาะต้นไม้ใหญ่หรือไม้ปักหลัก มีสีเขียว ดอกออกตรงซอกใบ ผลเป็นวงรีทรงยาวสีเขียวอ่อน เมื่อแก่จัดจะเป็นสีแดง ถือเป็นอาหารสุดอร่อยของนกนานาชนิด