หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ชะตากรรมของสาวญี่ปุ่นเพียงคนเดียวบนเกาะร้าง กับผู้ชายอีก 32 คน บอกเลยโหดร้ายสุดๆ....

โพสท์โดย เหมาะล้ำบ่ะเฮ้ย

คุณเคยคิดบ้างไหมว่าหากโลกนี้เหลือคุณเป็นเพียงผู้หญิงหรือผู้ชายเพียงคนเดียว แล้วจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เรื่องที่เราจะมานำเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในอดีต

ผู้ชายญี่ปุ่น 32 คนกับหญิงสาวญี่ปุ่นอีก 1 คน ถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวในเกาะแห่งหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเวลายาวนานถึง 7 ปี ความต้องการ กระหายจากสัญชาตญาณของมนุษย์ทำให้ผู้คนเกิดขาดสติ พวกเขาได้เข่นฆ่ากันเอง เพียงเพราะต้องการแย่งชิงปืน 2 กระบอก กับผู้หญิงอีก 1 คน จนในที่สุดมีผู้เสียชีวิตไปถึง 13 คน เรื่องราวนี้บอกให้รู้ถึงความน่ากลัวของความสัญชาตญาณมนุษย์

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้สิ้นสุดลง จักรวรรดิเยอรมันได้พ่ายแพ้ต่อสงคราม ญี่ปุ่นซึ่งอยู่ฝ่ายพันธมิตร จึงถูกมอบหมายให้ดูแลจัดการอาณานิคมของจักรวรรดิเยอรมันในแถบทะเลแปซิฟิก ส่งผลให้ภายหลังมีบริษัทต่าง ๆ ของญี่ปุ่นทยอยไปลงทุนในแถบทะเลแปซิฟิก และภายหลังได้รวมตัวเป็นองค์กร Nanyo Kohatsu ขึ้น หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง องค์กรนี้ได้ถูกบังคับให้ยุบตัวลงตามสนธิสัญญา GHQ

เมื่อปี 1939  มานามิ มาซาโกะ หญิงสาวจากโอกินาว่าในวัย 16 ปี ได้อพยพจากโอกินาว่าไปยังทะเลแปซิฟิกไปตามพี่ชายของเธอ เธอเดินทางมาถึงเกาะ Bacan และได้ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านกาแฟแห่งหนึ่งบนเกาะนี้ เมื่อเธออายุได้ 18  ปีได้แต่งงานกับชายหนุ่มจากโอกินาว่าที่อยู่บนเกาะ สามีของเธอทำงานอยู่บนเกาะนี้ มีหน้าที่จัดการดูแลผู้ใช้แรงงานตัดต้นมะพร้าวบนเกาะ หลังจากนั้นในปี 1944  พวกเขาถูกสั่งให้ย้ายไปทำงานที่เกาะ Anatahan ซึ่งบนเกาะนี้มีชาวพื้นเมืองอยู่ 20 กว่าเผ่า องค์กรของญี่ปุ่นวางแผนให้เกาะนี้เป็นพื้นที่ปลูกมะพร้าว โดยมีเธอ สามีและ หัวหน้างานอีกคนหนึ่ง รวมทั้งหมด 3 คน เป็นคนญี่ปุ่นที่อยู่บนเกาะนี้ ภายหลังเกาะถูกกองทัพอเมริกันโจมตีทางอากาศ ทำให้สามีของเธอสูญหายไป ภายหลังเธอจึงแต่งงานกับหัวหน้างาน

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปี 1944 เรือประมงจับปลาทูน่าของญี่ปุ่น ได้ถูกโจมตีทางอากาศโดยกองทัพอเมริกัน ทำให้ชาวประมงผู้รอดชีวิตต้องว่ายน้ำหนีตายมาอยู่บนเกาะแห่งนี้ ซึ่งขณะนั้นมีทหารญี่ปุ่น และลูกเรือประมงคนอื่น ๆ อีกรวม 31 คนเพิ่มเข้ามามา รวมแล้วบนเกาะมีคนญี่ปุ่นทั้งหมด 33 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 32 คน และผู้หญิงเพียงคนเดียว

ภายหลังในวันที่ 15 สิงหาคม ปี 1945 ญี่ปุ่นประกาศพ่ายแพ้สงคราม ทหารอเมริกันได้ป่าวประกาศชัยชนะทั่วทั้งเกาะ แต่คนญี่ปุ่นบนเกาะต่างไม่มีใครเชื่อเลยสักคน และภายหลังกลุ่มคนดั้งเดิมบนเกาะ ได้เริ่มทยอยอพยพหนีออกไปจากเกาะ ทำให้ทั่วทั้งเกาะเหลือเพียงคนญี่ปุ่นเพียง 33 คนเท่านั้น โดยที่พวกเขายังคงคิดว่าสงครามยังไม่สิ้นสุดลง

เดือนสิงหาคม ปี 1946 พวกเขาพบซากเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B-29 ของกองทัพอเมริกันลอยมาเกยตื้นบริเวณชายหาด พบปืน 4 กระบอก กับกระสุนอีก 90 กว่านัด หลังจากซ่อมแซมแล้ว ปืนสามารถใช้ได้เพียง 2 กระบอก เวลาผ่านไปจนในที่สุด 「ปืน」 ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจบนเกาะ ใครที่มีปืนไว้ในครอบครองก็จะสามารถครอบครองผู้หญิงได้เช่นกัน จึงทำให้ผู้คนบนเกาะเริ่มเข่นฆ่ากัน ภายหลังมีผู้เสียชีวิตไปหลายคน จึงมีคนตัดสินใจโยนปืนทิ้งไปในทะเลเพื่อตัดปัญหา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เสียที พวกเขาจึงตัดสินใจแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา นั่นคือ ฆ่า 「ผู้หญิง」 นั่นเอง แต่นับว่าโชคดีที่เธอสามารถหลบหนีไปอยู่ในหุบเขาลึกได้ก่อน ผ่านไป 1 เดือน เธอจึงขอความช่วยเหลือจากทหารอเมริกัน จนสามารถหลบหนีออกจากเกาะได้สำเร็จ

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

หลังจากเธอได้กลับมาถึงญี่ปุ่น ก็ได้บอกเล่าเหตุการณ์นี้ และเรื่องราวของผู้รอดชีวิตบนเกาะให้คนอื่นฟัง ทางญาติของฝั่งผู้รอดชีวิตบนเกาะจึงพยายามเขียนจดหมายหาคนบนเกาะเพื่อให้กลับไปญี่ปุ่น แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี และคิดว่าเป็นกลอุบายหลอกล่อของทหารอเมริกัน จนกระทั่งผ่านไป 1 ปี พวกเขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับมาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ปี 1951

หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงญี่ปุ่นก็พบว่าอะไรหลาย ๆ อย่างได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว สามีคนเดิมของเธอได้กลับมาถึงญี่ปุ่นก่อนเธอตั้งนานแล้ว เขาคิดว่ามาซาโกะเสียชีวิตไปแล้ว จึงไปแต่งงานและมีครอบครัวใหม่ ส่วนภรรยาของผู้รอดชีวิตบางคนก็ได้แต่งงานใหม่ หลังจากเรื่องนี้ได้นำเผยแพร่ออกไป ทำให้กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมทันที มาซาโกะได้จัดตั้งละครเวทีเรื่อง 「เกาะ Anatahan」 นำแสดงโดยตัวเธอเอง แต่ภายหลังยังไม่เป็นที่ประสบความสำเร็จนัก จึงทำให้เธอต้องผันตัวไปเป็นสาวนักเต้นระบำ และได้แต่งงานอีกครั้งในวัย 34 ปี เธอได้เปิดร้านเล็กๆ และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย หลังแต่งงานกันได้เพียงไม่ถึง 10 ปีสามีของเธอก็เสียชีวิตลง ส่วนตัวเธอได้เสียชีวิตลงจากอาการเนื้องอกในสมองเมื่อปี 1974 ด้วยวัยเพียง 49 ปี ทิ้งเรื่องนี้ไว้ให้กลายเป็นตำนานเล่าขานต่อไป...

อ่านแล้วต้องยอมรับเลยว่า หากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเช่นนี้แล้ว ก็อาจทำให้มนุษย์แสดงสัญชาตญาณเอาตัวรอดที่แท้จริงออกมา แต่นี่ก็ค่อนข้างโหดร้ายไปจริง ๆ 

ขอบคุณที่มา: http://read:http://www.liekr.com/post_147430.html
แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
64 VOTES (4/5 จาก 16 คน)
VOTED: zerotype, vho, โยนี ณ แจ๊ะ, บางครั้งฟังแจ๊ซ, น้องขนุน, todaysayhi, ซาอิ, thanatan, Dont sweat it, ฮั่วชวี่ปิ้ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?คนไข้วัย 72 ติดเชื้อโควิดนาน 613 วัน ก่อนกลายพันธุ์ในร่างกายกว่า 50 ครั้ง"ลาบูบู้" ไม่รอด โดนเขมรเคลมเรียบร้อยแล้ว..บอกรากเหง้ามาจาก "หน้ากาล"ลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาว "เจี๊ยบ" ทำเนียนเดินรวมกับ นร.ญี่ปุ่น..ทำเอาหนุ่ม "บอย" ถึงกับแยกไม่ออกชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธชวนมารู้จักลาบูบู้ มาการอง เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
วิธีลบ รอยดูด รอยจูบ รอยช้ำ รอยต่างๆ หลังเสร็จกิจกรรมบนเตียงอยากรู้ไหม!! ผู้ชายชอบมองอะไรผู้หญิง??10 เหตุผลที่ผู้ชายชอบผู้หญิง มีน้ำมีนวล อวบอึ๋ม6 จุดเร้าอารมณ์ผู้ชาย
ตั้งกระทู้ใหม่