เปิดตำนานเล่าขานตำนานฤาษี ไทยและต่างประเทศ
ซึ่งเชื่อกันว่าความสงบนั่น ที่จะทำให้เกิดความรู้เห็นเป็นจริงในทุกสรรพสิ่ง ฤาษียุคแรกๆ เมื่อบรรลุณานสมาบัติก็พบประสบการณ์ตรงจากจิตของตน คนพบมิติที่เลื่อมซ้อน ค้นพบจักรวาล และค้นพบสิ่งที่เรียกว่าพระเป็นเจ้า
พูดง่ายๆคือ ฤาษี คือกลุ่มที่แสวงหาสัจธรรม โดยเชื่อเรื่องการเข้าสมาธิฌาน แต่ทั้งนี้วิธีการเข้าสมาธิของเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้มีรูปแบบแน่ชัด ฤาษีบางพวกเน้นโยคะทรมานตนเอง บางพวกเพ่งพระอาทิตย์ บางพวกเพ่งไฟ บางพวกกลั้นลมหัวใจ นอกจากนั้น ฤาษีบางพวกสามารถมีครอบครัวได้ บางพวกเสพกามและปฏบัติธรรมไปด้วย
ฤาษีแม้ว่าจะมีครอบครัวอยู่อย่างหลีกเล้นสักคมไม่ประปนด้วยการเข้าสมาคมกับคนทั้งหลาย
ตอนที่ผู้เขียนเดินทางไปพระธาตุอินทร์แขวน ประเทศพม่ายามเช้าก็จะพบฤาษี ออกจากป่าจากเขาเดินดืนบิณฑบาตปะปนกับพระภิกษุสงฆ์ วัฒธรรมฤาษีในเมื่องพม่ายังเหนียวแน่น ฤาษีในพม่าจะต่างจากฤาษีในไทยลิบลับ เพราะฤาษีในไทยนั้นมีสมาคม ปลุกเสกเลขยันต์ รับแขกเดินทางไปต่งประเทศ
ตอนที่เห็นฤาษีเมื่องพม่าผมนึกถึงเรื่องราวของหลวงพ่อแซม วัดตาก้อง ซึ่งในประวัติของท่านที่เขียนไว้โดนอาจารย์ เทพ สุนทรศาลทูล เล่าว่า หลวงพ่อแซม เคยธุดงค์ไปในเมืองพม่าจนพบกับฤาษี ฤาษีที่หลวงพ่อแช่มท่านเจอเขาอยู่กันเป็นครอบครัว
มีสามีภรรยา และลูกสาวแต่ว่าต่างพากันประพฤติประติบัติธรรม ประพฤติตามแบบฤาษีในเรื่องพระเวสสันดร หลวงพ่อแช่ม เกิดความศัทธาเลยขอเรียนวิชาและฤาษีท่านก็สอนให้
ถัดจากนั้นฤาษีก็บอกให้หลวงพ่อแช่มลองดักนกเขาเผือกดูทุกๆวัน จะมีนกเขาเผือกเสียงร้องไพเราะมากมาร้องแถวบ้านฤาษี
ลองพ่อแช่มลองล่อด้วยอาหารมันก็รู้ทัน ไม่สามารถจับได้สักที หลังจากนั้นหลวงพ่อแช่มลองล่อด้วยนกเขาตัวเมียก็สำเร็จ หลวงพ่อแช่มเลยจับนกเขาเผือกได้ ก็มอบให้อาจารย์ฤาษี อาจารย์ฤาษีเลยเล่าให้ฟังว่านกเขาเผือกตัวนี้เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีเมื่อรับมาแล้วท่านฤาษีก็ปล่อยนกเขาไปตามเดิมเป็นอันว่าฤาษีพอใจในฝีมือของหลวงพ่อแช่มมาก
ฤาษี เป็นลัทธิที่มีอยู่ในทุกศาสนา ย่างศาสนาคริสย์ก็มีฤาษีประพฤติตนแบบสันโดษรับประทานอาหารวันละครั้ง อย่างในสายตาของชนอินดูอย่างท่านโยคานันทะเองก็มองว่า จอนห์ผู้รับบับติสที่แม่น้ำจอร์แดนกับฤาษี หรือ ในบรรดาผู้ที่เผยพระวัจจนะ รวมไปถึงระคริสต์ก็ล้วนประพฤติตนเป็นฤาษีทั้งสิ้น
รูปแบบของฤาษีจึงเป็นนักบวชที่มีกลุ่มในทุกสังคม แต่เป็นนักบวชที่ไม่ได้อยู่ในกรอบ กฏเกณฑ์ของศาสนาจักรที่ตั้งไว้
ในปัจจุบันยังมีฤาษีแท้ๆ อีกจำนวนไม่น้อยที่ซ้อนตัวอยู่ตามป่าตามเขา พวกเขาเหล่านั้นเหมือนนักค้นคว้าหาสัจธรรม ที่ยังทำหน้าที่ของตนเองอย่างซื่อตรง โดยไม่หลงใหลกับชื่อเสียงเงินทองใดๆทั้งสิ้น ส่วนใครจะเจอฤาษีระดับไหน คงจะเป็นเรื่องของบุญวาสนา แต่ทั้งนี้ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องของฤาษีที่ยังดำรงอยู่ในสังคมแบบรูปธรรม เพราะฤาษีเป็นตัวแทนของครูผู้ล่วงลับไปแล้ว อย่างไรก็ตามอำนาจอิทธฤทธิ์ของฤาษีที่เป็นทิพย์เหล่านั้นก็ยังปรากฏเป็นที่ประจักษ์ของบรรดาที่ศรัทธา ว่าอาจดลบันดาลในสิ่งที่ตนปราถนาให้สำเร็จขึ้นได้ด้วยปฏิหาริย์