หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อัพเดทเคสแม่ทำร้ายน้องที่เป็นกระแสตอนนี้

อัพเดทเคสแม่ทำร้ายน้องที่เป็นกระแสตอนนี้

ไหนๆก็ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ได้เห็นกระทู้อื่นๆ ลงไว้ อยากให้หลายๆคนทำความเข้าใจในบทสรุปและขั้นตอนวิธีการที่เค้ากำลังดำเนินการอยู่ด้วย....เราอาจจะตัดสินคนๆนึงจากพฤติกรรมที่เรามองเห็นแค่เพียงครั้งแรก ซึ่งอาจเกิดจากความคิดชั่ววูบ หรือภาวะกดดันที่เราไม่อาจจะเข้าใจได้เมื่อไม่ได้อยู่ในสถาณการณ์เดียวกับเค้า....แม้ว่าสิ่งที่เค้าทำมันไม่ถูกต้องและเลวร้ายมากแต่เมื่อเราเข้าใจถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เราอาจจะยั้งใจและทำความเข้าใจพิจารณาไตร่ตรองมากขึ้น ไม่ได้ตำหนิติติงเพียงอย่างเดียว

__

#อัพเดทเคสแม่ทำร้ายน้องที่เป็นกระแสตอนนี้

อย่าตัดสินใจกันเอาเอง แต่ให้ฟังจากคนลงพื้นที่ และผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก ตอนนี้ทั้งครอบครัวเข้ารับความช่วยเหลือจากบ้านพักเด็กแล้วค่ะ น้องปลอดภัยไม่มีรอยขีดข่วน และพวกเขาจะดีขึ้น รู้ว่าสิ่งที่แม่ทำมันไม่น่ารัก แต่ก็ควรให้โอกาสคนที่เส้นสติขาดผึง จนทำอะไรไม่คิด และพร้อมจะปรับปรุงแก้ไขให้อะไรดีขึ้น ถ้าไม่สงสารแม่ ก็อยากให้สงสารน้อง

-------------------------

จากบ่าย คล้อยมาเป็นเย็น และจบวันนี้ที่เวลาตีหนึ่ง ด้วยการส่งทั้ง 3 คนเข้าบ้านพักเด็กฯ กทม. ครับ.... ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนเข้าไปช่วยเหลือ รวมถึงทีม จนท. ชุดต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพราะเคสนี้มีความละเอียดอ่อนในแบบที่ต่างจากภาพที่ก้าวร้าวของแม่ในคลิปโดยสิ้นเชิง
.
.
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นกระแสสำคัญในห้วงวันแม่ จึงกลายเป็น talk of the town ในชั่วเวลาเพียงครึ่งวัน ...​ วินาทีที่ผมได้เบอร์เธอมา โทรหา และเธอรับสายปลายทาง เสียงร้องไห้ระงมพร่ำขอโทษสังคมขออภัยต่อการกระทำของตน .... ทันทีที่ไปถึงห้องพัก พบเด็กน้อยกำลังวิ่งเล่นอย่างสบายใจอารมณ์ดี ไม่มีทีท่าหวาดกลัวแต่อย่างใด ผมสำรวจมองหารอยแผลที่ควรเกิดขึ้นจากการกระทำในคลิป แต่ไม่มีสักรอยครับ ตามเนื้อตามตัวก็ไม่มีบาดแผลสดหรือริ้วรอยใดๆเช่นกัน จึงสบายใจไปได้ไปเปราะหนึ่ง ....
.
.
จากการพูดคุยถามสาเหตุและเรื่องต่างๆ เพื่อดึงข้อมูลจากเธอ .... เธอมีสติดีและยอมรับว่าเกิดเพราะความคิดชั่ววูบจริงๆ เธอได้บทเรียนยิ่งใหญ่ในชีวิตที่ได้เรียนรู้ .... ผมเชื่อเธอนะ และพยายามพูดคุยกับแม่บ้านของอาคาร และพี่สาวของเธอ พบว่าไม่เคยมีประวัติในการตี หรือทารุณลูกชายแต่อย่างใด ทุกคนพูดตรงกันว่าเธอรักลูกและอยู่ติดกับลูกตลอดเวลา ทุกคนย้ำเหมือนกันว่า "เพราะความเครียดที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าจริงๆ ไม่มีใครช่วยเธอได้เลยสักคน"
.
.
จากสาเหตุความระหองระแหงกับสามี ที่ต้องออกไปทำงานในช่วงวันหยุดที่ไม่ใช่คิวประจำของตนเอง แต่ไปทำเพราะช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานและเห็นใจเถ้าแก่ จึงทิ้งครอบครัวไปขับรถหกล้อขนอะไหล่ในวันนี้ ทั้งที่วางแผนกันอย่างดีว่าจะต้องเดินทางไปซื้อเสื้อผ้ามาขายออนไลน์ด้วยกัน ต้องช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องหยิบยืมเงินด้วย .... เมื่อวันนี้ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน สามีออกไปทำงานทิ้งเธอและลูกไว้ห้อง เธอต้องการเงินซื้อนมให้ลูก และอยากคุยถามเรื่องอื่นๆ เธอโทรตามหลายครั้งเพื่อสอบถามเรื่องการขายของและเรื่องนัดหมาย สามีไม่รับสายเธอรวมกว่า 30-50 ครั้ง ไม่อ่านไลน์ไม่ตอบเฟสแต่อย่างใด .... นั่นทำให้เธอเครียดหนักและไม่มีทางระบายออก มิหนำซ้ำยังมีเรื่องราวของ "ภรรยาเก่า" ที่ยังวนเวียนติดต่อกับสามีของเธอ โดยมีความสนิทสนมกับ "แม่สามี" เป็นพิเศษเนื่องจากเป็นคนบ้านเดียวกันอยู่ที่ ตจว. และยังมีหญิงสาวที่ทำงานโทรมาหาสามีเธอเมื่อวันก่อนอีกหลายรอบ .... ความเครียดที่มีอยู่จึงกลายเป็นการคิดวกไปวนมา กลับมาที่ "ทำไมให้ความสำคัญกับคนอื่นเสมอ ครอบครัวต้องมาทีหลังเสมอ" เธอน้อยใจจึงคิดถ่ายคลิปแกล้งทำร้ายลูกประชดสามี ส่งให้ใน inbox ข้อความ ....​ (นี่คือความเครียดส่วนหนึ่งที่เธอเล่าให้ฟังได้ แต่ยังมีอีกกว่าครึ่งที่เธอไม่ได้เล่าออกมา)
.
.
หลังจากนั้นสามีก็โทรกลับมาคุย ได้คลี่คลายเรื่องราวต่างๆไดในระดับหนึ่ง เมื่อแม่ของเธอและพี่สาวเดินทางมาพบเพื่อพูดคุยให้เธอคลายเครียด อาการดีขึ้นจนเธอโอเค ได้เคลียร์กับสามีและมีครอบครัวมาอยู่ใกล้ แม่เธอพาลูกสาวคนโตกลับไปอยู่บ้านด้วยช่วงวันหยุด และเสาร์นี้เธอจะพาครอบครัวไปตามนัดหมายเพื่อไปทำอาหารกินกันที่บ้านพี่สาวย่านรามอินทรา ....
.
.
ช่วงเที่ยงเธอพาลูกเข้านอนกลางวัน และตื่นมาอีกทีช่วงบ่ายที่ผู้คนในโซเชียลรุมกระหน่ำด่าเธอในพฤติกรรมที่ปรากฏบนคลิปที่ "แม่สามี" เป็นคนนำไปโพสต์โดยมิได้ปิดบังทั้งใบหน้าเธอ และใบหน้่ลูกน้อยวัยขวบ 10 เดือน ..... โซเชียลทั้งประเทศกระหน่ำมาที่เธอ จนเธอตั้งรับไม่ทัน สามีก็เพิ่งรู้สึกว่าเป็นความผิดพลาดของเค้าด้วยเช่นกัน แต่ก็คิดไม่ถึงว่าแม่จะเป็นคนนำคลิปนั้นไปโพสต์เอง ....​กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่เธอกลายเป็นผู้ร้ายไปอย่างที่เธอนำเสนอ .... ข้อนี้เธอทราบและยอมรับผิดทุกกรณีในการกระทำของตนเอง
.
.
ผมและ จนท.ตำรวจ ได้พาเธอ ลูกชาย พี่สาวเธอ และแม่บ้านที่สนิทกัน เดินทางไปที่ สน. เพื่อสอบสวน และไปรอบพวกับ จนท.บ้านพักเด็กและครอบครัว กรุงเทพ (หน่วยงานเฉพาะกิจของ พม.) .... ผลการสอบสวนและพูดคุยเชิงลึก พบว่าเป็นเหตุที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายลูก และประกอบกับที่ร่างกายเด็กน้อยก้ไม่มีบาดแผลใดๆด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งเด็กน้อยก็ติดแม่เป้นอย่างมาก ... การสอบปากคำทั้งแม่บ้าน และคนรู้จักตอบตรงกันว่า "สาเหตุมาจากความเครียดจริงๆ" เรื่องราวจึงต้องถูกส่งต่อไปยัง "กระทรวง พม." เพื่อเป็นทีมหลักในการประเมินทุกด้านที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ที่ดีที่สุด ส่วนความผิดด้านกฏหมายก็ดำเนินกันไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในส่วนการจัดการสังคมสงเคราะห์และอื่นๆ จะต้องเตรียมพบกับ "ทีมสหวิชาชีพ" ที่จะเข้ามาร่วมพูดคุยและประเมินเคสนี้อย่างเป็นระบบ อันนี้ต้องเชิญทั้งครอบครัวนี้เข้าสู่กระบวนการ
.
.
ได้ทราบจากปากของ ตร.ผู้ใหญ่ในพื้นที่ ว่า "ย่าของเด็กน้อย" ได้ประสานงานผ่านคนรู้จักมากดดันให้ทาง ตร.ดำเนินคดีกับ "แม่เด็ก" อย่างถึงที่สุด เพื่อต้องการรับหลานชายไปเลี้ยงดู .... ตรงจุดนี้เป็นจุดสังเกตุที่สำคัญสำหรับผมว่า "เกิดอะไรขึ้นในเรื่องนี้กันแน่" ทั้งนี้ผมได้ให้ข้อสังเกตุไว้กับทาง จนท.ตร. ด้วยว่า ต้องแจ้งกับ "ย่าเด็ก" ไว้ด้วยว่า การที่นำคลิปไปโพสต์แบบนั้น ต้องศึกษาเรื่อง "พรบ.คุ้มครองเด็กและเยาวชนฯ" และ "พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ" ด้วย มิใช่จะโพสตือะไรไปเพียงอารมณืและนำไปสู่เรื่องความเสียหายต่างๆ .... จุดนี้น่าสนใจในรูปคดีที่จะเกิดขึ้นครับ .... ซ้ำตอนดึกที่ทีมงานทั้งหมดนั่งรอ "พ่อเด็ก" จนกระทั่ง "ย่าเด็ก/ปู่เด็ก และญาติ" เป็นคนพาพ่อเด็กกลับมาที่ห้อง ช้ากว่าเวลานัดหมายไปเกือบ 2 ชม. ทาง "ย่าเด็ก" มีท่าทีไม่ให้ความร่วมมือในการที่ทาง จนท.บ้านพักเด็กฯ จะขอเชิญครอบครัวนี้คือ "เด็กน้อย/แม่เด็ก และพ่อเด็ก" เข้าไปพักในบ้านพักเด็กฯ กทม. ชั่วคราว เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนตามกระบวนการของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ต้องดูแลกรณีอย่างนี้ตามมาตรฐานและประสบการณ์ ..... จนผมเองต้องออกปากว่า "จนท.เค้าเชิญไปร่วมกันแก้ไขปัญหานะครับ เราอย่าเพิ่มปัญหาดีกว่าไหมครับ หรือถ้าทางคุณแม่อยากให้เกิดปัญหาไปสู่เรื่องอื่นที่ใหญ่กว่านี้ครับ" เธอจึงยินยอมให้ลูกชายเดินทางเข้าไปพักที่บ้านพักเด็กฯ
.
.
01.00 น. การส่งตัวครอบครัวนี้ทั้ง 3 คน จบสิ้นลง ....​พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะเข้าสู่กระบวนการประเมินผลและพูดคุยหาทางออกโดย จนท.ผู้ชำนาญประสบการณ์ด้านนี้โดยเฉพาะครับ .....
.
.
เท่าที่คุยกันกับทั้งพ่อเด็ก/แม่เด็ก และคนให้ข้อมูล ทราบว่า ทั้งคู่พยายามจะแยกครอบครัวออกมาดูแลกันเอง โดยไม่พึ่งพาความช่วยเหลือจากทั้งบ้านย่า และบ้านยาย ชีวิตจึงยังไม่ลงตัวนัก มีขาดมีพร่องไปบ้างเรื่องการเงิน แต่ทั้งสองคนก็กำลังพยายามเดินด้วยขาของตัวเอง .... มีบ้างที่ต้องหยิบยืมเงินจากทั้งย่าและยายของเด็กน้อย ฝ่ายแม่เด็กน้อยพยายามจะออกไปหางานทำเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระสามี แต่ก็ลงเอยด้วยการที่สามีขอให้เลิกทำงานแล้วมาอยู่บ้านเลี้ยงลูก ...​เธอจึงดิ้นรนด้วยการพยายามขายเสื้อผ้าทาง Live FB ครับ ได้กำไรตัวละ 10-30 บาท ก็ยังมีเป็นเงินเข้ามาหมุนเวียนในครอบครัวได้ ....​ผมเห็นความตั้งใจของครอบครัวเล็กๆครอบครัวนี้ครับ ... และหวังว่ากระบวนการในการดำเนินการของทาง จนท.พม. จะช่วยส่งเสริมให้ครอบครัวเล็กๆของเค้าทั้ง 3 คน เดินหน้าต่อไปได้ครับ พ่อเด็กน้อยเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยสนทนามากนัก จึงเป็นอีกส่วนของปัญหาเรื่องการสื่อสารในครอบครัว
.
.
ประเด็นสำคัญคือการเสริมฐานรากของครอบครัวเล็กๆนี้ครับ หากมีแนวทางช่วยเหลือให้เค้าพึ่งพาตัวเองได้ละก็ ผมเชื่อว่าทาง จนท.พม. และทาง จนท.ตร. น่าจะยินดีสนับสนุนหาทางออกที่ดีที่สุดให้ครับ .... ส่วนคดีความก็ว่ากันไปตามเนื้อความของปัญหาและพฤติกรรมครับ
.
.
ท้ายสุดอยากให้ทุกท่านที่ "ด่าแม่เด็ก" ได้เข้าใจเธอสักนิดก็ยังดี ด่าเธอได้ในพฤติกรรมที่ไม่น่าให้อภัยของเธอ ... แต่ต้องเสพความจริงด้วยว่า "เด็กไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด เพราะถ้าสังเกตุให้ดี เธอจะหิ้วคอเสื้อลูกไว้ด้วยเพื่อพยุงตัวเด็ก ทั้งนี้ส่งตรวจร่างกายโดยแพทย์ด้านเด็กที่เชี่ยวชาญเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ"
.
.
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก แหม่มโพธิ์ดำ และ Social Hunter นะครับ
.
.
ส่วนความคืบหน้าด้านคดี และการดำเนินการ ต้องรอจากทาง "บ้านพักเด็กฯ กทม." และทาง "จนท.ตร." นะครับ
.
.
สำหรับผม หมดหน้าที่ในวันนี้ละ ...... ขอบคุณทุกการติดตาม และสนับสนุนครับ
.
.
ปล. ต้องกราบขออภัย "ผู้รู้โซเชียลหลายท่าน" ที่แสดงความคิดเห็นกันในแบบที่เรียกได้ว่า "รู้ดีรู้จริงกว่าคนลงพื้นที่ช่วยเคสแบบผม" หลายเท่านัก ผมรู้เท่าที่รู้ที่เห็นที่ฟังที่ได้สัมผัสกับเคสและคนรอบข้างเท่านั้นเองครับ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
คุณกระต่าย's profile


โพสท์โดย: คุณกระต่าย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: โยนี ณ แจ๊ะ, Aliz Paulin, ชายมิกซ์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รพ.แม่ลาน แจง! "บังชาติ"หรือ"แม่หญิงลี" ไม่ได้เป็นบุคลากรรพ.แม่ลาน หลังบุคคลดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด!CIB ร่วม อย. ทลายแก๊ง ขายอาหารเสริม อาหารหลอกรักษาโรคร้าย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทจดไว้เลย!! 2ตัวล่าง 78ให้มาตรงๆ 1 เมษายน 2567สารก่อมะเร็ง 4 อย่าง ที่ลูกคุณอาจจะได้รับทุกวันชาวเน็ตเมนต์บูลลี่ "เป๊ก ผลิตโชค"..ต้นสังกัดจ่อดำเนินคดีแล้วบ้าไปแล้ว! โพสต์ขายดินสอ 5 ล้าน..อึ้งกว่าคือ มีคนแย่งซื้อถึง 4 คน“กางเกงท้องถิ่นไทย” คุณประโยชน์ด้าน Sustainable Fashionดื่มเบียร์ทำให้อ้วน ความเชื่อหรือความจริง?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
“กางเกงท้องถิ่นไทย” คุณประโยชน์ด้าน Sustainable Fashionลาวขุดพบเจอหีบกะไหล่โบราณ รอการเปิด คาดว่าน่าจะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ!ประเทศในทวีปเอเชีย ที่มีมูลค่าการส่งออกทองคำมากที่สุด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
CIB ร่วม อย. ทลายแก๊ง ขายอาหารเสริม อาหารหลอกรักษาโรคร้าย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท"บิ๊กเต่า" รับหลักฐาน "ทนายตั้ม" ลั่น ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขังWhoscall เปิดให้เช็กข้อมูลหลุด โดยการกรอกเบอร์มือถือ"ทนายตั้ม" หอบหลักฐาน "บิ๊กตำรวจ" รับส่วยให้ "บิ๊กเต่า" ตรวจสอบแล้ว
ตั้งกระทู้ใหม่